เป็นพระเอกหนุ่มที่ฝากฝีมือการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง สำหรับ ต่อ ธนภพ ที่ฝากผลงานการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง ล่าสุด ต่อ ได้มาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One 31 เล่าถึงสิ่งที่ติดค้างกับคุณพ่อคุณแม่ เคยทำให้พ่อแม่เหนื่อยมาเยอะมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกวันนี้ตั้งใจทำงานเพื่อท่าน พร้อมกับเผยเหตุผลที่ไม่ซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเอง ทั้งๆ ที่มีเงิน สามารถซื้อได้แล้ว

มีเรื่องที่ติดค้างในใจกับคุณพ่อคุณแม่?

"ในความจริงมันไม่ใช่ติดค้างอย่างนั้น จริงๆ ผมว่าลูกทุกคนก็ติดค้างพ่อแม่อยู่แล้วในการที่เขาเลี้ยงเรามา แต่ว่ามันเป็นความตั้งใจส่วนตัวสำหรับเด็กคนนึงที่เราอาจไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่เขาอยากให้เป็นมาตั้งแต่เด็ก ในช่วงเด็กๆ อาจจะออกเส้นทางไปไกลหน่อย เช่น เขาอยากให้ตั้งใจเรียน ติดอ่านหนังสือ แต่เราก็ไปติดเพื่อน

เมื่อก่อนเขาอาจจะเคยขอให้เราบวช เขาอยากเห็น แต่เราจะรู้สึกว่า ไม่ เราอยากมีผม หลายๆ ครั้งในอดีตเราก็มีเรื่องที่เราทำให้เขาเสียใจเยอะเหมือนกันนะ แต่ว่าเมื่อเทียบกับการที่วันนี้ โตมาขนาดนี้เรื่องตอนนั้นมันเล็กมากเลย

ณ ตอนนั้นมันดูเป็นเรื่องใหญ่ มันก็เลยเป็นความตั้งใจตั้งแต่ผมเริ่มหาเงินได้ด้วยตัวเอง เรารู้สึกว่าคิดเอง ไม่เคยถามเขาเลย แค่คิดว่าเขาคงเหนื่อยกับเรามาเยอะจะดีมั้ยนะถ้าเขาจะไม่ต้องเหนื่อยแล้ว เป็นความตั้งใจมาตลอด ทุกการทำงานหนักของผม ผมรู้สึกว่าถ้าเขาเหนื่อยกับผมมาเยอะแล้ว วันนี้ถ้าเขาไม่ต้องเหนื่อยแล้วผมเหนื่อยแทน ผมโอเค"

...

ให้คุณพ่อ คุณแม่เกษียณได้เลย?

"ใช่ ผมไม่แน่ใจว่านับปีถูกมั้ย น่าจะ 5 ปีหรือมากกว่านั้นว่าสิ่งที่ป๊า แม่ผมทำอยู่มันเป็นแค่งานอดิเรกแล้ว มันควรจะเหลือแค่สิ่งที่ป๊ากับแม่อยากทำได้แล้ว มันไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดหน้าคิดหลัง เดี๋ยวผมมาช่วยคิด"

ทำงานเยอะขนาดนี้มีเวลาได้อยู่กับพ่อแม่บ้างมั้ย?

"เนี่ยคือสาเหตุที่ผมไม่เคยมีที่อยู่เองเลย ผมยังคงปักหลักว่า ฉันจะอยู่บ้านกับพ่อแม่ ถึงจะเจอกันน้อยก็เถอะหรือวันที่ได้พักตื่นมาก็ยังเจอกัน ซึ่งเคยมีความคิดนะว่าอยากมีที่ที่ได้อยู่ส่วนตัว แต่ผมแค่มองว่าวันนี้ถ้ายังมีคำว่าครอบครัวมาผมก็ยังเลือกครอบครัวก่อน หลายคนชอบถามว่าไม่คิดจะอยู่คอนโด อยู่บ้านตัวเองบ้างหรอ ไม่ครับ"

แพลนอนาคตไว้ยังไง?

"อยากเป็นนักแสดงต่อไปเรื่อยๆ แต่แค่จุดที่อยากเป็นที่สุดคืออยากแสดงโดยที่ไม่ต้องคิดถึงรายได้ จุดนึงผมก็อยากให้แอ็คติ้งของผมมันเป็นงานอดิเรก อยากอยู่ในจุดที่เราพาตัวเองและครอบครัวไปอยู่ในจุดที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง มีอิสรภาพในทุกๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็นการเงินและเวลา

ทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับว่าบันเทิงมันมีความธุรกิจอยู่ เราไม่ได้สามารถใช้ใจทั้งหมดได้หรอก สุดท้ายมันก็ต้องมีเรื่องรายได้ แต่ละปีเพราะเราก็คือคนทำงานคนนึง ถ้าวางแผนคิดได้เร็วสุดก็น่าจะอารมณ์พาตัวเองไปอยู่ขั้นนั้นให้ได้"

...