ปี 2566 ตรงกับปีนักษัตร “ปีเถาะ” มีสัญลักษณ์เป็น “กระต่าย” แต่จะเป็นปีแห่งความสดใส เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่กระโดดไปกระโดดมา มีความปราดเปรียว หรือจะเป็น “กระต่ายหงอย” เพราะเจอสารพัดวิกฤติเล่นงานต่อเนื่องตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโควิด-19 ก็ต้องขี่จักรยานติดตามดูกันต่อไป

ดังนั้น เพื่อเป็นอีกตัวช่วยในการตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจในปีนี้ “ทีมเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” จึงได้ขอคำแนะนำจาก โหรดัง มาช่วยส่องชี้ทางเป็น “ข้อมูล” ประกอบให้พออุ่นใจ ไว้เป็นข้อมูลเผื่อเหนียว เวลาเจออะไรจะได้ไม่ตื่นตกใจ จนกลายเป็น กระต่ายตื่นตูม!!!

“รุ่งรัตน์ สมบุญธรรม”
หมอจุ๊บ ไพ่เทพ ผ่าดวง

ปี 2566 ดวงเมืองไทย แม้ดาวมฤตยูจะเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว แต่ดาวราหูยังอยู่ ฉะนั้นการดำรงชีวิต การทำธุรกิจ อย่าประมาท ต้องศึกษาให้ได้ข้อมูลก่อนจะลงทุน อย่าโหนตามกระแส จะไปไม่รอด ต้องใช้สติให้มาก

...

เมื่อดาวราหูยังเข้าอยู่ก็จะมีผลต่อธุรกิจสีเทา ที่จะมีความวุ่นวายตามมา ใครที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องระวัง!!

การใช้ชีวิต การทำธุรกิจ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ต้องเรียนรู้ความเป็นธรรมชาติของธุรกิจด้วย การเปลี่ยนแปลงตามทิศทางของสถานการณ์ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด อีกทั้งสังคมยังคงอยู่ในช่วงสีเทา มีโจร ขโมยชุก จากปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ปัญหายาเสพติดและการพนัน และจะเห็นข่าวรายวันเกี่ยวกับการโจรกรรมชิงทรัพย์มากขึ้น

สำหรับธุรกิจที่จะกลับมาคึกคัก คือ ธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่องเที่ยว เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่การกลับมาคึกคักครั้งนี้จะเป็นลักษณะค่อยๆ พลิกฟื้น และรูปแบบการให้บริการจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ส่วนธุรกิจดาวรุ่ง ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวกับออร์แกนิก เพราะคนจะหลีกหนีความวุ่นวายของชีวิตเมือง ไปปลีกวิเวก หาความสงบสุขชั่วคราว แต่ต้องเป็นออร์แกนิกจริงๆ และหาสิ่งมัดใจลูกค้าไว้ได้ ลูกค้าก็จะกลับไปใช้บริการซ้ำอีก

ขณะที่ธุรกิจออนไลน์ จะไม่รุ่งเหมือนที่ผ่านมา แต่ยังเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าออนไลน์ลดลง เพราะไม่ไว้ใจ กลัวถูกหลอกลวง ขณะเดียวกัน ประชาชนจะใช้เงินสดน้อยลง แต่จะใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ไม่ต้องการพกเงินสด เรื่องนี้ดูจะตรงกันข้าม แบบแปลกๆๆ แต่อาจเป็นเพราะดาวราหูเข้าดวงเมือง ก็จะมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งการใช้จ่ายต้องระมัดระวัง ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน

หากให้มองธุรกิจที่จะกลับมาปังๆ ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว นำเข้า-ส่งออก ธุรกิจบริการ อีคอมเมิร์ซ และการลงทุนในตลาดหุ้น ธุรกิจสุขภาพความงาม โดยธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือ ธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะคนไทยที่มีเงินใช้จ่ายสบายๆๆ จะเริ่มหาความสุขให้กับตัวเอง หรือปลดปล่อยการจับจ่ายใช้สอย หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา มีการใช้จ่ายอย่างประหยัด เพราะเป็นช่วงวิกฤติโควิด และไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยว

ดังนั้น หากใครพอมีกำลัง มีเงิน จะมองหาธุรกิจที่ตอบสนองกลุ่มคนที่ต้องการหาความสุข ความสบาย ก็ต้องลองศึกษาหาข้อมูลในการลงทุนได้

แต่ขอย้ำว่า ก่อนลงทุน ต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าโหนกระแส เพื่อลงทุน เพราะอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่วาดหวัง!!!