ไปอังกฤษครั้งล่าสุด เพื่อพาหลานสาวที่เรียนปริญญาโทอยู่ London เที่ยว และเผื่อช่วยหลานเขียน thesis ก่อนจบ พอเข้า London ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ บอส THANN ก็ตกใจที่เจอ tourist ยุโรป อเมริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง เยอะมากจึงนึกที่อาจารย์เคยบอกว่า ฮวงจุ้ยจะย้ายเข้าสู่ยุค 8 ที่ความรุ่งเรืองจะย้ายจากเอเชีย ไปอยู่ที่ยุโรปอีก 20 ปี คุณโอ๋–ฐิติพัฒน์ จึงมีข้อเสนอให้หลานว่า ถ้ายังหางานทำใน London ไม่ได้ ก็ให้ชวนเพื่อนเก่งๆ เปิด shop เเละ spa THANN ที่ Covent garden ซะเลย เดี๋ยว น้าโอ๋ ให้ยืมเงินลงทุน 50% ไม่คิดดอกเบี้ยปีแรก ส่วนอีก 50% ให้เพื่อนๆซึ่งเป็นลูกหลานเศรษฐีไปไถเงินพ่อแม่มาลงทุน
พอยื่นโอกาสให้แล้ว คุณโอ๋ ก็แชร์ประสบการณ์ของตัวเองว่า 20 ปีที่แล้ว ลงทุนตอนแรก 5 แสน และไม่เคยเพิ่มทุน ไม่เคยกู้เงินธนาคารเลย เพราะมีกำไรก็ค่อยๆขยาย พอ export ได้กำไรเยอะ ก็ลงทุนเปิดร้านในไทยสวยๆใหญ่ๆ เงินเหลือก็ไปลงทุนต่างประเทศ เจ๊งบ้าง ดีบ้าง จนมี Top stores อาทิ Central world, Ometosando Hills Tokyo, ION Orchard Singapore, K11 Musea Hong Kong, Kerry Centre Shanghai, Naran Mall Ulaanbaatar Mongolia ส่วน project ที่ลงทุนเยอะสุด คือ THANN อยุธยา เพราะใช้เงินสดไป 700 ล้าน ซึ่งที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องกู้แบงก์เลย เพราะมีหลักสำคัญคือ R&D ต้องเก่ง นำหน้าเรื่อง cosmetic technology เช่น เทคโนโลยี Emultech ใน Bath & massage oil ทำให้ล้างออกง่าย natural ingredients ต้องเลิศ เช่น Shiso extract อัดแน่นด้วย vitamin A C E rosemarinic acid packaging design ต้องสวย เครื่องจักร และ knowhow การผลิตต้อง world class เช่น patented technology ผลิต mask sheet อยู่ที่ไต้หวัน หรือ facial serum ที่ฝรั่งเศส ถ่ายทอดวิทยายุทธ์หมดพุงแล้ว คุณโอ๋ ซึ่งกระเป๋าฉีกเพราะพาหลานไปกินตามร้านอาหารดังๆเพื่อกล่อมให้ทำธุรกิจเอง ก็กลับมาเตรียมเปิด THANN flagship store ที่ One Bangkok ซึ่งจะมีทั้ง retail spa onsen และ art space ซึ่งเป็นสาขา THANN ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะเชื่อว่า คงไม่เห็นอะไรสวย และยิ่งใหญ่เท่า One Bangkok ไปอีกเป็นสิบปี.
...
พอได้ข่าวน้ำท่วม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อนฝูงก็โทร.ถาม นงนุช นามวงศ์ ซึ่งไปใช้ชีวิตส่วนใหญ่เป็น “แม่อุ้ย” อยู่ที่ “บ้านสวนสารภี” บ้านเกิด พอเห็นภาพน้ำท่วมทั่วบริเวณบ้านทุกหลังในบ้านสวน สูงระดับเอว จนต้นลำไยอายุกว่า 100 ปี ล้มทับบ้านพี่สาวในบริเวณเดียวกันหายไปครึ่งหลัง ก็ตกใจ ซึ่ง แม่อุ้ยนุช เล่าว่า คนแก่อายุเกือบแปดสิบกันทั้งนั้นในหมู่บ้าน บอกว่าคราวนี้หนักหนา แบบไม่เคยเห็น เพื่อนฝูงทางกรุงเทพฯ ที่เคยไปบ้านสวนสารภี และได้รับการดูแลอย่างดีจากชาวสารภี ที่เต็มไปด้วยมิตรจิตมิตรใจ จึงส่งความช่วยเหลือไปทันที โดยเฉพาะ โชติโรจน์-กรกช วงศ์วรรณ ที่กำลังลงพื้นที่ช่วยคนเดือดร้อนจากน้ำท่วม ก็รีบส่งคน เอากระสอบทรายไปช่วยกั้นน้ำ ไม่ให้บ้านทั้ง 5 หลังในบ้านสวนเสียหายมากไปกว่านี้ และยังส่งอาหารไปให้ แม่อุ้ยนงนุช จึงตั้งเตาฟืนหน้าบ้าน หุงข้าว ทำกับข้าว เลี้ยงคนงานที่มาช่วย และแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ถึงลำบาก คุณนุช ก็ยังยิ้มได้ โดยคิดว่า คนอื่นเดือดร้อนมากกว่านี้ และที่เพื่อนๆรุมกันช่วย ก็ทำให้ปลื้มใจมีกำลังใจ ถึงจะเดือดร้อนก็แค่ปรับไลฟ์สไตล์ให้อยู่กันได้ เช่น จากทุกเช้าที่ออกกำลังโดยว่ายน้ำในสระ ตอนนี้ ก็เปลี่ยนเป็นพายเรือไปทั่วบ้าน แล้วก็ไปช่วยกันทำอาหาร พอมีคนมากินด้วยเยอะๆก็สนุก เพราะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากนั่งโต๊ะ เป็นกินบนเรือ แล้วคิดเสียว่าเหมือนปิกนิก.
โสมชบา
คลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม