ร่วมชูคุณค่าอัตลักษณ์ล้านนา ส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวของภาคเหนือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ, จังหวัดเชียงราย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย และองค์กรท้องถิ่น รวมทั้งสิงห์ปาร์คเชียงราย, ไร่ชาฉุยฟง, วัฒนธรรมจังหวัด และขัวศิลปะเชียงราย จัดงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง” เพื่อสร้างสีสันต้อนรับลมหนาวเอาใจนักท่องเที่ยว กับการรังสรรค์ผสานเรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่าแห่งล้านนา
ภายในงานพบกับต้นคริสต์มาสหมอกพันวา ภายใต้คอนเซปต์ “พันดารกา” ถักทอ ด้วยผ้าธรรมชาติและวัสดุในท้องถิ่น สื่อถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ เถาสน ไหมย้อมสี ผ้าฝ้าย และหญ้าแฝก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลายปักผ้าและของตกแต่งบนเครื่องแต่งกายของ 6 ชนเผ่าต่างๆในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อาข่า ลาหู่ ลัวะ ไทใหญ่ ไทลื้อและม้ง ที่แต่ละชนเผ่ามีอัตลักษณ์การแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป เช่น การประดับโลหะที่หมวก การปักลวดลายประจำเผ่าหรือประดับผ้าแถบสีสันสดใส สำหรับยอดต้นคริสต์มาส ประดับด้วย “ต๋าแหลว” ที่มักจะใช้ในพิธีกรรมล้านนา เช่น พิธีสืบชะตาหรือประดับไว้ตรงประตู มีลักษณะเหมือนกับกระจกแปดทิศ เพื่อดักความชั่วร้าย สำหรับ “ต๋าแหลว” สีทองจะสื่อถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ในเชียงรายที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
...
ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้า หลวงฯ เปิดเผยว่า ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา ตั้งชื่อตามความยาวของงานผ้าทอมือขนาด 1,000 วา หรือ 2,000 เมตร เป็นการร่วมมือกันของชาวบ้าน กลุ่มชนเผ่าบนพื้นที่ดอยตุงที่ใช้เวลาว่างมาร่วมแรงร่วมใจถักทอผ้า ส่วนคำว่า “หมอก” นำมาจากการที่จังหวัดเชียงรายจะเกิดปรากฏการณ์ชมหมอกที่สวยงามในช่วงต้นเทศกาลคริสต์มาส โดยปีนี้ตกแต่งภายใต้คอนเซปต์ “พันดารกา” หมายถึง “ดาวนับพันดวง” ที่เชียงรายเก็บมาแบ่งปันให้กับทุกคน เพราะความสวยงามที่โดดเด่นแห่ง จ.เชียงราย ที่มีดอยและภูเขา เหมาะกับการชมความงดงามแห่งดวงดาวมากมาย และยังหมายถึงการแบ่ง “ปัน” ความสุข สดใส ในช่วงเทศกาล ส่งท้ายปี โดยการใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และการสื่อถึงวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายอัตลักษณ์แห่งชาติพันธุ์ของเชียงรายที่สอดประสานกันในแต่ละชั้นเพื่อแสดงถึงความหลากหลายที่สามารถอยู่รวมกันได้อย่างกลมเกลียว
นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดงานดอกไม้ Chiangrai Dancing Flower (วันที่ 1-7 ธ.ค. 65) “Wish Upon A Star กอดหมอก มองดาว” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว และภูชี้เดือน ด้วยสวนดอกไม้นานาพันธุ์ศิลป์ สร้างบรรยากาศด้วยเสียงดนตรีร่วมสมัย พร้อมกับการตกแต่งประดับประดาด้วยเหล่ามวลดอกไม้ ต้นไม้หลากสีสัน และดวงดาว ต๋าแหลว ประดับประดาทั่วศูนย์การค้าฯ พร้อมเลือกซื้อสินค้าชุมชน งานหัตถกรรมชนเผ่าแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม รวมถึงสินค้าจากไร่ชา ฉุยฟง แหล่งเพาะปลูกใบชาชื่อดังในจังหวัดเชียงราย มานั่งจิบชาไปพร้อมกับการทานของหวานที่มีส่วนผสมของชาเขียว และอีกหนึ่งไฮไลต์จากสิงห์ปาร์คเชียงราย ได้นำครัวภูภิรมย์มาทำเมนูชิมอาหารที่เป็นชื่อร้าน คือ สลัดภูภิรมย์, หมี่ผัดภูภิรมย์, ไก่ย่างภูภิรมย์ และอาหารที่ปรุงจากใบชา ยอดชาสดทอดกรอบ พร้อมกันนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นส่งตรงจากดอยสู่ภาคพื้นดิน วันนี้จนถึงวันที่ 31 ม.ค.66 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย.