เป็นอีกหนึ่งคนที่ตอนนี้กลายเป็นซิงเกิ้ลมัมไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล หรือ เชอรีน เดอะสตาร์ ก็ยังเอ็นจอยกับชีวิตของตัวเองได้เป็นอย่างดี ให้ความสุขกับตัวเองไปด้วย พร้อมๆ กับการเป็นคุณแม่ให้กับลูกสาว โดย เชอรีน ได้เล่าเรื่องนี้ไว้ในรายการ ยังไงไหนเล่า ในช่องยูทูบ GoyNattyDream ไว้ว่า
- เป็นคนที่เที่ยวฉ่ำ มีลูกแล้วก็ยังเที่ยว ไม่อยากมีลูกแล้วหยุดใช้ชีวิตตัวเอง ครึ่งนึงให้เขา อีกครึ่งหนึ่งยังเป็นของตน เพราะว่าวันนึงลูกโตขึ้นจะไม่เหลือชีวิตของเรา เพราะที่ผ่านมาให้ลูกไปหมด เพื่อนก็ไม่มีใครกล้ามีลูก เพราะกลัวว่ามีลูกแล้วชีวิตตัวเองจะหายไปหมด มันคือการแบ่งเวลา
- เวลาไปเที่ยว ตนเป็นคนชอบเต้นมากกว่าชอบดื่ม เต้นแรงจนพี่กะเทยโต๊ะข้างๆ หลบให้ ในแก๊งเพื่อนดื่มเพื่อนดริ้งค์ มีกัน 3 คน
- เวลาจะไปเที่ยวตนจะบอกกับลูกตรงๆ ว่าแม่ไปเที่ยวนะ เดี๋ยวมา ขอไปเที่ยว ขอไปเจอเพื่อนหน่อย เพราะตนอยู่กับลูกตลอดเวลา มีอะไรก็จะคุยกับลูกตรงๆ จะไม่คุยเหมือนเด็ก เลี้ยงเหมือนเพื่อน
...
- สถานะตอนนี้โสดสนิท โสดสุดๆ โสดมาก แต่ก็เปิดใจตลอด แต่มันไม่มี ซึ่งตนก็งงมาก
- อยากมีแฟนนะ เพราะชอบที่จะแชร์กับใครสักคน ชอบการมีคู่
- เผยความชอบว่าเมื่อก่อนถ้าเจอคนที่ชอบก็คือชอบ เจอถูกใจ คุยแล้วชอบก็คือจบ ชอบก็คบ ตอนเด็กๆ มันก็ทำได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องเช็กลิสต์สเปกตัวเองมากขึ้นเพราะผ่านอะไรหลายอย่าง โตขึ้นและมีลูกแล้วต้องคิดถึงลูกด้วยเพราะซักวันนึงเขาก็ต้องเจอลูกเรา ต้องสแกนมากขึ้นกับคนที่จะเข้ามาในชีวิตของเรา
- เช็กลิสต์มีประมาณ 32 ข้อ แต่ที่เน้นๆ เลยต้องเป็นผู้ชายที่สะอาดสะอ้าน ใจเย็น มีเหตุผล
- ตนเริ่มเข้าใจแล้วว่าความสัมพันธ์คนเราคบกันมันมีปัญหากันได้ตลอด ฉะนั้นคนที่จะสื่อสารกับเราได้ต้องเป็นคนที่ใช้เหตุผล ใจเย็น ถ้าใจร้อนมันคุยกันไม่ได้ ชีวิตคู่มันคือการสื่อสารกันไปเรื่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา
- อีกอย่างคือเข้ากับคนรอบตัวตนได้ เข้ากับเพื่อนฝูง ครอบครัว สำคัญมากๆ ทุกคนมีเพื่อน ในความสัมพันธ์ไม่มีใครที่จะคบกันแล้วอยู่กันสองคนได้
- เคยเจอผู้ชายที่ทำให้ตกอยู่ในเหตุการณ์ gaslighting (ปั่นหัวให้อีกฝ่ายสับสนกับความเป็นจริง) ตนจะรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา ผิดทุกอย่าง ผิดทุกเรื่อง ออกมาจากตรงนั้น จากการที่ตนรีแอคชั่นจากสิ่งที่เขาทำไม่ดีกับตน เขาจะบอกว่าเป็นเพราะเราคิดมาก เป็นเพราะเราไม่โอเคเองรึเปล่า
- พอตนเดินออกมาจากความสัมพันธ์แบบนั้นได้ ก็เริ่มจากการที่รักตัวเอง รู้เลยที่ตนโดนอะไรพวกนี้เพราะไม่รักตัวเอง ยอมให้เขาทำกับตนได้ขนาดนี้ ตนเป็นคนที่ชอบโทษตัวเองอยู่แล้ว อะไรๆ ตนก็ผิดไว้ก่อน รับความผิดไว้เองจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันใหญ่โต
- แต่พอเริ่มรู้ตัว ได้คิดทบทวนว่าตนก็ไม่ได้ผิด จากนั้นก็ค่อยๆ สำรวจตัวเองว่าใช่ไหม พอซ้ำหลายๆ รอบ พอแล้ว จบ ความรู้สึกตนก็สำคัญเหมือนกัน ที่ตนถูกกระทำมันก็เป็นสิทธิ์ของเราเหมือนกัน
- บทเรียนที่สำคัญที่สุดจากความรักที่ผ่านมาคือต้องรักตัวเอง เพราะที่ผ่านมารู้เลยว่าเพราะไม่รักตัวเองก็เลยยอมให้เขาทำเราได้ ในทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นแฟน เพื่อน ครอบครัว หรือใครก็ตาม ถ้าไม่รักตัวเอง ปล่อยให้คนอื่นทำอะไรก็ได้ ถ้ารักตัวเองจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ความรู้สึกเรามีค่าแค่ไหน ควรที่จะจัดการกับปัญหานี้ยังไงที่ยังโอเคและมีความสุขที่สุด แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนใครด้วย
- เหตุการณ์ที่รู้สึกไม่รักตัวเองที่สุดเป็นเหตุการณ์ในข่าวที่ตนยอมให้เขาทำร้ายร่างกายแล้วตนยังอยู่ต่อ มันมีปัจจัยเยอะ เพราะมีลูก อาจจะต้องคิดเยอะนิดนึงสำหรับการจะเลิกกับใครซักคนที่เขาเป็นพ่อของลูก มันยากมากๆ ที่จะเดินเอาลูกออกมาเลย อดทนอยู่ตรงนั้น 2 ปี ถามตัวเองตลอดว่าทำทำไม
- พอมาตอนนี้รู้สึกว่าดีแล้วที่อดทนอยู่ เพราะวันที่เดินออกมารู้สึกว่าทนจนถึงที่สุดแล้วจริงๆ พยายามจนถึงที่สุดแล้วจริงๆ เดินออกมาโดยที่ไม่มีคำถามว่าอดทนพอรึยัง ไม่สงสัยในความพยายาม เพราะมันสุดที่สุดของเราแล้ว
...
- คนที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์ที่อยู่ในระดับความอดทนที่แตกต่างกันหรือว่ามีปัจจัยในชีวิตที่ทำให้ยังไม่สามารถเดินออกมาได้ อยากให้สำรวจความรู้สึกตัวเอง ความต้องการของตัวเองว่าต้องการอะไร อยากมีความสุขไหม และให้ความสุขกับตัวเองได้ไหม ถ้าความสุขยังต้องยึดติดกับใครอยู่ ไม่เป็นไร ให้เวลากับตรงนั้นไปเลย แล้วค่อยให้เวลากับตัวเองเท่าที่ไหว วันไหนที่ตอบคำถามว่าสามารถให้ความสุขกับตัวเองได้แล้วก็เดินออกมาเลย มันเสียใจ มันเจ็บปวดทุกอย่าง แต่เดินออกมาเถอะเดี๋ยวมันมีความสุขเอง
- ตอนเลิกใหม่ๆ คุยกับเพื่อนๆ ว่าเดินออกมาแล้ว ทุกคนถามว่าไม่เป็นห่วงลูกเหรอ อยากฝากถึงคนมีลูกแล้วเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้ เพราะเป็นห่วงลูก ทุกคนเป็นห่วงลูกตน ซัพพอร์ตลูกตน แล้วใครเป็นห่วงตนบ้าง ใครนึกถึงตนบ้าง (ร้องไห้) มันคือคำนี้
- พอพูดแบบนี้เพื่อนทุกคนเข้าใจและพร้อมซัพพอร์ต ต่อให้เป็นแม่ต้องดูแลลูกก็จริง แต่ตนต้องดูแลตัวเองเหมือนกัน อยากบอกว่าให้นึกถึงตัวเองเยอะๆ เราจะเลี้ยงลูกได้ดีต่อเมื่อเรามีความสุข