การเตรียมความพร้อมพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เป็นสูตรความสำเร็จของ นายสัตวแพทย์ ดร.ธนวรรษ เทียนสิน ผู้บริหารคนไทยที่มากความสามารถ จนได้ก้าวสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการด้านปศุสัตว์และสุขภาพสัตว์ (Director of Animal Production and Health Division) องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คนไทยคนแรกในด้านนี้ ความมุ่งมั่นในการทำงานของเขาเป็นตัวอย่างหนึ่ง ให้แก่คนรุ่นใหม่

เส้นทางการทำงานของ นายสัตวแพทย์ ดร.ธนวรรษ เทียนสิน เริ่มมาจากครอบครัวที่มีฟาร์มหมูในต่างจังหวัด จุดประกายให้เขาสนใจเรียนทางด้านสัตวแพทย์ โดยเล่าว่า สมัยก่อนที่บ้านทำฟาร์มหมู เวลาสัตว์เป็นโรคในต่างจังหวัด บางอำเภอก็ไม่มีสัตว แพทย์ เราเองก็แก้ปัญหาเองไม่ได้ ทำให้อยากที่จะเรียนด้านนี้ ซึ่งพอจบคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชีวิตการทำงานเริ่มต้นจากกรมปศุสัตว์ สำนักปศุสัตว์เขต ที่สุราษฎร์ธานี ก่อนที่จะได้รับโอกาสไปปฏิบัติหน้าที่ภายใต้โครงการ Young Professional Programme ณ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ สํานักงานประจําภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ที่กรุงเทพฯ จากนั้นจึงมีโอกาสทำงานทางด้านต่าง ประเทศ เริ่มจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ณ สํานักงาน ที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจํากรุงบรัสเซลส์ หลังจากนั้นได้ก้าวไปทำงานอีกหลากหลายหน้าที่ และได้ไปเรียนต่อปริญญาโทและเอก ด้านระบาดวิทยาทาง สัตวแพทย์และเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอูเทรคต์ ที่เนเธอร์ แลนด์ ตำแหน่งสุดท้ายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คือ อัครราชทูต (ฝ่ายเกษตร) ทําหน้าที่ผู้แทนถาวรไทย ประจําสหประชาติ ณ กรุงโรม (FAO, IFAD และ WFP) ก่อนที่จะถูก เชิญให้สมัคร และสามารถ ก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้อำนวย การด้านปศุสัตว์และสุขภาพสัตว์ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)

...

“ผมได้รับการทาบทามจากทาง FAO ให้เข้าสู่ กระบวนการคัดเลือกสรรหาในตำแหน่งนี้ ซึ่งว่างมา 2 ปี เขาก็เชิญคนทั่วโลกมีประมาณ 20 กว่าคน โดย จะมีการสัมภาษณ์ รอบที่ 1 รอบที่ 2 จนสุดท้ายก็ประกาศและได้แจ้งรัฐบาลไทยให้รับทราบว่าตอนนี้ทาง FAO ให้ผมดำรงตำแหน่ง ซึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผมคนเดียวที่อยู่ในระดับนี้ มาจนวันนี้รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดี การทำงานในเวทีโลกจริงๆมีความซับซ้อน สิ่ง เหล่านี้ไม่ได้ถูกสอนมาในมหา วิทยาลัย และผมเชื่อว่าทุกคนทำ ได้แค่มานั่งประชุม แต่นั่งประชุมแล้วสามารถสร้างบทบาท มีปากมีเสียง มีเกียรติภูมิเป็นที่ยอมรับในเวที คือความยากและเป็นความท้าทาย แล้วทำอย่างไรให้บทบาทเราพอดีๆ คือไทยไม่ได้เป็นประเทศยักษ์ใหญ่ จะพูดเสียงดังมากก็ไม่ได้ แต่ไม่พูดเลยก็ไม่ต้องส่งใครมาก็ได้ถ้ามาแล้วไม่พูด สุดท้ายเราต้องวางสถานะไทยให้มีบทบาทเหมาะสม ให้ทุกคนเห็นว่าไทยมีความสำคัญในด้านเกษตร ความคิดเห็นของประเทศไทยเป็นความคิดที่น่าสนใจ ข้อคำแนะนำของไทยเป็นทางออกให้กับสังคมโลก เวทีโลก ทำให้ทุกคนไปสู่เป้าหมายเดียวกัน”

ผู้บริหารคนเก่งได้บอกสูตรสำเร็จของการทำงานว่า เวลาทำงานทำให้เต็มที่ และสนุกกับการทำงาน เพราะว่าถ้าเราสนุกในทุกขณะที่ทำงานจะทำให้เรามีความสุข แล้วเราก็ต้องเตรียมความพร้อม คนเราเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความพร้อม เมื่อโอกาสมาก็ต้องกล้าตัดสินใจที่จะทำอะไร และต้องคิดบวกเข้าไว้ “ความจริงผมเป็นเด็กต่างจังหวัดอยู่ชายแดนภาคใต้ที่ปัตตานี เราไม่คิดว่าวันนี้เราจะมี โอกาสได้ร่วมประชุมกับผู้นำโลกในหลายๆโอกาส กว่าจะมาถึงจุดนี้ผ่านกระบวนการเรียนรู้ สิ่งหนึ่งก็คือ ถ้าต้องทำงานด้านการต่างประเทศ ก็ต้องเตรียมมาเรื่อยๆ ผมไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวยเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เด็ก จึงได้ขวนขวายไปเรียนพิเศษ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ไปสมัครงานทำงานเบอร์เกอร์คิง ที่สนามบินดอนเมือง ด้วยเหตุผลว่าจะได้ฝึกภาษา อังกฤษ ก็ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ พอได้มีโอกาสไปทำงาน FAO ได้เรียนรู้การทำงานองค์กรระหว่างประเทศ จากนั้นก็เรียนรู้เองไปเรื่อยๆ ทำงานจนถึงวันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราต้อง ไปเรียนต่อ เวลาทำงานเราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ทุกวัน แม้กระทั่งวันนี้ผมเองยังต้องพัฒนาไปเรียนภาษาที่เห็นว่าจำเป็นครับ”...นี่คือเคล็ดลับความสำเร็จของผู้บริหารที่มาก ความสามารถคนนี้.

...