พาย้อนความทรงจำดีๆไปสู่วิถีชีวิตของครอบครัวคนไทย ที่หลายเจนเนอเรชั่นในครอบครัวเดียวกันมักปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆกัน แต่ด้วยความจำเป็นของวิถีชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตอบอุ่นแบบครอบครัวใหญ่กลายเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อส่งเสริมให้ครอบครัวใหญ่ได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกันอีกครั้ง ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์เด่นมาแรงของวงการที่อยู่อาศัยยุคใหม่ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ภูมิใจนำเสนอโครงการใหม่ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า” ที่หลายวิลล่าถูกเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้ครอบครัวขยายที่ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเจนเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่น ทว่า ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวของตัวเอง โดยพร้อมเผยโฉมวิลล่าหลังแรกในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
ภายใต้การนำของ “ชาคริต หัสสรังสี” ผู้อำนวยการอาวุโสค่ายแมกโนเลียฯ บอกเล่าว่า นี่เป็นแนวคิดใหม่ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของครอบครัวคนไทย ที่หลายเจนเนอเรชั่นในครอบครัวเดียวกันมักจะปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆกัน แต่ด้วยความจำเป็นของวิถีชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตตามแบบที่เคยเป็นมา กลายเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า” จึงมุ่งส่งเสริมให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกันอีกครั้ง ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดี และตอนนี้ทางโครงการพร้อมแล้วที่จะเชิญครอบครัวที่สนใจเข้าชมบ้านจริงได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป
...
“มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า” ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวที่ออกแบบโดย “Foster+Partners” โดยแต่ละวิลล่ามีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1,000-1,700 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 185-310 ล้านบาท ออกแบบให้มี 3 ขนาด ตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน ตั้งกระจายตัวอยู่บนที่ดินพื้นที่ 26 ไร่ ภายในอาณาจักร “เดอะ ฟอเรสเทียส์” โครงการมิกซ์ยูส ขนาด 398 ไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยวิลล่าหลังใหญ่ที่สุดมีห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้ทั้งครอบครัวที่มีสมาชิกทุกเพศทุกวัย สามารถมารวมตัวทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันได้ในบ้านหลังเดียว โดยบางวิลล่าสามารถนั่งล้อมโต๊ะทานข้าวกันพร้อมกันได้ถึง 20 คน นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดต่างๆในการออกแบบก่อสร้างที่ใส่ใจและพิถีพิถันสูงสุด มุ่งเน้นความยั่งยืนสำหรับทุกชีวิต เช่น การออกแบบและก่อสร้างของ MQDC จะใช้หลัก “For all well-being” ไม่ได้คำนึงถึงเฉพาะคน แต่ยังให้ความสำคัญกับสัตว์ต่างๆให้สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทำร้ายกัน
...
อีกหนึ่งผู้อำนวยการอาวุโสของแมกโนเลียฯ “รุ่งโรจน์ จงศุจิพันธุ์” ประสานเสียงว่า นอกจาก “มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า” จะเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในอาณาบริเวณที่ใกล้ชิดติดกับพ่อแม่ หรือลูกที่โตแล้ว ยังมีแนวคิด ที่จะช่วยให้เจ้าของบ้านได้มี “โบนัสเวลา” เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวที่เพิ่มขึ้น โดยทุกเจนเนอเรชั่นซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่ออกแบบเหมาะกับความต้องการของตัวเอง จะสามารถไปมาหาสู่กับสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว โดยการเดินไปหาเพียงไม่กี่นาที ครอบครัวจะสามารถช่วยกันเลี้ยงเด็กๆได้ รวมทั้งช่วยกันดูแลพ่อแม่ที่อายุมากแล้วได้สะดวกสบายขึ้นโดยไม่จำกัดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เป็นการประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างบ้าน ซึ่งจะทำให้ครอบครัวมีเวลามากขึ้นสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นโครงการเมืองที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น และมีความสุขมากขึ้น.