เป็นพี่น้องคู่สวยเก่ง ที่ตัวติดกันเหมือนฝาแฝด พอน้องสาว พันตรีหญิง พญ.ญาณินสิริ งาทวีสุข บอกว่าจะไปเรียนต่อที่เนเธอร์แลนด์ พี่ทิปปี้–ชลรัศมี งาทวีสุข ก็เริ่มอยู่ไม่ติด ที่ต้องห่างกันไกล แต่เมื่อได้ยิน คุณหมอเชง–ญาณินสิริ อธิบายว่า ทำไมถึงอยากไป คุณทิปปี้ ก็อนุโมทนา เพราะน้องสาวซึ่งเรียนจบแพทย์ศิริราช และไปเรียนต่อจักษุแพทย์ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า แล้วกลับไปเรียนต่อด้าน “ม่านตาอักเสบ” ที่ศิริราชอีกครั้ง บอกว่า เมืองไทยมีหมอด้านม่านตาอักเสบเพียง 30 กว่าคน แต่ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้คนไข้หลายคนต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งพบว่าส่วนมาก มีความลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเป็นโรคเรื้อรัง อาการคือ ตาแดงสู้แสงไม่ได้ การมองเห็นลดลง เจ็บตา น้ำตาไหล ซึ่งต้องติดตามรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน และยาบางตัวมีราคาแพง

คุณหมอเชง จึงคิดห่วงไปถึงเด็ก เพราะหมอเด็กด้านม่านตาอักเสบเป็นสาขาขาดแคลน และในไทยยังไม่มีใครทำวิจัยเรื่อง ม่านตาอักเสบในเด็ก อย่างจริงจัง จึงคิดว่าจะเป็นประโยชน์มาก ถ้าสามารถใช้วิชาชีพช่วยเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลนได้ จึงเลือกไปเรียนต่อที่เนเธอร์แลนด์ เพราะที่นั่นมีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับม่านตาอักเสบในเด็ก และมีคลินิกที่มีคนไข้เด็กที่เป็นโรคนี้หลายแห่ง ทำให้มีโอกาสไปเรียนรู้การรักษา และการใช้ยากับคนไข้ จากหมอที่มีประสบการณ์ จึงติดต่อไปที่ University Medical Center Utrecht (UMC Utrecht) ซึ่งตอบรับทันที ซึ่งหลังจบมา คุณหมอเชง ก็จะเป็นหมอตาคนแรกที่รักษาม่านตาอักเสบในเด็ก--จึงทำให้พี่น้องสองสาวต้องแยกกันนานที่สุด คือ 1 ปี

...

เพื่อให้เห็นว่า น้องจะใช้ชีวิต 1 ปีที่นั่นอย่างสุขสบาย คุณทิปปี้ จึงบินไปส่ง หมอเชง ที่เนเธอร์แลนด์เอง จัดการที่อยู่ที่กินให้เรียบร้อย แล้วก็กลับมาน้ำตาซึมในวันวาเลนไทน์ เพราะได้รับดอกไม้ช่อสวย พร้อมการ์ดซึ้งๆ ซึ่งน้องรัก หมอเชง–เชอลีน แอบไปสั่งไว้ให้ก่อนเดินทาง.

@@@@@@

โลกนิ่งไปเกือบสามปี ตอนนี้นักเดินทางต่างเตรียมท่องโลก รวมทั้ง คุณน้ำอ้อย–พิมพวรรณ เบญจฤทธิ์ ซึ่งเป็นนักเดินทางตัวเอ้ ไปมาทุกมุมโลก และไปได้หมด ไม่ว่าไปเจอว่าตอนไปดำน้ำต้องนอนห้องเดียวกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน คุณน้ำอ้อย ซึ่งกินอยู่ง่าย ก็ไม่เดือดร้อน เพราะเล่นกีฬาสารพัดมาตั้งแต่เด็ก แต่ที่ชอบสุดคือดำน้ำ ซึ่งในช่วง 40 ปี

คุณน้ำอ้อย ดำน้ำมาทั่วโลกหลายร้อยไดฟ์ ทริปที่ประทับใจมากๆ คือที่ หมู่เกาะราชาอัมพัต อินโดนีเซีย สวรรค์ของนักดำน้ำ ซึ่งกลางปีนี้ จะไปอีกครั้ง กับที่ กาลาปากอส เพราะก่อนไป คุณน้ำอ้อย มีอุบัติเหตุเอ็นขาด ต้องนั่งวีลแชร์ และหายไม่ทันเดินทาง แต่ก็ตัดสินใจไปเพราะค่าทริปแพงมากและไปยาก และลงดำน้ำเหมือนเดิม ซึ่ง คุณน้ำอ้อย ซึ่งเป็นนักดำน้ำระดับ Divemaster ก็ผ่านมาได้อย่างสบาย ทำให้ไม่ยั่นที่จะไปเดินเขาที่ญี่ปุ่น ทั้งๆที่ก่อนไปนิ้วเท้าหัก ก็ยังไปทั้งๆที่ดามนิ้วไว้

เที่ยวและเล่นกีฬามามากต่อมาก ขาดอย่างเดียวที่ คุณน้ำอ้อย ถูกเพื่อนหมอห้ามไว้คือ บันจี้ จัมพ์ เพราะไม่เหมาะกับสาววัย 64 คุณน้ำอ้อย จึงสลายพลังทางอื่น โดยว่ายน้ำ เจ็ตสกี เดินป่า ปีนเขา และกีฬาเอกซ์ตรีมทุกชนิด เช่น ซิปไลน์ โรยตัวจากหน้าผาที่ลาวลงมา 1,000 เมตร และกระโดดร่มที่นิวซีแลนด์ โดยไม่เคยฝึกมาก่อน และกลางปีจะไปดำน้ำที่ราชาอัมพัตอีกครั้ง.

โสมชบา

...