เป็นการสูญเสียที่ไม่อยากให้เกิด สำหรับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ เบียร์ สรณัฐ มัสยวาณิช น้องชายของ ฟลุค เกริกพล ที่ได้จากไปอย่างกะทันหัน ทำเอาคนในครอบครัวต่างเสียใจ ตกใจ และรู้สึกเศร้าอย่างมากกับการจากไปของบุคคลอันเป็นที่รัก และตัว ฟลุค เองก็ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานศพของน้องชายได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ล่าสุดได้เจอ ฟลุค มาร่วมงานเปิดตัวละคร รอยรัก รอยบาป ที่ช่อง 7HD เจ้าตัวก็พูดถึงน้องชายว่า
ย้อนถามถึงเรื่องที่สูญเสีย เบียร์ สรณัฐ น้องชาย อย่างกะทันหัน?
"ยอมรับว่างงมาก เป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึงอยู่แล้ว พูดตรงๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริง เพราะที่ผ่านมาเราก็จะเจอกันทุกวันเกิดไม่ว่าจะของใครสักคนในบ้าน แล้วก็มีนัดกินข้าวกันบ้างอยู่เรื่อยๆ เลยอาจจะยังรู้สึกว่ามันไม่จริงก็ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่กล้าไปหาน้องที่บ้าน ไม่อยากไปรับความรู้สึกนั้น แต่มันก็ใกล้แล้วเพราะผมคิดว่าจะไปเยี่ยมน้องที่บ้านก่อนที่จะไปลอยอังคาร"
ก่อนหน้านี้รู้ไหมว่าเขามีปัญหาสุขภาพ?
"จริงๆ เขาก็เป็นคนมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แต่มันไม่ได้เยอะอะครับ เช่น สมมติต่อมน้ำเหลืองไม่ดีต้องใช้สเตียรอยด์ในการทา มันเป็นเรื่องปกติที่เรารับรู้ตั้งแต่เขาเป็นเด็กๆ เราก็รู้สึกว่าอันนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเราจะต้องเป็นคนที่…ผมนึกว่าเขาต้องเป็นคนมาจัดงานศพให้ผมอะ ผมเป็นพี่เขาเยอะพอสมควร"
...
คุณหมอได้บอกไหมว่าสาเหตุมาจากอะไร?
"ผมได้รับคำบอกกล่าวจากคุณพ่อกับน้อง ผมไม่รู้เรื่องเลย อยู่ดีๆ พ่อก็พิมพ์มาในกรุ๊ปว่า "น้องไปแล้วนะ" ผมก็งงว่าคืออะไรอะ หรือพูดเล่นปะวะ ผมก็จะเป็นแบบพ่อพูดเล่นเหรอ คือเป็นเรื่องพูดเล่นเหรอ พ่อบอกไม่ได้พูดเล่น ตอนนั้นก็ตกใจครับ"
เกี่ยวกับการใช้ชีวิตนอนดึกอะไรแบบนี้ด้วยไหม?
"เราไม่รู้จริงๆ แต่ว่าก็แค่เสียดาย เสียดายว่ามันเร็วอะ คือผมไม่รู้นะว่าเมื่อไหร่มันคือเวลาที่ใช่อะ แต่ว่าถ้ามันเกินสักเลข 5 เลข 6 ต่อให้ใช้ชีวิตแย่แค่ไหนก็ยังโอเคเนาะ แต่นี้มันเร็วมาก"
แล้วเป็นจังหวะที่ไปต่างประเทศเลยไม่ได้มาร่วมงานน้อง?
"ตอนนั้นเพิ่งไปพอดี แล้วก็จริงๆ แล้วมันเป็นจังหวะที่ผมกำลังจะย้ายเมือง คือที่ไปอเมริกาเนี่ยเราไปเทรนด์ทำร้านอาหาร แล้วมันต้องไปทั้งแอลเอแล้วก็ลาสเวกัส มันเป็นวันที่ผมจะย้ายไปลาสเวกัสพอดี เราใช้วิธีขับรถไปเพราะว่าของเยอะ ไม่สามารถบินไปได้
ฉะนั้นถ้าผมไปน้องลีกับนาชาตาก็จะไม่มีที่อยู่ แล้วงานที่จะไปเทรนด์ก็เทรนด์ไม่ทัน แล้วบินกลับมามันก็เหลือแค่ 3 วัน เพราะเขาลดเวลาเนื่องจากติดสงกรานต์ บินกลับมายังไม่ถึงเลยก็จะจบแล้ว เลยคุยกับที่บ้านว่ายังไงดี งั้นก็ช่วยเก็บไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวไปขอจัดการเรื่องลอยอังคารได้มั้ยประมาณนี้"
แต่ตอนอยู่ที่โน่นใจก็ไม่นิ่งใช่ไหม?
"คือวันแรกมันก็งง แล้วพออีกสัก 3-4 วัน เราก็ไปทำบุญ เราไปวัดไทยที่นู่นก็ทำบุญให้น้อง เป็นครั้งแรกที่เวลาเราทำบุญแล้วปกติเราจะอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้คุณทวดที่ล่วงลับไปแล้ว หรือคุณตาคุณยายฝั่งคุณแม่ อันนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้นึกถึงใครเลย นึกถึงเบียร์คนเดียว แล้วก็ระหว่างที่เราทำบุญ คือผมเป็นคนไม่ค่อยอินกับศาสนาเท่าไร แต่วันนั้นก็ขนลุก รู้สึกเหมือนน้องมา"
รู้สึกยังไงถึงสัมผัสได้ว่าเขามา?
"คงเหมือนกับว่าเราทำบุญแล้วนึกถึงเขาคนเดียว เราก็รู้สึกว่าเขามารับ เนี่ยพูดก็ขนลุกอีกละ"
มีลางอะไรไหม?
"ไม่มีๆ เพราะว่าก่อนหน้านั้นเป็นวันเกิดน้องอชิ ก่อนจะไปแค่ไม่กี่วัน แล้วเราก็จัดงาน เบียร์ก็ยังมาเป็นคนถ่ายวิดีโอให้ แล้วก็แบบเหมือนเดิม คือเขาเป็นคนน่ารัก เขาเป็นคนที่รักพี่รักน้องมาก แล้วก็จะเป็นคนเดียวในพี่น้องที่จะมีของขวัญให้นาตาชาตลอด คือทุกครั้งที่มาจะต้องซื้อของมาให้หลาน ซึ่งแบบของขวัญก็น่ารัก เป็นแบบเป้ ทุกวันนี้เราก็จะบอกนาตาชาอันนี้อาเบียร์ให้หนู"
มีอะไรที่ติดค้างที่ยังไม่ได้บอกน้องชายไหม?
"ไม่มีเพราะว่าผมก็คุยกับเขาเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม ถ้าปัญหาที่เขาคิดว่ามันหนักอะ คิดว่าปรึกษาผมได้ เขาก็จะโทรมา เขาจะเป็นคนที่คุยกับผมเป็นชั่วโมงในหลายๆ ครั้งที่มีปัญหาชีวิต"
หลานๆ ดูผูกพันกับอาเบียร์มาก?
"เขาเป็นคนที่เล่นกับหลาน แล้วก็เอาจริงๆ ที่บ้านไม่ได้มีหลานคนอื่น ที่บ้านเบียร์ก็มีแค่อชิ แล้วก็มานาตาชาเลย เลยทำให้สนิทกัน บ้านผมไม่ได้บ้านใหญ่"
...
หลานๆ ถามถึงไหม?
"อชิเลยวัยที่คุยกันเพราะอายุ 21 ละ นาตาชายังไม่รู้จักอาเบียร์ดีเท่าไร เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่เขาก็จำได้ เราก็จะเปิดวิดีโอให้ดูเรื่อยๆ เอาของเล่นให้ดูว่าอาเบียร์ซื้อมาให้นะ"
ฝันถึงบ้างไหม?
"ไม่ได้ฝันถึง (ไม่มาเลยเหรอ?) ไม่มา"
สภาพจิตใจคนในครอบครัวเป็นยังไงบ้าง?
"ผมคงตอบแทนคนอื่นไม่ได้ เพราะยังไม่ได้คุยกันเลย เพราะเหมือนกับว่าเราพยายามคุยแล้วไม่อยากพูดถึงอะ ไม่มีใครอยากพูดถึง พอพูดถึงแล้วมันก็จะรู้สึก ทุกวันนี้ผมเองก็พยายามที่จะไม่แตะส่วนนี้ในหัวว่าน้องไม่อยู่ เพราะก็เชื่อว่ายังอยู่"
ตอนนี้ทำใจได้หรือยัง?
"ผมไม่อยากทำใจ รู้สึกว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะต้องทำใจ ผมว่าวันลอยอังคารอาจจะเป็นอีกฟีลลิ่งหนึ่ง แต่วันนี้ก็ยังรู้สึกว่ายัง"
แพลนลอยอังคารที่ไหน?
"ผมคิดว่า..คิดแทนนะ ผมไม่อยากไปอยู่แบบไกลๆ ที่มันแบบน่ากลัวๆ บางคนเขาก็จะแบบออกทะเลใช่มั้ยให้ไปไกลๆ ผมก็คิดกับที่บ้านว่า ทุกคนชอบแบบความสุข แฮปปี้ ชอบดนตรี เลยจะลอยแบบออกไปเจ้าพระยาเนี่ยแหละ ออกไปข้างนอกหน่อย แต่ให้มันมีความรู้สึกว่าอยู่ในเมือง คือแบบไปเยี่ยมได้
...
ถ้าเป็นผมก็ไม่อยากไปอยู่ไกลๆ นะ ขออยู่สวยๆ ถ้าเกิดที่บ้านไม่ว่ากันโรยที่สระก็ได้ ถ้าเป็นผมๆ อยากอยู่ใกล้ๆ ผมไม่อยากไปไกลนะ ให้ไปไหนอะ ไม่เอานะ แบบเอาใกล้ๆ ได้ปะ กลัวเหมือนกัน เลยคิดแทน…ก็หวังว่าเขาจะชอบ".
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิง” เพิ่มเติม