พระปิดตา หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้
หลวงปู่นาคท่าน วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเนื้อเมฆพัตรมาก การผสมเนื้อแร่ต่างๆ การปั้นพิมพ์ และการเทหล่อองค์พระท่านทำด้วยตัวท่านเอง
องค์พระที่ท่านหล่อออกมาสวยงาม ไม่มีรอยตะเข็บ ไม่เป็นฟองอากาศ เนื้อพระเป็นสีดำอมเขียว สีดำเงาคล้ายปีกแมลงทับ สวยงามพิสดาร เนื้อพระผิวตึง สมบูรณ์แบบด้านรูปทรง ว่ากันว่า "หลวงปู่นาค" กับ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" มีความสนิทสนมกัน เป็นสหธรรมิกรุ่นน้อง (หลวงปู่นาคมีอายุมากกว่าหลวงปู่บุญ 35 ปี) และมีการแลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกันด้วย โดยหลวงปู่บุญขอเรียนวิชาการสร้างเนื้อเมฆพัตรไปจากหลวงปู่นาค ส่วนหลวงปู่นาคก็ได้ขอเรียนวิชาอื่นจากหลวงปู่บุญไปเป็นการแลกเปลี่ยน

ในการสร้างพระปิดตาของหลวงปู่นาคท่านสร้างหลายครั้งด้วยกัน สร้างไปเรื่อยๆ ตามแต่จะมีโอกาส พระปิดตาของท่านจึงมีประมาณ 4-5 พิมพ์ นับแล้วพระปิดตาห้วยจระเข้ก็มีอายุร่วมๆ หนึ่งร้อยปีเห็นจะได้ เอกลักษณ์ของพระปิดตาห้วยจระเข้นอกจากจะดูพิมพ์เป็นหลักแล้ว
...
พระปิดตาห้วยจระเข้จะต้องมีการลงเหล็กจารทุกองค์ด้วย ในการลงเหล็กจารนั้นมีเรื่องเล่ากันว่าหลวงปู่นาคท่านนำเอาพระปิดตาที่สร้างเสร็จแล้วไปลงเหล็กจารที่ท่าน้ำข้างๆ วัด โดยท่านจะนำลงไปจารอักขระใต้น้ำ เมื่อจารเสร็จแล้วก็จะปล่อยให้พระปิดตาลอยขึ้นมาเหนือน้ำเองโดยมีลูกศิษย์ที่อยู่บนฝั่งคอยเก็บ ถ้าพระปิดตาองค์ไหนลงจารแล้วไม่ลอยน้ำขึ้นมา แสดงว่าพระปิดตาองค์นั้นไม่มีพลังพุทธคุณ อันอาจจะเกิดอักขระวิบัติจากการจารอักขระก็ได้ การที่พระเกจิอาจารย์ท่านใดสามารถดำลงไปทำวัตถุมงคลใต้น้ำได้นานๆ แบบนี้ ก็แสดงว่าพระเกจิอาจารย์ท่านนั้นสำเร็จวิชากสิณที่สามารถแปลงธาตุน้ำให้เป็นช่องว่างมีอากาศหายใจได้ นอกจากการจารอักขระพระปิดตาใต้น้ำแล้ว หลวงปู่นาคท่านก็มีวิธีการจารอักขระอีกวิธีหนึ่งคือ ท่านจะไปจารที่กลางทุ่งนา หรือในป่าริมคลองที่มีปูอาศัยอยู่มากๆ เมื่อไปถึงและหารูปูเจอแล้ว ท่านก็จะยืนโดยเอาหัวแม่เท้าขวาอุดที่ปากรูปู จากนั้นก็จะกำหนดจิตบริกรรมคาถา และลงเหล็กจารไปพร้อมๆ กัน ขณะนั้นทั่วทั้งทุ่งและป่าริมคลองนั้นจะเงียบสงัดทันที เสียงนกหรือแมลงร้องจะไม่มีได้ยิน สัตว์ทุกตัวที่อยู่บริเวณนั้นจะหยุดนิ่งชะงักเป็นจังงังกันหมด เมื่อท่านผ่อนคลายกำหนดจิตจากการลงอักขระเสร็จแล้วนั่นแหละ ทุกอย่างจึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก่อนที่จะกลับหลวงปู่นาคท่านจะทำน้ำมนต์รดที่รูปูนั้นเพื่อเป็นการคลายอาคม หากมิเช่นนั้นปูที่อยู่ในรูจะออกมาไม่ได้ หรือถ้าปูอยู่ข้างนอกก็จะกลับลงรูไม่ได้เหมือนกัน อักขระที่ท่านใช้คือ "นะคงคา" เป็นตัวหลัก เพราะหลวงปู่นาคสำเร็จอาโปกสิน วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกจึงหนักไปทางพลังเย็นเร้นเข้มขลังอย่างเอกอุ จากพิธีกรรมการสร้างอันเข้มขลังนี้เอง จึงทำให้พระปิดตาห้วยจระเข้เป็นจักรพรรดิของพระปิดตาเนื้อเมฆพัตรทั้งปวง

ปิดตาหลวงปู่นาควัดห้วยจระเข้มี 2 พิมพ์ คือพิมพ์หูกระต่ายและพิมพ์สะดือจุ่น ทั้งสองแม่พิมพ์จะมีแม่พิมพ์อีกหลายตัว ซึ่งศิลปะการแกะแม่พิมพ์จะใกล้เคียงกัน พระปิดตาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ทุกพิมพ์จะมีเพียงเนื้อเมฆพัตรเท่านั้น ผิวของเมฆพัตรจะมีความแห้งซึ่งบ่งบอกถึงความเก่า วันนี้ผมนำพระปิดตาพิมพ์หูกระต่ายมาให้ชมกันครับ
ชี้ตำหนิ

พระปิดตาหลวงปู่นาคพิมพ์หูกระต่ายทุกองค์ มือที่ปิดหูข้างซ้ายจะแลดูหนากว่าและอยู่ในตำแหน่งสูงกว่ามือข้างขวา บริเวณนิ้วมือมีรอยแต่งตะไบและมีเหล็กจารตัว “น” คล้าย “ฉ” บริเวณท้องมีจารยันต์ “นะ ปถมัง” ถ้าเราสามารถจดจำตำแหน่งการจารและขนาดเส้นยันต์ และลายมือที่ท่านจารลงบนองค์พระให้แม่นยำจะช่วยให้เราใช้ประกอบการดูได้ด้วยตนเอง
...

ด้านหลัง พื้นผิวของเมฆพัตรจะมีความแห้งซึ่งบ่งบอกถึงความเก่า บริเวณหัวมี “ยันต์ตัวเฑาะว์” เส้นยันต์สม่ำเสมอกันทั้งองค์ ในร่องของเหล็กจารไม่มีรอยกะเทาะให้เห็น

บริเวณก้นมีรอยแต่งนิ้วมือและเหล็กจาร มีเส้นจารที่สม่ำเสมอกันทั้งองค์ พระปิดตาหลวงปู่นาคทุกพิมพ์เป็นเนื้อเมฆพัตรเท่านั้น สังเกตผิวจะมีความแห้งซึ่งบ่งบอกถึงความเก่า พระทุกพิมพ์ของหลวงปู่นาคต้องจำแม่พิมพ์ จดจำพิมพ์และขนาดขององค์พระให้แม่น และที่สำคัญต้องเคยเห็นพระองค์จริง
...

คอลัมน์ : หยิบกล้องส่องพระ by โทน บางแค
Line : @tone8888
เพจ : โทน บางแค FC.