ผวา ดวงเดือนมิถุนายน กลายเป็นที่น่าจับตาอีกครั้งหลัง หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดังระดับประเทศ เจ้าของฉายา 'จอมเก็บสถิติ' เมืองไทย ออกมาเตือนผ่านเซ็กชั่น Horoscope ไทยรัฐออนไลน์ ที่แรก ต่อปรากฏการณ์สุดอันตราย 'ดวงกากบาท' ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนและคาบเกี่ยวมาในเดือนพฤษาคม 2561
ในทางโหราศาสตร์ตำแหน่งดวงดาวที่โคจรในเดือนนี้เรียกว่า 'ดวงกากบาท' เป็นตำแหน่งที่แรง ซึ่งมีทั้งบวกและลบ ซึ่งหากตำแหน่งนี้อยู่ในดวงของใครแล้วเป็นดวงดาวดีๆ ชีวิตก็จะพลิกผันร่ำรวยเป็น 'มหาเศรษฐี' ได้ ในทางกลับกันถ้าเป็นดวงดาวร้ายจะส่งผลร้ายแบบทวีคูณ
...
"'ดวงกากบาท' หมายถึงการที่มีดวงดาวสถิตอยู่ใน 4 ธาตุหลักของโหราศาสตร์ ได้แก่ ดิน - น้ำ - ลม - ไฟ ซึ่งปรากฏการณ์ในเดือนนี้ ตำแหน่งดาวสถิตอยู่ครบทั้ง 4 ธาตุ แถมยังอยู่ในราศีที่เราเรียกว่าเป็น 'แม่ธาตุ' หรือ 'ราศีทวาร' (หมายถึงราศีประตู) เป็นราศีหลักในทางโหราศาสตร์เช่นกัน นั่นคือ 'ราศีเมษ' ซึ่งเป็น 'แม่ธาตุไฟ' หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นราศีหลักของธาตุไฟ 'ราศีกรกฎ' เป็นแม่ธาตุน้ำ 'ราศีตุล' เป็นแม่ธาตุลม 'ราศีมังกร' เป็นแม่ธาตุดิน ดังนั้น 4 ธาตุนี้คือมีดวงดาวอยู่ครบ เพียงแต่ว่าปัญหาของเดือนนี้คือดวงดาวที่อยู่ 3 ใน 4 ราศีไม่ดี ค่อนข้างจะแรง ดังนั้นอาจจะส่งผลทำให้เกิดความแรงในเชิงของดวงเมืองเยอะมากเป็นพิเศษ"
ดวงเมืองหนัก ผวาภัยพิบัติอุบัติเหตุสยอง
หมอช้างย้ำและกล่าวว่า ประกอบไปด้วย 'ราศีเมษ' มีดาวมฤตยู ซึ่งอยู่ราศีเมษมาหลายปีแล้ว แต่ในช่วงเดือนนี้มีดาวเกตุเข้ามาร่วมด้วย ยิ่งส่งผลทำให้ความแรงแบบทวีคูณ ราศีกรกฎ มีดาวราหูสถิตอยู่, ราศีมังกร มีดาวอังคาร และราศีตุล มีดาวพฤหัสซึ่งเป็นดาวที่ดีดวงเดียว
"ผลของดวงกากบาทในครั้งนี้ ถ้าเป็นเชิงดวงเมืองก็คือจะเกิดภัยจากระเบิด ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว ที่แรงขึ้น แม้กระทั่งการคมนาคมขนส่งที่มีปัญหา เกิดความวุ่นวาย เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันหลายอย่าง ซึ่งเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ ไม่ใช่ให้ระวังเฉพาะในประเทศไทย เนื่องเพราะ ราศีเมษ เป็นราศีดวงทั่วโลก มันจึงส่งผลรุนแรงในระดับโลกด้วยเช่นกัน"
4 ราศีต้องระวัง 1 เดือนหนักหนา
นอกจากดวงเมือง ดวงโลกต้องระวังแล้ว หมอดูชื่อดังผู้นี้ย้ำอีกว่า ในดวงบุคคลที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
ราศีเมษ ผู้ที่เกิดระหว่าง 14 เม.ย.-14 พ.ค. ให้ระวังที่ชีวิตจะวุ่นวาย มีการเปลี่ยนแปลง ถูกเลื่อน ยกเลิก แต่มีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของทุกขลาภ เช่น บางคนจะได้โชค ได้เงิน ถูกหวย แต่จะมีเหตุแห่งความวุ่นวาย หรือมีอย่างอื่นตามมากับโชคที่ได้ ให้ระมัดระวังการขับรถ การเดินทาง การเฉี่ยวชน ยางระเบิด ยางแบน
...
ราศีกรกฎ ผู้ที่เกิดระหว่าง 17 ก.ค.-16 ส.ค. เป็นราศีที่ผลของพระราหูเข้าก็จะแรงขึ้น ให้ระวังเรื่องของคดีความ การฟ้องร้อง การถูกกลั่นแกล้ง รวมไปถึงเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ การงานอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแผนก เปลี่ยนตำแหน่ง เป็นราศีที่โด่งดังมีชื่อเสียงก็เลยทำให้ถูกอิจฉาใส่ร้ายได้ง่ายๆ เข้าตำรา ทำดีแต่อย่าให้เด่นจะเป็นภัย
...
ราศีตุล ผู้ที่เกิดระหว่าง 18 ต.ค.-16 พ.ย. เป็นราศีที่จะดูดีที่สุดใน 4 ราศี เนื่องเพราะยังมี 'ดาวพฤหัส' คุ้มครองอยู่ แต่ให้ระมัดระวังอะไรที่เกี่ยวข้องกับ 'เรื่องคู่' ไม่ว่าจะเป็นคู่สัญญา การถูกเปลี่ยนแปลงยกเลิก ถูกโกง หรือในเรื่องของคู่ครอง บางคนอาจจะมีความรักที่แตกต่างกัน วัยห่างกัน อายุห่างกันเยอะ หรือว่าบางคนอาจจะเป็นการตัดสินใจอย่างกะทันหัน เช่น อยู่ดีๆ แต่งงาน, อยู่ดีๆ เลิก, อยู่ดีๆ ท้อง มีเรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น เรื่องหนักๆ ของราศีตุลจะเป็นเรื่องคู่ และเรื่องภายในครอบครัวมากกว่าเรื่องงาน
ราศีมังกร ผู้ที่เกิดระหว่าง 15 ม.ค.-12 ก.พ. เป็นราศีที่ดวงจะถูกอิจฉา ทำอะไรมักจะมีความติดขัดไม่ได้ดั่งใจ สิ่งใดที่คิดว่าจะได้ สุดท้ายอาจจะถูกยกเลิก หักกลางคัน ระวังเรื่องของความขัดแย้งภายในครอบครัว เรื่องความเข้าใจผิด ความรักเรื่องมือที่สาม ช่วงนี้จะใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล และต้องระมัดระวัง ระวังเรื่องอุบัติเหตุ ฟกช้ำดำเขียว หกล้ม และเรื่องกระดูกให้มากๆ ในเดือนนี้
...
ไหว้ศาลหลักเมือง แก้เคล็ดทางออกที่ดีสุด
หมอช้าง แนะนำวิธีแก้ดวงว่า ด้วยความที่ดวงดาวแรง และมีการเปลี่ยนแปลงเยอะ คือจริงๆ ดาวได้โคจรอยู่ที่ 3 ราศีอยู่แล้ว ได้แก่ ราศีกรกฎ ราศีมังกร และราศีตุล เพียงแต่เดือนมิถุนายนมีดาวเกศเข้ามาร่วมที่ราศีเมษด้วย ส่งผลให้หลักการของ 'ดวงกากบาท' เกิดขึ้น
"แนะนำควรจะต้องทำบุญให้มากๆ โดยเฉพาะไปขอพรตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความมั่นคง อันได้แก่ 'ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร' เพราะว่าเป็นที่ที่มีความสำ คัญ และเป็นที่ที่เราสามารถไปขอพร ทั้งหลักเมือง และองค์เทพารักษ์ประจำเมืองได้ ควรจะไปภายในเดือนนี้ หรือตั้งแต่ 9 มิ.ย. ถือเป็นฤกษ์ดีไปในการเร่ิมต้นอีกด้วย โดยศาลหลักเมืองมีดอกไม้ ธูป เทียนจำหน่าย รวมไปถึงไหว้พระ จุดธูปบูชาองค์หลักเมืองจำลอง นำผ้าแพรมาพันที่องค์หลักเมืองจำลอง เข้าไปกราบขอพร ถวายพวงมาลัยกับองค์หลักเมืองจริงข้างใน จึงออกมาบริเวณอาคารด้านข้างจะเป็นที่ขอพรเทพารักษ์ประจำเมือง"
สุดท้ายจุดเติมน้ำมันตะเกียง เติมกับพระประจำวันเกิด โดยมีเคล็ดอยู่ว่าให้เติมน้ำมันกับพระประจำวันเกิดตัวเองไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งให้เทลงไปในอ่างน้ำมันเพื่อสะเดาะเคราะห์
ท้ายที่สุด หมอดูชื่อดังบอกว่าไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะ ดวงกากบาท ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นบ่อย ดังนั้นการเตรียมตัว การมีสติ เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะ ดวงกากบาท หมายถึงความแรงและการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการที่เราพยายามตั้งรับด้วยสติ ด้วยใช้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยการตั้งสติ สวดมนต์ ทำสมาธิ คนใดที่อยู่ในเรื่องของการรักษาในศีลในธรรมอยู่แล้ว ก็ขอให้มั่นใจว่า ธรรมะ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ต่อให้ดิน น้ำ ลม ไฟ จะแรง อย่างไรก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้อย่างแน่นอน.