ตัวแม่วงการบันเทิงแถวหน้าของเมืองไทย ตุ๊ก ญาณี ที่ควงลูกชายคนเดียว แฟรงกี้ ญาธิป มาเปิดความน่ารักสไตล์แม่-ลูก พร้อมตอบกระแสสังคมที่ถูกมองว่าเป็นดาราขาลง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

มีกระแสข่าวพี่ตุ๊กตกอับ ไม่มีงานทำ?

ตุ๊ก : นี่ยังน้อย วอนของาน แล้วก็ตัดหน้าดิฉันที่เล่นละครน้ำตาหยด เก่ง ขอบคุณมาก ไม่งั้นไม่ได้ออกรายการนี้ โถ่..ตกอับ แม่คุณเอ๊ย ตกอับ ชีวิต

เดี๋ยวเขาเชื่ออีก?

ตุ๊ก : คนเรานี่นะ สมองมันต้องมีพุทธิปัญญา วิจารณญาณ คนไม่เชื่อเขาก็แก้แทน เด็กที่อยู่กับแม่บอกหนูอยากเข้าไปด่าจังเลย วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าดู อย่าอ่าน

ช่วงนี้ทำอะไรบ้าง?

ตุ๊ก : ไม่ทำอะไร ทำใจ ตกอับจะไปไหนรอด ไปไหนก็ต้องใช้เงิน

เอาตรงๆ ไม่ได้ลำบากเลย?

ตุ๊ก : แต่ก็ไม่ได้หรูหรา ต้องบอกนิดนึง ไม่เคยของานใครทำ เขาต้องดูความเหมาะสม ไม่ทำให้คนลำบาก แต่ถ้ามีปาร์ตี้ขอไป แต่งานไม่ขอ

...

พอมีประเด็นขึ้นมา ลูกชายว่ายังไง?

แฟรงกี้ : เราเห็นอยู่ครับ

ตุ๊ก : ไม่เห็นมันพูดอะไรเลย วันนั้นเดินเข้าร้านของพ่อเขา แล้วเขาเป็นเชฟขายพิซซ่า เราเดินเข้าไป คุณญาณี ขอตรวจกระเป๋าหน่อย เฮ้ย…มันเล่นมุกอะไร เรานัดเพื่อนไว้ข้างใน มันบอกขอดูกระเป๋าตังค์หน่อย มีเงินหรือเปล่า เห็นข่าวลงว่าตกอับ

แม่ทำอะไรไม่ค่อยแคร์สื่อ ไม่ว่าจะเป็นการจิบ การดื่ม การสูบบุหรี่ หรือว่าอะไรหลายอย่าง?

ตุ๊ก : เดี๋ยวก่อนนะ ฉันดื่ม ฉันเคยขอเงินใครมาดื่มไหม ปอด ตับ ใครมาใช้กับฉันไหม ฉับสูบแล้วเคยไปพ่นใส่หน้าใครในที่สาธารณะไหม นั่นคือความสุขของแต่ละคน ไม่ได้บอกอันนี้ดี ไม่เคยโปรโมต มันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ดูดบุหรี่ไม่เคยฆ่าแม่นะ แต่ยาบ้า ฆ่าแม่นะ ฆ่าผัว ทะเลาะกันทุกวัน

ความสุขของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางคนชอบเล่นไพ่ บางคนชอบปาร์ตี้ บางคนชอบอยู่บ้าน?

ตุ๊ก : ที่พูดมาถูกหมดเลย ไพ่ก็ชอบเล่น ถ้าสังเกตนะช่วงแรกเล่นไพ่ หลังๆ เล่นไพร่ ด่ากันฉิบหายวายป่วง

แฟรงกี้บอกว่าคุยทุกเรื่องกับคุณแม่เลย?

แฟรงกี้ : ก็คุยนะ ถ้ามันจำเป็นจริงๆ ถ้าไม่จำเป็นอย่าคุยดีกว่า คือถ้าไม่คุยเดี๋ยวเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ตุ๊ก : สืบๆ เราไม่เล่นเฟซบุ๊ก ก็ไปถามลูกหลานว่าแฟรงลงอะไรบ้าง

เวลาเจอสาวๆ ของแฟรงกี้จริงๆ เป็นยังไง หวงลูกไหม?

ตุ๊ก : ไม่หวง

เคยเจอไหม?

ตุ๊ก : เคยเจอ มันก็มีกติกา มารยาท เขาบอกว่าสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ส่วนความโง่ ความฉลาด ไม่ใช่คุณจบ ป.4 แล้วคุณโง่ไม่จริง สมองเขาพัฒนาแล้ว ไม่ใช่คุณจบปริญญาเอกแล้วคุณฉลาด ไม่จริง คนโง่ก็เยอะ

แฟรงกี้ : ตอนแรกทำเป็นดุๆ สักพักเอากระเป๋าแบรนด์เนมมาให้ เอาลูก เอาใบนี้ไป เอารองเท้านี้ไป

ตุ๊ก : ก็ไม่มีลูกสาว ถ้าตายไปจะให้ใคร แต่เวลาให้ของต้องถามก่อนนะว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบอย่าเอาไป เพราะเราจะไปให้คนที่เขาชอบ

ความลับของลูก แม่จะรู้หมด?

ตุ๊ก : ถ้าเราว่าลูกเราเป็นเด็กที่ร้ายกาจ เกเร ไม่ใช่เด็กที่ไปโรงเรียนแล้วกลับบ้านอ่านหนังสือ เราจะรู้ทันมัน เราต้องร้ายกาจ สมัยเด็กเราก็ไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ต้องมาเล่นมุกนี้ เรารู้ เราเล่นมาแล้วตอนเด็ก

แต่เขาน่ารัก เชื่อฟังแม่?

ตุ๊ก : ไม่ มันทำหน้าเชื่อฟังไปแบบนั้น ยายรักมากเลย แฟรง หนวดเยอะมาก โกนนะ ครับ แต่ทำไหม ไม่ทำ ไม่เถียง

แม่ดุไหม?

แฟรงกี้ : ไม่ดุครับ

...

ไม่ทำการบ้าน?

แฟรงกี้ : เขาไม่สอน

ตุ๊ก : ขอโทษ ดิฉันมีนัดปาร์ตี้ทุกเย็น พี่เลี้ยงเขามาละ น้องตุ๊กคะ แฟรงเขาทำการบ้านแล้วทำไม่ได้ นี่เลยบอกว่าเรื่องของมัน รู้ไหมเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ค่าเทอมปีละกี่แสน ฉันส่งไปเรียนดีแล้ว ช่วยตัวเอง ถ้าไม่ทำ ก็ทำโทษไม่ว่าครู บางคนเขาชอบเรียนกับลูก แต่พี่บอกว่าจบการศึกษาแล้ว ไม่อยากเรียนแล้ว

แม่บ่นเรื่องอะไร?

แฟรงกี้ : กลับบ้านดึก

ตุ๊ก : กลับบ้านดึกเราไม่ว่า ความห่วงใยของแม่บอกหน่อย เราจะได้รู้ แต่ไม่ใช่แบบโทรไปไม่รับ

เวลาแม่โกรธเราทำยังไง?

แฟรงกี้ : เราอย่าไปตอบโต้ เราเงียบ ครับๆ ขอโทษครับ แค่นั้น ไม่งั้นยาว

สปอยล์เต็มที่เลย ถ้าลูกชายคนนี้อ้อน?

ตุ๊ก : เราเป็นคนใจอ่อนเอง คือปากร้าย ด่าๆ สมัยก่อนพ่อเขาทำโทษ ทำผิดๆ ห้ามออกไปไหน ห้ามเพื่อนเข้าบ้าน นี่ก็มา วันเกิดของอัครินทร์เพื่อนรักผม แฟรงนั่นนี่ แฟรงต้องไปวันเกิดเพื่อน แม่ก็ฟังไปแล้วคิดเองแล้วไปพูดกับพ่อมัน ให้เขาออกไปหน่อยแล้วให้เขากลับมา 4 ทุ่ม คนเราเวลาทำอะไรกับใคร สำหรับพี่บอกอย่าให้เขาจนตรอก คำที่บอกว่าอย่าให้หมามันจนตรอก มันจะกระโจนกัด เพราะฉะนั้นให้มันได้มีทางไป ได้มีทางระบาย

ปกติแม่สปอยล์ลูก ลูกจะเอาแต่ใจ แต่นี่ไม่เป็น?

แฟรงกี้ : แม่สอนให้เป็นคนดี ใจกว้าง อย่าไปเอาเปรียบใครมาก

เราเป็นลูกแม่ ใครๆ ก็รู้จักแม่ ทำตัวยากไหม?

แฟรงกี้ : มันมีความกดดัน ตอนหลังก็เป็นตัวของตัวเอง ตอนเด็กๆ 18-19 แม่จับแฟรงนั่ง บอกว่าเริ่มไปเที่ยวแล้วนะ ทำอะไรดูด้วยนะ ระวังตัว ระวังกระทบถึงแม่ เราก็โอเค ออกไปข้างนอกเราก็ไม่บอกว่าเราเป็นใคร แต่พวกเพื่อนๆ แบบ เนี่ย..รู้เปล่า ลูกใคร

...

ย้อนไปอดีตนิด พี่ตุ๊กเลิกกับสามี ตอนนั้นแฟรงกี้กำลังวัยรุ่น 16-17 แล้วเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ตอนนั้นรู้ด้วยตัวเอง หรือคุณแม่บอก?

แฟรงกี้ : ไม่รู้เลย เป็นเทอมแรกที่ไปโรงเรียนประจำที่นู่น พวกยูไม่อยากบอก เพราะกำลังปรับตัวกัน

ตุ๊ก : พี่ขอไว้ หนังสือพิมพ์อะไรอย่าเพิ่งลง ขอให้พี่เป็นคนแรกที่พูดกับลูก

แฟรงกี้ : ยูไปรับที่สนามบิน แล้วถามว่าพ่อไปไหน ทำไมคนขับรถเป็นคนใหม่ แม่บอกว่าเขาเสียแล้ว พอกลับมาบ้านถามว่าแด๊ดอยู่ไหน เขาบอกว่าเลิกกันแล้ว เลยบอกโอเค ไม่เป็นไร

ตุ๊ก : เขามาตบบ่า แฟรงก็รู้แหละ

แฟรงกี้ : ตอนนั้นมี๊เริ่มใช้ชีวิตแบบห่างกันนิดนึง มันเป็นเพื่อน

ตุ๊ก : อยู่กันคนละห้อง ดูกันคนละช่อง กิจกรรมร่วมกันไม่มี

แฟรงกี้ : มันเป็นเรื่องของคนสองคน แฟรงโอเค แฟรงมีพ่อกับแม่อยู่แล้ว

ตอนนั้นเราก็มีไปให้กำลังใจแม่เหมือนกัน?

แฟรงกี้ : ใช่ ก็อยู่กับแม่

ตุ๊ก : ใช่ ถ้าอยู่กับพ่อก็อดตายไง นี่ฉลาด

พ่อ แม่ ไม่ได้โกรธกัน แค่เปลี่ยนสถานะนิดนึง?

...

ตุ๊ก : โกรธ ไม่พูดกับเขาเป็นปี ใครจะไม่โกรธ มันต้องมีเหตุ มีประเด็น แต่กว่าเราจะทำใจได้ ขอใช้เวลาปีนึง ช่างเถอะ เขาก็เป็นพ่อของลูกเรา คุยกันแบบเพื่อน จบ

แฟรงกี้ : เขาเคยพูดกับแฟรง ถึงแม้พ่อกับแม่เลิกกัน ก็ไม่ปล่อยให้พ่อลำบาก ก็จะช่วย ยังไงก็เป็นพ่อของลูก

เรามีโมเมนต์ไหมว่าอยากให้ พ่อ แม่ กลับมาเป็นเหมือนเดิม?

แฟรงกี้ : ไม่ครับ แฟรงว่าต่างคนต่างอยู่ก็แฮปปี้

ตุ๊ก : แล้วให้มี๊ไปหาผัวใหม่บ้าง

แฟรงกี้ : ได้อยู่ทั้งสองบ้าง ได้เงินเดือน 2 ที่ ได้ของขวัญ 2 ชิ้น สบาย

ผู้หญิงแบบไหนที่จะอยู่กับลูกเรา?

ตุ๊ก : เขาเป็นคนเลือกเอง เพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาจนตาย มีความสุขก็อยู่กันไป ไม่มีก็ไม่ต้องอยู่

พี่คิดไหมว่ามันจะมีแนวมาเอาเปรียบลูกเรา มาทำให้ลูกฉันลำบาก มีไหม?

ตุ๊ก : ก็ไม่รู้ ถ้าลูกเราโง่ก็สมน้ำหน้า ให้คนอื่นเขาเอาเปรียบได้ ส่งเรียนขนาดนี้ โง่ให้คนเอาเปรียบก็แล้วแต่ชะตาวาสนา.