เป็นผู้หญิงเก่งที่ทำงานหลากหลายบทบาท สวมหมวกหลายใบ ทำงานจนเป็นที่ยอมรับในสังคม ล่าสุด มาดามแป้ง-นางนวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะที่ปรึกษาขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ลุยลงพื้นที่ครั้งแรกไปพร้อมกับองค์การยูนิเซฟ เพื่อเยี่ยมเด็กข้ามชาติและเด็กไร้สัญชาติที่โรงเรียนบ้านป่าบง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆนี้
ในการนี้ คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับคุณนวลพรรณ ล่ำซำ การอุทิศตนและการสนับสนุนอันมีค่าของคุณนวลพรรณจะช่วยให้เราสร้างอนาคตที่สดใสให้แก่เด็กๆ ซึ่งรวมถึงเด็กๆที่เราได้พบเจอในจังหวัดเชียงใหม่ ความร่วมมือของเราจะเป็นพลังยกระดับความเป็นอยู่ของเด็กทุกคน เพื่อให้พวกเขาเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและมีโอกาสพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้าน เซเวอรีน เลโอนาร์ดี รองผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ซึ่งเดินทางลงพื้นที่พร้อมกับมาดามแป้ง กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่งของรัฐมีการจัดการเรียนการสอนให้แก่เด็กข้ามชาติ โดยจำนวนเด็กข้ามชาติในวัยเรียนมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคตเนื่องจากอัตราการเกิดในกลุ่มประชากรไทยที่ลดลงประกอบกับการเดินทางข้ามพรมแดนที่เพิ่มขึ้น การศึกษาเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน การประกันการศึกษาสำหรับเด็กข้ามชาติไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่จำเป็นและถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคตร่วมกันอีกด้วย ขณะที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เด็กข้ามชาติจะกลายเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต
...
สำหรับในฐานะที่ปรึกษาขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย “มาดามแป้ง” จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยยูนิเซฟสร้างความตระหนักถึงความท้าทายต่างๆที่เด็กในประเทศไทยยังคงต้องเผชิญควบคู่ไปกับการรณรงค์ขับเคลื่อนเรื่องสิทธิเด็กและสนับสนุนยูนิเซฟในการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่ง “มาดามแป้ง” เปิดใจว่า แป้งคิดเสมอว่า ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของทุกประเทศคือมนุษย์ ซึ่งการจะพัฒนาให้มีศักยภาพได้นั้นต้องมีรากฐานการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว และระบบการศึกษาตั้งแต่วัยเด็ก เด็กทุกคนต่างก็มีศักยภาพและเปรียบได้เหมือนกับกระดาษขาว และการศึกษาที่มีคุณภาพในระดับชั้นต่างๆก็จะเป็นเหมือนสีที่เข้ามาแต่งเติมชีวิตของเขาให้สวยงาม ดังนั้นการที่เด็กในประเทศไทยทุกคน รวมถึงเด็กข้ามชาติได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาในโรงเรียนไทยเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยความมุ่งมั่นของบุคลากรที่น่ายกย่องทุกคน โรงเรียนแบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังมีที่เชียงราย แม่ฮ่องสอน กรุงเทพฯ และอีกหลายๆจังหวัด ด้วยความตั้งใจจริงแป้งอยากจะให้คำมั่นว่า จะพยายามทำทุกอย่าง จะอาศัยความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และความถนัดที่มี มาช่วยพัฒนาเด็กทุกคนไปด้วยกัน
สำหรับโรงเรียนบ้านป่าบง ซึ่งมีนักเรียนจำนวน 126 คน ในชั้นอนุบาล-ป.6 นักเรียนเกือบทั้งหมดเป็นเด็กข้ามชาติและเด็กไร้สัญชาติซึ่งครอบครัวอพยพมาจากประเทศเมียนมาเพื่อมาทำงานในสวนพริก-กระเทียมและลำไยในจังหวัดเชียงใหม่นั้น โดยทางยูนิเซฟได้สนับสนุน “รถห้องสมุดเคลื่อนที่” เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กๆ โดยรถห้องสมุดเคลื่อนที่จะบรรจุหนังสือเด็กและสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์มากมาย พร้อมนักเล่านิทานประจำรถซึ่งจะมาสอนภาษาไทยและจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้กับเด็กๆอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบัน รถห้องสมุดเคลื่อนที่ของยูนิเซฟเดินทางไปยังโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ห่างไกลใน 5 จังหวัดชายแดนของประเทศไทย โดยเข้าถึงเด็กๆกว่า 8,000 คน.