ครบรอบ 7 วัน สำหรับการจากไปของ ชรินทร์ นันทนาคร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงไทยสากล) พุทธศักราช 2541 ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา และเมื่อคืนเป็นการสวดพระอภิธรรมคืนที่ 7 ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย และหลังจากที่สวดพระอภิธรรมเสร็จ ได้มีพิธีวางดินขาวดินดำภายในศาลา 9 จากนั้นเวลา 19.30 น. เคลื่อนร่างไปบรรจุที่สุสาน วัดธาตุทอง ซึ่งทางครอบครัวจะเก็บร่างไว้ 100 วัน เพื่อรอพระราชทานเพลิงศพช่วงปลายปีนี้
โดย แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในฐานะหลานของคุณตาชรินทร์ นันทนาคร พร้อมพูดถึงสภาพจิตใจของ คุณยายเพชรา เชาวราษฎร์ ภรรยาคู่ชีวิตของคุณตา เผยว่า จิตใจของคนในครอบครัวตอนนี้ก็ดีขึ้น ถ้าเทียบกับสภาพในวันแรก เรารู้มานานแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ยังทำใจไม่ได้ จะว่าเร็วไปไหมก็ไม่เชิง ด้วยความที่ว่าตอนที่คุณหมอบอกกับตอนที่ท่านจากไปจริงๆ มันก็เร็วกว่าเยอะพอสมควร เพราะคุณหมอบอกว่าน่าจะอีกอาทิตย์นึง แต่ความจริงคือไม่ถึง 2 วันท่านก็ไปแล้ว มันก็เลยยังมีความช็อกนิดนึง
...
แหวนเองก็ยังร้องไห้หนักมาก เพื่อนๆ ไม่เคยเห็นสภาพเราเป็นแบบนี้เลย แล้วทั้งชีวิตแหวนไม่เคยเห็นคุณยายร้องไห้เลย แม้กระทั่งวันที่คุณตาเสียก็ไม่ได้ร้องแบบนั้นนะ เขาจะนิ่งๆ เก็บอารมณ์เก่ง จนวันที่รดน้ำ เราเห็นแล้วใจเสียเลย เราก็พยายามตั้งสติ ไม่ให้ร้องไห้ ทำให้งานราบรื่นด้วยดี
พอเห็นคุณยายก็ใจเสีย แกร้องไห้แบบระเบิดอารมณ์ออกมา แต่คุณยายเป็นคนที่ค่อนข้างจะเก็บอารมณ์ได้เก่ง วันนั้นก็ปล่อยโฮเพราะเก็บไม่ไหวเหมือนกัน แต่หลังจากนั้นมาก็ค่อยๆ ดีขึ้น คือทุกคนก็มาหาแกทุกวัน คอยปลอบใจ แกก็ค่อยๆ ดีขึ้น แต่แกก็เหนื่อยด้วยเพราะงานจัด 7 วันรวดเลย แล้วแกก็ไม่ค่อยได้นอน วันแรกนอน 1 ชม. แล้วข้าวก็ไม่กิน น้ำก็ไม่กินเลย จนหลานแท้ๆ ที่เฝ้าก็บอกว่าให้นอนบ้าง คนเฝ้าไม่ไหวแล้ว เพราะแกนอนไม่หลับ ทำยังไงก็ไม่หลับ
ก็เข้าไปปลอบคุณยายเพชรากันตลอด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานและมาให้กำลังใจคุณยายมากๆ ซึ่งเราก็บอกว่า มีแต่คนรักคุณยาย กำลังใจเยอะมากเลยนะ แต่แกก็บอกว่า แล้วหมดงานศพไปจะมีใครมาหายายมั้ย ซึ่งแกก็กลัว เพราะหลังจากนี้ต้องอยู่คนเดียวแล้วนะ อย่างวันก่อน หวาย ก็ถามว่าคุณยายเป็นยังไงบ้าง แกก็บอกว่า ก็ดูสิ คนหนึ่งในชีวิต แต่คนที่เป็นอีกครึ่งชีวิตหายไป ก็เลยบอกว่ายังมีพวกเรานะ แกก็ถามว่า จะมาหามั้ย
เพื่อนๆ ก็ช่วยกันคิดว่าจะจับคุณยายแต่งตัว หาอะไรให้คุณยายทำเพลิดเพลิน อาจจะหาโปรเจกต์น่ารักๆ ถ่ายแบบคู่กัน อี๊ด เพชรา - อั้ม พัชราภา น่ารักๆ วันที่พี่อั้มมาถ่ายรูปก็กลายเป็นไวรัล ก็เลยคุยกันกับเพื่อนๆ หาอะไรให้แกทำ แกจะได้เอ็นจอย เดี๋ยวพี่หมู อาซาว่า จะมาตัดชุดให้ น้องฉัตร จะมาแต่งหน้าให้ และอีกหลายๆ ท่าน เพื่อถ่ายแบบคู่กับพี่อั้ม พัชราภา ฟีลตำนานนางเอก 2 ยุค หาโปรเจกต์น่ารักๆ ให้แกทำ สรรหากิจกรรมให้แกทำ คือคุณยายท่านสวยเป๊ะตลอดจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังจิกส้นเข็มมางาน ทำผมนอน เพื่อนทุกคนที่มางาน เค้าอยากให้คุณยายแฮปปี้ คือทุกคนเข้าใจหัวอกคุณยายว่าเป็นยังไง พอได้มาเจอก็รู้สึกว่าเราต้องช่วยกัน
...
คุณยายก็มีหลานสาว หลานสะใภ้ ซึ่งก็อยู่กับเราตลอด ดูแลคุณยายดีมากๆ แต่ก็สงสารพี่เค้ามากๆ เพราะช่วง 7 วันมานี้คุณยายไม่นอนเลย ไม่กินเลย ถ้านอนก็นอนเพราะเหนื่อย แต่แป๊บเดียวก็ตื่นมาแล้ว
ตอนนี้คุณยายแกก็ต้องการกำลังใจ เหมือนตอนนี้แกตัวคนเดียวแล้ว ก็เลยดูเคว้ง เลยจะเห็นภาพที่หลานไปกอด ไปจับมือเพราะคุณยายแกชอบจับมือ จะได้รู้สึกเหมือนอบอุ่น ดูปลอดภัย ช่วงหลังจากนี้จนถึงวันเผาต้องดูแลจิตใจเป็นพิเศษ
แหวนแหวน เผยว่า เป็นคำมั่นสัญญาที่มีให้ไว้กับคุณตาว่าจะดูแลคุณยาย เพราะคิดว่าคุณตาไม่อยากไปและไม่ยอมไป พยายามสู้มาตลอดเพราะเป็นห่วงคุณยาย จริงๆ ช่วงปีที่แล้วมีวืดไปรอบนึงแล้ว แต่ก็ฮึบกลับขึ้นมาได้ แกสู้มาได้นานมาก คุณหมอบอกว่า แกสู้มากกว่าที่คิด ตอนนั้นคุยกับแม่แก้ว แม่ณเดชน์ คูกิมิยะ เค้าบอกว่าดวงเขามาคู่กันเลยนะ ให้คุณยายเพชรจับมือคุณตาไว้ แบบว่าให้อยู่ด้วยกัน เราก็ทำตามที่แกว่า แม่แก้วบอกดวงคุณยายเป็นพระอาทิตย์ของคุณตา ก็ไปจับมือเฝ้าแล้วอาการก็ค่อยๆ ดีขึ้น คือเป็นอย่างนั้นมาตลอด เหมือนมันอเมซิ่ง จนสุดท้ายหมอก็บอกว่า เหมือนคุณตาไม่ไหวแล้ว ไม่น่าได้กลับบ้านแล้วนะ แกก็ไม่จับมือรั้งไว้แล้ว แกก็ปล่อยวาง จากที่แกเคยกำมือคุณตาแกก็จะแค่ลูบๆ แล้วก็บอกคุณตาว่าไม่ต้องห่วง
...
เมื่อถามว่า คุณตาชรินทร์ มาหาบ้างมั้ย แหวนแหวน บอกว่า "ยอมรับเป็นคนกลัวผีมาก ถึงขั้นรุนแรง ไปเคาะโลงคุณตาถ้ามา มาในฝันนะ แล้วก็ฝันถึง มีวันหนึ่งนั่งถ่ายรูปกันในศาลาแล้วเฟรมมันไม่ได้ คนมันล้นเฟรม แม่หวานกับแม่แหวนก็เลยให้หวายกับแหวนเป็นตัวแทนถ่ายภาพ พอถ่ายไปได้ชอตเดียวอยู่ดีๆ ก็ไฟดับ พอไฟเริ่มมาก็ถ่ายอีกแล้วไฟก็ดับอีก ก็เลยเอาคุณหนิงกับคุณหน่องเข้าเฟรมด้วย ไฟก็ติด อันนี้อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้
...
ส่วนความรู้สึกในฝันแกก็มาดี มาคุยเล่นกัน แต่ความรู้สึกคิดว่าแกยังไม่ไปไหน คิดว่าแกยังวนเวียน คนที่รู้จักที่มีเซ้นส์ก็บอกแกยังอยู่ ยังวนเวียนอยู่ไม่ได้ไปไหน เอาจริงๆ แหวนว่าแกยังไม่อยากจะไป เป็นห่วงคุณยายก็เรื่องนึง อีกเรื่องคือแกยังอยากเล่นคอนเสิร์ต อยากเจอแฟนเพลง อยากแฮงเอาต์
ก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาลก็ยังนั่งลิสต์เพลงชรินทร์ อินคอนเสิร์ต แกแพลนไว้หมดแล้ว เขาไม่ใช่คนแก่ 91 แล้วจะมานอนติดเตียง แกแอ็กทีฟตลอด ตอนแกอยู่โรงพยาบาล แกก็ถอดสายน้ำเกลือ จัดโต๊ะต้อนรับเพื่อนที่มาเยี่ยม นั่งชิลกัน แกอยากจะออกไปแฮงเอาต์ อยากเจอผู้คน จริงๆ เราอยากให้แกอยู่ไปถึง 100 ปีนะ เพราะเอเนอร์จี้แกยังล้นเหลือ เพียงแต่ร่างกายแกไม่ไหวแล้ว".