“โหนกระแส” ทำให้เห็นสันดานของใครหลายคน หรือบางคนก็แทบจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าล่อนจ้อนต่อหน้ากล้องกันเลยทีเดียว!!

ใครได้ชมตอนนักแสดงตลกท่านหนึ่ง มาออกรายการปะทะคารม กับเจ้าหนี้วันก่อน คงจะเวทนาใจต่อพฤติกรรมของตลกรายนี้จนร้อง “เฮ้อ...” ไปตามๆกัน

ไม่ใช่แค่การเป็นหนี้เงินเกือบ 3 แสนบาท...แต่มันหมิ่นเหม่เฉียดใกล้คดี “ฉ้อโกง” เป็นความอาญาอย่างเห็นได้ชัด

คุณรับสินค้าเขาไปขายได้เงินสด แต่คุณไม่คืนเงินทุนเขา มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนบานปลายกลายเป็นการขึ้นป้ายไวนิลทวงเงินกันกลางศูนย์การค้า!!

ทุกคนที่ฟังการชี้แจงจากตลกรายนี้ คงจะเข้าใจตรงกันว่า เล่ห์ลิ้นแพรวพราว ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อหน้าผู้มีพระคุณที่ช่วยอุ้มชูคุณมายามตกยาก

แต่สุดท้ายของบทสรุปในรายการก็คือ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” ไม่เพียงผู้มีพระคุณรายนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงลูกหนี้อีกรอบตัวด้วย

คงบอกได้สั้นๆว่า ใครทำอย่างไรไว้ก็จะได้อย่างนั้น อนาคตในวงการบันเทิงนั้นมันหมดสิ้นแล้ว และอนาคตการค้าขายก็กำลังจะตายไปด้วย

เป็นเพราะคุณได้โอกาสจาก “โหนกระแส” แล้ว แต่คุณไม่ยอมคว้ามันไว้ แต่คุณกลับแสดงความเย่อหยิ่ง จองหอง ไม่สำนึกในพฤติกรรมตัวเอง

ตอนนี้คุณไม่ได้ลำบากแค่ตัวเอง แต่คุณกำลังทำลายครอบครัวคนอื่นให้ต้องลำบากดิ้นรนทนทุกข์ไปด้วย

ที่ผ่านมาคนในวงการบันเทิงรู้ว่าคุณเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวด้วยสาเหตุอะไร? แต่ก็ยัง “อุ้ม” คุณไว้ เพราะไม่อยากให้ล้มละลายทั้งอาชีพและวิถีชีวิต

แต่ตอนนี้จำเป็นต้องตัดหางปล่อยวัด เพราะพฤติกรรมไม่เคยเปลี่ยน!!

‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่