โหรวสุ วสุวัส คำหอมกุล นักพยากรณ์ดวงชะตา ทักผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แนะนำฤกษ์ที่เหมาะสม ฤกษ์มงคล หากอยากได้บุตรดี เลี้ยงง่าย อภิชาตบุตร มาเกิดนั้น ต้องรีบวางแผนท้อง และคลอด ให้อยู่ในช่วง กลางปีหน้า 2566 

โดย โหรวสุ กล่าวว่า 

"ครอบครัว หรือคู่แต่งงานใด ที่กำลังวางแผนมีบุตร และอยากได้ลูกเป็นอภิชาตบุตร เลี้ยงดูง่าย ฉลาด เป็นที่พึ่งพาอาศัยของครอบครัวได้ แนะนำให้วางแผนเริ่มท้องตั้งแต่ปลายปี 2565 ในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. นี้ได้เลย

เพราะถ้าได้คลอดช่วงเดือน กรกฎาคม - สิงหาคมปี 2566 จะเป็นช่วงที่ดาวอาทิตย์ จันทร์ และพฤหัส โคจรได้เกณฑ์จันทรครุ สุริยา ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหญ่

ซึ่งปกติการโคจรได้ตำแหน่งแบบนี้ส่วนใหญ่ 4-5 ปีจะมีสักครั้ง แต่ปี 2566 จะพิเศษตรงที่เป็นช่วงที่พฤหัสทับลัคนาดวงเมืองราศีเมษด้วย เพราะฉะนั้นเด็กที่เกิดมาในช่วงปี 2566 จะถือว่าเป็นคนมีบุญบารมีมาเกิด ที่เอามาแจ้งเพราะช่วงนี้มีคนปรึกษาเรื่องการมีบุตรหลายคน และมีคนให้วางฤกษ์แต่งงาน กับเปิดกิจการในช่วงปี 2566"

ซึ่งผมก็เลยเห็นว่าช่วงเดือนก.ค. - ส.ค. เป็นช่วงที่ดี เหมาะกับการวางฤกษ์คลอดบุตร

ส่วนคนที่เกิดมาในฤกษ์แล้วในดวงได้เกณฑ์จันทรครุ สุริยา ดีอย่างไร?

เพราะจากที่ผมตรวจดวงชะตาเห็นคนที่มีดวงแบบนี้มักได้ทำงานเป็นใหญ่เป็นโต มีชื่อเสียง เป็นเศรษฐีร่ำรวยด้วยตัวเองทั้งนั้น แถมดวงแบบนี้มักจะล้มแล้วลุกได้ ยิ่งเจออุปสรรค เจอคนเหยียดหยาม หรือมีคนอิจฉาจ้องทำลายจะยิ่งแข็งแกร่ง

ซึ่งในยุคสมัยที่การเมืองย่ำแย่ และสภาพเศรษฐกิจปากกัดตีนถีบแบบนี้ คนที่มีดวงประเภทนี้จะได้เปรียบกว่า คนดวงมีดาวมหาอุจ หรือพวกอุดมเกณฑ์ปกติ

...

ซึ่งถ้าเป็นสมัย 20-30 ปี ก่อนหน้านี้พวกคนมีดาวมหาอุจในดวง หรืออุดมเกณฑ์โหรเค้าจะทำนายว่าเป็นคนเกิดมาสบาย สมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่ต้องไปทำอะไรให้เหนื่อย

แต่ยุคนี้ถ้ามาเจอการเมือง สภาพบ้านเมืองที่ย่ำแย่ในยุคนี้ บอกเลยว่าไม่รอด เพราะการต่อสู้มันรุนแรง ถ้าล้มแล้วจะลุกขึ้นสู้ยาก และอาจจะไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมคนสมัยนี้

ดูง่ายๆ ยุคหลังจากปี 2565 เป็นต้นไป ลูกเศรษฐี และเจ้าสัวทั้งหลาย จะประสบปัญหากับพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป การ Interrupt ของเทคโนโลยี นวัตกรรม และวัฒนธรรมใหม่ๆ ถ้าไม่ปรับตัวธุรกิจใหม่เปลี่ยนแปลงให้ทันตามยุคสมัย กิจการหรือธุรกิจที่สืบทอดมาจากตระกูลมีสิทธิ์เจ๊งที่รุ่นนี้เลย

ตัวอย่างนักการเมืองที่ดังที่ดวงชะตาได้เกณฑ์ จันทรครุ สุริยา และเกิดในเดือนกรกฎาคม ก็คือ คุณทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง