จากกรณีที่ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง ได้โพสต์ภาพยื่นฟ้องบุคคลปริศนาในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา-ละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งทางด้าน ลีน่าจัง อดีตทนายความและพิธีกร ได้เดินทางมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน บอกว่า 

ต้องขอโทษ หนุ่ม กรรชัย จากที่ตนได้รับข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริงว่า ทาง หนุ่ม กรรชัย รับเงินค่าโฆษณารีวิวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของแม่ตั๊ก จำนวน 1 ล้านบาท ภายหลังทราบว่า หนุ่ม กรรชัย โทรหาทนายเดชา ว่าไม่จริง เป็นเงินแค่ 2 แสนกว่าบาทเท่านั้น โดยตนดูจากคลิปของตั๊กว่า ไปออกรายการโหนกระแส 3 นาที จ่ายเงินไป 1 ล้านบาท ตนจึงเชื่อสนิทใจ เพราะแม่ตั๊ก ชอบรีวิว ไลฟ์ขายของกับกลุ่มนักแสดง

หาก หนุ่ม กรรชัย ไม่ยกโทษให้ตนจะแจ้งความกลับ เมื่อเสียหายจากการที่ หนุ่ม กรรชัย พูดในรายการว่าตนเป็นเน็ตไอดอล ประตูน้ำ และบอกให้ผู้ชมคอมเมนต์มาเลย หากคนไปค้นหาในกูเกิลจะพบหน้าตน ทำให้คนคอมเมนต์ถล่มด่าตนว่าเลว ไปร่วมกับแม่ตั๊กหลอกลวงประชาชนให้มาซื้อทอง ทั้งที่ตนยังไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างจากแม่ตั๊กแม้แต่สลึงเดียว

...

ส่วนกรณีที่ตนไลฟ์สดสาปแช่ง ตนไม่ได้สาปแช่งหนุ่ม กรรชัย แต่พวกยูทูบเบอร์นำคลิปของตนไปตัดต่อ และนำรูปหนุ่มกรรชัยใส่เข้าไป และกล่าวหาว่าตนด่า หนุ่ม กรรชัย โดยตนถูกใส่ร้าย

หลังจากที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จ ลีน่าจัง ก็ได้พร้อมกับเข้าพบ ร.ต.อ.ศิวะ กลับพันธุ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกลับ หนุ่ม กรรชัย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาเช่นกัน

ล่าสุดหลังจบรายการ โหนกระแส หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว เผยสาเหตุที่ยื่นฟ้องเป็นเงิน 5 ล้าน ก็เพราะว่าถูกอีกฝ่ายล้ำเส้นมากเกินไป และด่าแช่งไปยังลูก จนรู้สึกว่ารับไม่ได้ มันแย่มากและทำเกินไปแล้ว ส่วนกรณีที่อีกฝ่ายมาขอโทษ ก็จะรับเรื่องและเก็บข้อมูลไว้ เพราะมันคือหลักฐานชั้นดี แล้วไปจบกันที่ศาล ให้ศาลท่านได้บันทึกข้อมูลไว้เลยว่า จะไม่ยุ่งกันอีก พร้อมยืนยัน จบที่ศาลเท่านั้น แม้อีกฝ่ายจะขอโทษผ่านสื่อแล้ว 

ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ดูรุมเร้าไปหมด?

"ก็เหนื่อยนิดนึงครับ เพราะว่ามันมีประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคมเรื่องนี้เยอะมาก เรื่องทองครับ"

มันมีฟีดแบ็กมาหาเราในทางที่ว่า ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เรากำลังทำ เช่นบอกว่าเราไปเข้าข้าง ไปรับเงินมา?

"อ๋อ หมายถึงลีน่าจังหรอ แหม พูดซะอ้อมเชียว คือมันเป็นคดีความไปแล้ว มันเป็นข้อเท็จจริง พูดได้หมดแหละฮะ อันดับแรกก่อนเลย เรื่องของทอง ต้องบอกเลยว่าที่พี่นำเสนอทุกวี่ทุกวัน คือพี่มองว่ามันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนก่อนเลยอันดับแรก พี่เองไม่ได้มีส่วนได้เสีย หรือว่าไม่ได้มีความบาดหมางกับทางคุณตั๊ก คุณเบียร์มาก่อน แต่การนำเสนอไปมันเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

และอีกอย่างหนึ่งพี่มองว่า วันนี้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อยแล้วนะครับ แล้วก็มีการทำคอนเทนต์ในเรื่องของทำบุญ แต่ความเป็นจริงมันกลับกลายเป็นว่า เอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง พี่มองว่ามันไม่เหมาะนะครับ แล้วยิ่งชาวบ้านเองไม่รู้เรื่องของทองด้วยว่า ทองมันมีแบบไหนยังไงบ้างนะครับ

ถ้าเอ่ยชื่อทองขึ้นมาปุ๊บ แน่นอนคนก็จะแบบโอเค ซื้อทองถูก ทองถูก แต่เขาอาจจะไม่รู้ไง บางคนก็คือเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต เห็นว่าทองถูกก็ไปซื้อมาเพื่อกะว่าจะขายเป็นกำไร จะไปบอกว่าเขาโลภก็ไม่ได้ 5,000 ขาย 300 กว่าบาท ใครเขาจะไม่ซื้อล่ะ ถ้าบอกว่าเป็นทอง ถูกมั้ย

มันเป็นเรื่องที่เล่นกับความรู้สึกของคน เล่นกับความเชื่อของคน อันนี้ก็น่าเห็นใจชาวบ้านเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็ควรจะได้มีการเปิดข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อที่จะให้สังคมได้รับรู้ ประชาชนจะได้ตื่นรู้และได้มีการเอาไปเป็นบทเรียน ถอดบทเรียนว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะ ต้องระวังด้วย"

การที่พี่หนุ่มได้ลงลึกไปในเรื่องนี้มันเป็นยังไงบ้าง?

มันเป็นเรื่องน่าตกใจ เพราะว่าจริงๆ แล้ว เรื่องนี้มันไม่ได้มีอะไรเลย มันเป็นเรื่องที่คนที่จะขายพูดไม่หมด คือพูดง่ายๆ บางทีมันก็ต้องตรงไปตรงมา โอเค สร้อยทองมัน 18k นะ แล้วมันคืออะไร

...

18k มันคือทองที่มีอยู่ 75% นอกนั้นจะเป็นเนื้อเงินนะ เพราะฉะนั้นเวลาคุณเอาไปขายราคาอาจจะตก คุณก็บอกไป คุณไลฟ์ไปทั้งวัน คุณพูดแค่นี้เองให้คนเขารู้ เขาเข้าใจ แต่คุณไม่พูด อันนี้เป็นทองนะซื้อได้ขายได้จำนำได้ คนก็ไม่รู้ไง เลยเกิดเป็นประเด็น"

ประเด็นเรื่องด้วงสาคูที่มีการโพสต์ไป ตอนนี้สามารถยืนยันได้เลยไหมว่าเป็นใคร?

"คือจริงๆ แล้วพี่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะเป็นใคร พี่ก็มองว่าด้วงมันน่ารักดีนะ และอีกอย่างเขามาเป็นด้วงจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ หรือใครจะเป็นสิงสาราสัตว์ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเป็นมนุษย์ถูกมั้ย"

ที่ลีน่าจังเขายกมือไหว้ขอโทษเรา เขาไลฟ์สดไปแล้ว?

"คือต้องเรียนแบบนี้ คือผมรู้จักกับทางคุณลีน่าจังมาได้สักระยะแล้ว นานแล้ว เพียงแต่ว่าเราก็ไม่ได้สนิทสนม ทีนี้เราก็มีระยะห่าง ถ้าย้อนกลับไปหลายปีก่อน แกก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ผมเหมือนกันนะครับ เป็นช่วงๆ เป็นระยะๆ ไป ซึ่งผมเองก็ไม่เคยถือสา ผมเข้าใจในมุมของแก ในบริบทของแกที่แกเป็นอยู่ แกเองก็คงอยากจะมียอดไลค์ ต้องการให้มันมีคอนเทนต์ ถึงแม้มันจะเป็น ขอโทษนะ เป็น Bad PR อะไรก็แล้วแต่ที่มันเกิดขึ้นในสังคมเยอะแยะมากมาย คือเราเข้าใจ

...

แต่พอมาครั้งนี้ ผมว่ามันล้ำเส้นไปนิดนึง ผมเชื่อว่าทุกคนที่ติดตามรายการ โหนกระแส ติดตามผมอยู่ หรือติดตามตัวเขาอยู่ ก็คงจะรู้ว่า มันมีมุมไหนบ้างที่มันล้ำเส้นผม

คือเรื่องมันเกิดจากการที่ว่า ตัวผมเองได้มีการสัมภาษณ์คุณน้อง คุณน้องแกเล่าเหตุการณ์ว่าตัวแกเองโดนอะไรบ้างจากแม่ตั๊ก แกมีการอัดคลิปลงโซเชียลแล้ว หลังจากนั้นแกปิดคลิปไปเพราะว่า ทางคุณตั๊กเองได้มีการไปให้ทางฝั่งของเน็ตไอดอลมาโจมตีแก จนพาทัวร์มาลง จนแกต้องปิดไป อันนี้คุณน้องบอกมาแบบนี้

ปรากฏว่าในวันนั้น มีคนส่งเข้ามาว่า เน็ตไอดอลประตูน้ำหรือเปล่า เอาตรงๆ นี่สาบานให้ตายเลยนะ พี่ไม่รู้จริงๆ พี่ไม่เข้าใจหรอกว่าเน็ตไอดอลประตูน้ำคืออะไร ขอโทษนะฮะ พี่ไม่เคยมองเห็นว่าคุณลีน่าจังเป็นเน็ตไอดอล

เพราะว่าคำว่าเน็ตไอดอลมันคือผู้นำทางความคิด แต่พี่ไม่เคยมองว่าคุณลีน่าจังเป็นแบบนั้น พี่ก็เลยไม่คิดว่าเขาเป็นเน็ตไอดอล พี่ก็เลยงง และถามว่า เน็ตไอดอลประตูน้ำใช่หรือเปล่าที่เขาส่งมาถาม คือพี่ไม่รู้ไง ปรากฏว่าเขาบอกว่าใช่ค่ะ จบแค่นั้นเลย

หลังจากนั้นแกก็ด่าพี่แล้ว แกก็เริ่มด่าพี่ ไอ้หนุ่มกรรชัย นู่นนี่นั่นอะไรก็ไม่รู้ พี่ก็โอเคไม่เป็นไร เป็นแกแหละ ด่าก็ช่างแก ปล่อย วันรุ่งขึ้นพี่ทำรายการ ก็มีคนเข้ามาถามอีกว่า มีคนมาด่าพี่หนุ่มอีกแล้วนะ ตอนแรกพี่ก็ไม่ได้คิดด้วยนะว่าเป็นคนนี้ แต่พอตอนหลังเริ่มส่งมาเรื่อยๆ พี่ก็เอ๊ะเลย พี่ก็ไม่รู้ เลยพูดไปรวมๆ ว่า ผมเห็นแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ให้ค่านะ เพราะว่าผิดชอบชั่วดียังไม่รู้เลย จะไปด่าคนอื่นได้ยังไง

มันคือข้อเท็จจริง ที่เราสามารถพูดกับคนอื่นๆ ได้ใช่มั้ย จะด่าคนอื่นมันต้องรู้ก่อน ไม่ใช่ว่าเราจะถูกเสมอไป พี่ก็พูดไปแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใครด้วย แต่ใครจะรับหรือไม่รับก็เรื่องของเขา เสร็จปุ๊บไม่จบ ก็ยังคงด่าพี่ ด่าว่าพี่ไปรังแก ไปนู่นนี่นั่น แต่อันนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกครับ พี่เข้าใจในมุมของแก

...

แต่ที่พี่ไม่โอเคและพี่ถือว่าล้ำเส้นเลยก็คือ 1. การมาแช่งลูกพี่ แล้วก็มาบอกว่าพี่เองไปให้ทางฝั่งของคนที่ร่วมรายการ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นพี่ณวัฒน์ บอกว่าคนที่ร่วมรายการ ส่งนางงามไปให้มันเอา พูดอย่างนั้นเลย และพูดยิ่งกว่านั้นอีก คือพูดแบบนี้ พี่ก็เริ่มแปลกๆ แล้ว

มาแช่งลูกพี่ ซึ่งอันนี้เกินไป ถึงแม้เขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ด้วยวิญญูชนของทุกๆ คนที่ดูอยู่ รู้ครับว่าเขาพูดถึงใคร และหมายถึงใคร หรือทุกคนที่มาสัมภาษณ์จะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงใคร ทุกคนก็สามารถเป็นพยานให้พี่ได้นะว่าเขาพูดถึงใคร เพราะเรารู้อยู่ เราแยกแยะได้ เราไม่ใช่วัวไม่ใช่ควายที่ภาษาคนพูดออกมาแล้วจะแบบว่ามันไม่ใช่เรา

สิ่งที่พี่รู้สึกแย่ ก็คือการมาแช่งลูกพี่ ทั้งๆ ที่ลูกพี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย แล้วคนเป็นพ่อ พี่บอกเลยนะ ตื่นเช้ามา ก่อนออกจากบ้านพี่สวดมนต์ให้ลูกพี่ทุกวัน ทุกวันจริงๆ ไม่เคยเว้น ในขณะที่มีคนนึงแช่งลูกพี่ พี่รับไม่ได้ เท่านั้นแหละเรื่องมีอยู่แค่นี้เลย

ถ้าในอนาคตลูกสาวพี่มาเห็นเขาจะว่ายังไง ว่าพ่อกูไปรับเงินคุณตั๊กมา 1 ล้านบาทหรือเปล่า นู่นนี่นั่น บอกว่าพี่ไปรับเงินคุณตั๊กมา แล้วก็มาทำคอนเทนต์ แต่ไม่ลงในช่อง 3 เอาไปนู่นนี่นั่น เนี่ยมีหลักฐานมีคนมาบอก กูได้หลักฐานกูจะเอามึงเข้าคุก ทุกคนดูหมดถูกมั้ย เพราะฉะนั้นเนี่ยวันนี้พี่เลยบอกว่าคุณมีหลักฐานอะไร คุณไม่มีแต่คุณมากล่าวอ้างลอยๆ ผมเสียหายนะ แล้วทางบ้านผมจะมองยังไง คนที่รู้จักผมจะมองยังไง

แล้วพี่มีหลักฐาน ที่จะให้คุณลีน่าจังได้ดูเลย คือจริงๆ แล้วสิ่งที่คุณพูดถึงอยู่ มันคือการทอล์คสินค้า 3 นาที ในรายการโหนกระแส ซึ่ง 3 นาทีนั้นเป็นเวลาของช่อง 3 ช่อง 3 ได้มีการนำออกไป คู่ค้านำไปเสนอขายให้กับคู่ค้า ซึ่งก็คือเอเจนซี่ต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือบริษัทชื่อว่า จีเอ็มเอ็น เอเจนซี่ (ไทยแลนด์) ซึ่งบริษัทนี้ก็จะนำเอาเวลาไปขายต่อ ในฐานะตัวกลาง

ปรากฏว่าก็จะมีสามีของคุณตั๊กมาซื้อ ซึ่งก็คือคุณเบียร์ คุณเบียร์ได้มาซื้อและได้จ่ายเงินให้กับบริษัทเอเจนซี่ เป็นค่าโฆษณา หลังจากนั้นบริษัทเอเจนซี่นี้ก็จะเอาเงินที่ได้มาไปหักลบกลบหนี้ คือเขาต้องมีส่วนได้อยู่แล้ว เขาต้องหักเปอร์เซ็นต์ของเขาไป แล้วก็ส่งกลับคืนมาที่ช่อง 3 เป็นเงิน 200,000 กว่าบาท เพราะฉะนั้นอันนี้คือหลักฐานชั้นดี ซึ่งพี่ไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เลย และทางช่อง 3 ก็จะรับเงินค่าโฆษณา จากบริษัทเอเจนซี่นี้ ซึ่งไม่มีชื่อของพี่เลย

แต่คุณกลับเอาเรื่องนี้ไปยัดเยียดว่า พี่เอาเงินจากคุณตั๊กมา แล้วเป็นเงินแบบสกปรก เป็นเงินนู่นนี่นั่น ยับ เพราะฉะนั้นอันนี้พี่ยอมไม่ได้ พี่ก็เลยให้ทนายทำเรื่องและยื่นฟ้อง ในข้อหาหมิ่นประมาททางอาญาและก็แพ่ง

เพราะฉะนั้นอันนี้พี่ก็ยืนยันว่า พี่ฟ้องจริง พี่ตั้งทนายฟ้องจริงนะครับ แล้วสิ่งที่ที่มันเป็นหลักฐานอย่างหนึ่ง ก็คือตัวคุณเองนั่นแหละครับ ที่วันนี้ไปขอโทษที่หน้าพญาไท ว่าฉันขอโทษนะที่ฉันเอาเรื่องหนึ่งล้านบาทไปพูด ฉันไม่รู้ ความผิดของคุณสำเร็จแล้วครับ แล้วนั่นคือสิ่งที่คุณยอมรับไปแล้วว่า คุณพูดถึงผมจริงๆ นี่คือหลักฐานชั้นดีในชั้นศาล จะประกอบเรื่องนี้ยื่นกับศาล กับสิ่งที่คุณขอโทษผมไปนั่นแหละครับ

เพราะเรื่องนี้ถึงคุณจะขอโทษผม ผมทราบผมรับเอาไว้ ผมรับรู้ว่าคุณขอโทษ แต่เรื่องนี้อย่างที่ผมบอกคุณด่าผมมา 5 วัน คุณด่าคุณแช่งลูกผม คุณด่าผมว่า ผมเป็นคนไม่ดีเป็นคนเลว นู่นนี่นั่นให้สังคมได้รับรู้ แล้วขอโทษแค่วันเดียวแค่นี้หรอครับ ไม่ใช่ครับ คือมันยังไม่รวมกับเคสอื่นๆ ที่มันเกิดขึ้นอีกนะครับ

เพราะฉะนั้นผมอยากให้เรื่องนี้มันเป็นบรรทัดฐาน ถ้ามีอะไรเดี๋ยวไปจบที่ศาล ศาลจะไกล่เกลี่ยก็ไกล่เกลี่ย ไม่เป็นไรเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย คุณจะขอโทษวันนั้นอีกก็ได้ที่ศาล ก็ให้ศาลท่านบันทึกเอาไว้เลย ว่าคุณจะไม่มายุ่งกับผมอีกไม่มาแตะกับผมอีก

แต่นับจากวินาทีนี้เป็นต้น ถ้าคุณยังพูดถึงผมอีก ผมจะเก็บเข้าแฟ้ม แล้วจะให้ทนายฟ้องทุกสัปดาห์ หรือนับจากนี้เป็นต้นไปถ้าเอ่ยถึงผมอยู่ จากโดยทางตรงทางอ้อม หรือไม่เอ่ยชื่อหรือโดยวิญญูชน ที่ทำให้คนอื่นสามารถรู้ได้ว่าเป็นผม ผมจะฟ้องคุณทุกสัปดาห์

แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณอยากจบ รอไปที่ศาลแล้วไปไกล่เกลี่ยที่นั่น ขอโทษผมต่อหน้าศาล และต้องขอโทษคนใต้ เพราะพ่อผมเป็นคนใต้ เพราะคุณเคยพูดเชื่อมโยงถึงคนใต้ ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ผมว่ามันไม่เป็นธรรม"

กับตัวเลข 5 ล้านบาท ทำไมถึงเป็นตัวเลขนี้?

"ผมว่ามันก็ดูสมน้ำสมเนื้อนะ คือ 5 ล้าน ไม่ใช่ราคาของเขานะ แต่เป็นราคาของพี่ เพราะว่า 5 ล้าน ได้มาเดี๋ยวพี่จะไปบริจาคตามหน่วยงานต่างๆทั้งหมด พี่ไม่เอาแม้แต่สลึงเดียวถ้าได้ ได้เท่าไหร่ให้เท่านั้น"

มันเป็นการเรียกเพื่อความสะใจไหม?

"ไม่ใช่ความสะใจครับ มันเป็นสิทธิ์ของพี่ที่พี่เสียหายนะครับ พี่เลยรู้สึกว่าด่าฟรีไม่มีในโลก"

ถ้าเขาไม่มีล่ะ?

"ก็ยึดทรัพย์ ถ้าเกิดคดีถึงที่สุดนะ ถ้าคดีถึงที่สุดแล้วเขาผิดจริงๆ ต้องบอกอย่างนี้ต้องเปิดกว้างให้เขาด้วย ว่าคดีถึงที่สุดแล้วจริงๆ แล้วผมเป็นฝ่ายถูก ศาลได้มีการสั่งให้ชำระเงิน ถ้าไม่มีการชำระเงินก็สืบทรัพย์กันต่อไป แต่ถ้าศาลบอกว่าโอเคคุณไม่ผิดนะ ก็จบ คุณจะมาฟ้องกลับผม ก็ว่ากันไป เท่านั้นเอง ก็คือแฟร์แฟร์กันทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณต้องการจะไกล่เกลี่ยไม่ใช่มาขอโทษผมตรงนี้ ไปขอโทษตรงที่ศาลโน่น ไปไกล่เกลี่ยที่นั่น อย่างน้อยจะได้ลงบันทึกอะไรไว้

แล้วอย่างที่บอกสิ่งสำคัญคือวันนี้ คุณยืนยันแล้วนะครับ ว่าคุณขอโทษผม ว่าได้มีการด่าผมเรื่องนี้ ทั้งหมดผมรวบรวมหมดแล้วนะฮะ ขอบคุณนะครับที่ยอมรับออกมาแบบนี้ ดีครับผมจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาหาที่อื่น"

กรณีที่เขาบอกว่าถ้าไม่รับคำขอโทษเขาจะแจ้งความกลับ?

"เป็นสิทธิ์ของเขาครับ ระบบอาญาเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา ใครจะมีการแจ้งความใคร จะอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายถ้าเกิดพิสูจน์ออกมาแล้ว ตำรวจไม่ได้มีการสั่งฟ้องไปที่อัยการ หรือตำรวจบอกว่ามันไม่ใช่ข้อความผิดต่างๆ นานา ผมก็แค่ฟ้องกลับ หรือแจ้งความกล่าวว่าแจ้งความเท็จ ก็โดนอีกก็คุกอีก ก็เลือกเอา"

ถ้าเขาบอกว่าหมดตัวแล้ว ไม่มีค่าธรรมเนียม?

"ไม่มีค่าธรรมเนียมหมดตัวแล้ว ไม่ควรไปด่าคนไง เท่านั้นเองครับ เรื่องมีอยู่แค่นี้เลย คือเราโตแล้วเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว คือผมบอกตรงๆ ผมไม่อาจเอื้อมที่จะไปสอนนะครับ แต่คุณเป็นทนาย คุณมีความรู้มีความสามารถ เป็นคนที่เด็กเจอก็ยกมือไหว้ เพราะฉะนั้นอย่าทำแบบนี้เลยครับ ไม่ดีหรอก อันนี้เป็นห่วงจริงๆ"

คนบอกว่าเป็นการเบี่ยงประเด็นหรือเปล่า จากที่เล่นแม่ตั๊กอยู่ มาเป็นประเด็นนี้?

"ไม่ได้เบี่ยงประเด็นครับ ยังไงผมเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เบี่ยงประเด็น เพราะประเด็นหลักมันคือเรื่องของแม่ตั๊กกับคุณเบียร์ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันเดินไปตามครรลองของมันอยู่แล้ว ผมเป็นแค่ภาคแยกเล็กๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากมายด้วย"

จากการนำเสนอของโหนกระแส วันนี้ได้มีการควบคุมตัว พี่หนุ่มมองว่ายังไงบ้าง?

"เพื่อความเป็นธรรมของเขา เขาก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง วันนี้ต้องบอกเลยว่าเขาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ คุณตั๊กกับทางคุณเบียร์ เพราะว่าตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน เขายังมีโอกาสที่จะต่อสู้ทางคดีความได้ เขาเป็นผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ต้องสงสัยต่างๆ นานา ก็ว่ากันไป แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องสืบกระบวนการตามชั้นศาล"

คำพูดที่ว่าเล่นกับใครก็ได้ เล่นกับหนุ่มกรรชัย มันกลับมา?

"อ๋อ ไม่ๆๆ ไม่เลยครับ จริงๆ แล้วมดดำพูดเวอร์ไปอย่างนั้นเอง แล้วก็อย่าไปคิดเลยว่าผมเป็นคนที่แตะต้องไม่ได้ ผมทำอะไรผิดก็ด่าผมได้ ว่าผมได้ เพราะฉะนั้นผมก็ยังยืนยันนะครับ ว่าอย่างที่เขาไปบอกว่า ผมเป็นคนสาธารณะ เพราะฉะนั้นเขาสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ จริงครับ คนสาธารณะ อย่างนักแสดงคุณวิพากษ์วิจารณ์ได้ ผมเองคุณก็วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่คุณต้องแยกให้ออกก่อนว่า การวิพากษ์วิจารณ์กับหมิ่นประมาท มันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่

คุณจะบอกว่าผมทำรายการ ทำรายการไม่สนุก นักแสดงคนนั้นเล่นไม่ดี ถ้าไม่อย่างนั้นอย่างนี้ไม่หล่อเลย อันนี้วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่การที่จะไปบอกว่าเขาเป็นคนไม่ดีเป็นคนเลวคนชั่ว อันนี้คุณหมิ่นประมาทเขา โดยที่คนไร้ซึ่งหลักฐานด้วย แยกให้ออกก่อน ก่อนที่คุณจะด่าใครคุณต้องวิเคราะห์ แล้วแยกให้ออกก่อน อันนี้ฝากเตือนทุกคนนะครับ"

อย่างกรณีข้าวมันไก่ ที่ลีน่าจังเอาไปเลี้ยง ที่สน. พญาไท แล้วไม่มีใครกิน เรื่องนี้พี่หนุ่มมีความคิดเห็นยังไงบ้าง?

"ก็ไม่เป็นไรครับ ก็ฝากบอกตรงนี้ว่าข้าวมันไก่ที่ประตูน้ำอร่อยมากนะครับ แต่ว่าโอเลี้ยงกับผัดไทยที่ศาลก็อร่อยไม่แพ้กัน".