ปีมังกรทอง 2567 ร้อนฉ่าไม่น้อยเลยทีเดียว และไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า คนในวงการบันเทิง ทั้งนางเอก พระเอก และพิธีกรตัวท็อป จะเดินคอตกเข้าไปอยู่ในเรือนจำได้! 

โดยเฉพาะคดีดิไอคอน บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความงาม ที่นำทีมโดย "บอสพอล วรัตย์พล" เจ้าของวลีเด็ด "ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย" และสโลแกน "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ที่ได้ถูกผู้เสียหายออกมาแฉว่าได้มีการหลอกล่อให้เข้าคอร์สอบรมออนไลน์ และให้เปิดบิลตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน แต่กลับขายของไม่ได้ ผู้เสียหายบางรายแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว ถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย ซึ่งคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 3 พันล้านเลยทีเดียว

...

จึงจัดให้ข่าวนี้เป็นข่าวดังแห่งปี เพราะสะเทือนไปทุกวงการเลยทีเดียวโดยเฉพาะวงการบันเทิง เพราะมีชื่อดารา คนดังเข้าไปพัวพันเยอะมาก อีกทั้งยังมีรายชื่อของดาราดัง ที่ไปทำหน้าที่เป็นบอสให้กับบริษัท ดิไอคอน นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น มิน พีชญา วัฒนามนตรี, แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี และ กันต์ กันตถาวร

แม้ว่าในเวลาต่อมาทั้ง 3 คน จะออกมาให้สัมภาษณ์ในทิศทางเดียวกันว่า เป็นเพียงผู้รับจ้าง และขอยุติสัญญาทั้งหมดกับดิไอคอน พร้อมกับเข้าพิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการยุติธรรม แต่การใช้ชื่อเสียงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทดิไอคอน ก็ทำให้มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก จนเกิดความเสียหายในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งรายได้และหน้าที่ที่ได้รับจากดิไอคอน ทำให้ดาราดังทั้ง 3 คนไม่อาจปฏิเสธได้ และก็ได้เดินหน้าเข้าสู้กับกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาล ซึ่งภาพของดาราทั้ง 3 คน เดินเรียงแถวก้มหน้าเข้าเรือนจำ และไม่ได้รับการประกันตัว ก็ทำให้หลายคนรวมถึงครอบครัวของดาราทั้ง 3 ต่างสะเทือนใจอย่างมาก 

นับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ที่ 3 บอสดาราแถวหน้าของวงการบันเทิงต้องอยู่ในเรือนจำ ถูกจำกัดอิสรภาพ ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นดาราฉ้อโกง ผ่านวันและคืนโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำกันอย่างไร ในแดนที่มืดมิดสูญสิ้นอิสรภาพแห่งนี้ 

และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่ดาราเบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิงเดินเรียงแถวเข้าเรือนจำ คือประวัติศาสตร์หน้าข่าวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ข่าวของ "ดิไอคอน" ถูกจับตามองกันอย่างมาก กลายเป็นที่สนใจของคนในสังคมขึ้นมาทันที ไม่เว้นแม้แต่การรับประทานอาหารมื้อแรกในเรือนจำของเหล่าบรรดาบอสดารา ก็ถูกตีแผ่เช่นกัน เหมือนว่าทุกคนกำลังเฝ้ามองจุดที่ต่ำสุดของชีวิตซุปเปอร์สตาร์อย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ 

แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินว่าพวกเขาผิดหรือถูก แต่ก็เป็นข้อคิดในยุคที่หลายคนต้องดิ้นรนหารายได้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนหาเงิน ก็จงอย่าลืมว่า การกระทำทุกอย่างมีความเสี่ยงหมด เพราะฉะนั้นเวลาจะทำอะไร อาจจะต้องดูให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วคดีของ 3 บอสดาราจะจบลงแบบไหน 

...