เป็นที่รู้กันว่า เสก โลโซ นั้นเคยทำธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังแต่สุดท้ายก็เจ๊ง สูญเงินไป 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวมองว่าเพราะคิดทำการใหญ่หวังจะเป็นเจ้าสัว แต่เพราะมีสายป่านสั้นและเงินทุนไม่มากพอเท่ากับเจ้าใหญ่ๆ จึงทำให้ล้มไม่เป็นท่า ซึ่งเสกได้เผยถึงจำนวนเงินที่ต้องใช้ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในรายการกรรมการข่าว คุยนอกจอ ว่า
พอหย่ากับเมียไป ก็มีเงินของตัวเองที่จะเอาไปใช้ได้อย่างสบายๆ ก็เลยมีความคิดจะเอาไปต่อยอดตามคาราวบาวแดงที่เขาทำสำเร็จ ก็เลยทำขึ้นมา ลูกน้องมาเสนอ บอกว่าทำอันนี้มันขายได้ ซึ่งมันก็ขายได้ในช่วงนั้น แต่พอจะไปสู้ยี่ห้ออื่น เราสู้เขาไม่ได้ เงินต้องใช้เยอะมาก 100 ล้านนี่คือประติ๋วของเขาเลย ผมจ้างเขาผลิต ตอนนั้นแค่จะเข้าเซเว่นยังเข้าไม่ได้เลย เพราะมันมีเจ้าใหญ่ที่เป็นเจ้าของตลาด เขาห้ามไปขายแข่งเขา แล้วตลาดนี้ใช้เงิน 36,000 ล้าน สำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง แล้วเงิน 100 ล้านของเรามันขี้ประติ๋วมาก
เคยเข้าไปคุยกับเขา แต่เขาบอกว่า เอาของพี่แอ๊ดมาขายอยู่ จะเอาของผมมาขายก็เกรงใจเขา จะเอาไปขายก็ลำบากมาก ตอนที่ทำขายศึกษาการตลาดจะเข้าเซเว่นต้องมีสินค้าสต๊อก 3 เดือนถึงจะจ่ายเงินให้ เพราะเคยเอาเบียร์ไปขายเซเว่นแต่ก็ไม่รอดเหมือนกัน เราไม่มีทุนขนาดนั้น สายป่านเราสั้น เจ๊งเลย 100 ล้านหายไปเลย 2 ปีที่ทำ ผมทำหมดทุกอย่าง ทำเพลง ซื้อโฆษณา ลูกน้องก็เอาไปทำการตลาด ตั้งบูธแจกทดลองกิน สู้มา 2 ปี ผมบอกว่าถ้าหมด 100 ล้านผมพอเลย เพราะต้องเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นต่างๆ นานา
...
ผมยังจำที่พี่บอกผมได้ว่าทรัพย์สินอยู่ในตัวผม ก็เลยไปเล่นดนตรีดีกว่า แต่ก็มีคนอยากลงทุนกับผม แต่เมียไม่อยากให้ทำเพราะขาดทุนไปแล้ว ก็ออกไปเล่นดนตรี สบายไม่ขาดทุน ถ้าไม่ดิ้นรนก็ไม่เสีย 100 ล้าน เสียดายแต่ก็ต้องตัดใจ เรื่องธุรกิจอยากทำอีกมั้ย คือผมคิดการใหญ่ ผมกะเป็นเจ้าสัว คิดการใหญ่เกินไป ผมคิดว่าจะดูแลทุกคน ทั้งครอบครัวและคนที่ทำดนตรีด้วยกัน ถ้าทำโลโซดีแล้วประสบความสำเร็จก็จะดูแลได้หมด แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ไม่ได้อะไร ข้าวสารก็เคยจะทำ แต่เขาบอกกำไรได้น้อย ก็เลยไม่ได้ทำ
ชีวิตที่ประสบปัญหา?
ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ผมเป็นห่วงผมทุกคน เพราะหลังจากที่ล้มเรื่องธุรกิจมา ก็เสียคนเหมือนกัน ก็รู้สึกว่าตัวเอง ลูก ครอบครัวไม่มีแล้ว ดีที่กานต์ให้อภัย และกลับมาและแต่งงานกันอีกรอบ กานต์ก็ช่วยดูแลทุกอย่าง ทั้งเรื่องธุรกิจและลูกเต้า ทุกวันนี้ก็เริ่มดีขึ้น ตอนนี้ก็เล่นคอนเสิร์ต มีงานเยอะ