เป็นโมเมนต์สุดปลื้มใจกับงานแฟนมีตติ้งที่ผ่านมาของศิลปินหนุ่ม “ทิกเกอร์-อชิระ เทริโอ” ที่ได้รับความรักและซัพพอร์ตจากแฟนๆมากมายหลังเดบิวต์เป็นศิลปินก้าวสู่ปีที่ 2 เจอ ทิกเกอร์ มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “Hi! ใจ ส่งต่อความสุขไม่รู้จบ” ณ ชั้น 1 โซน Beacon ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยอัปเดตงานที่ผ่านมา รวมทั้งอัปเดตหัวใจว่าตอนนี้มีสาวคนไหนเข้ามามั้ย และผ่านด่านคุณแม่ “นิโคล เทริโอ” หรือยัง

เริ่มจาก แฟนมีตที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง?

“อบอุ่นมากครับ มันดีมากๆครับ การที่ได้อยู่กับแฟนคลับใกล้ชิดขนาดนั้น ได้คุยกัน ถ้าเจอกันตามงานอะไรแบบนี้ มันจะมีเวลาที่จํากัด แต่พออยู่ที่งานแฟนมีต แล้วได้มีเวลานั่งคุยกัน รู้สึกว่าไม่มีความกดดัน แล้วได้คอนเนกต์กับแฟนคลับ รู้สึกดีมาก”

ถือว่าเป็น 2 ปีในการก้าวมาสู่ศิลปินแบบเต็มตัว แล้วก็มีแฟนคลับที่มากขึ้นเรื่อยๆ?

“อันนี้เพิ่งเข้ามาในปีที่สอง เพิ่งผ่านไปแค่ปีเดียวเอง การที่ได้มีคนซัพพอร์ตผมและให้กำลังใจกับผมมาโดยตลอด ผมรู้สึกว่าจริงๆ แอบช็อกเหมือนกันครับ ที่ผ่านมาแค่ปีเดียวแล้วมีคนติดตาม มีคนรักผมมากขนาดนี้ แล้วผมเป็นคนที่อาจจะติดอิโมชันนอลเยอะ ก่อนหน้านี้ผมไม่มั่นใจว่า พอเดบิวต์เข้ามาในโลกนี้มันจะเป็นยังไงนะ จะได้คุยกับแฟนคลับ หรือจะได้เจอทุกคนมั้ยแต่พอได้เจอจริงๆได้อยู่ในสถานการณ์นี้จริงๆ ผมรู้สึกว่ามันทําให้ผมอิโมชันนอลจริงๆครับ”

เห็นว่ามีเซอร์ไพรส์จากคุณแม่ด้วย?

“ใช่ครับ เป็นเบิร์ธเดย์เค้กที่น่ารักมาก อลังการยิ่งใหญ่มาก แบบว้าว ขนมายังไงก็ไม่รู้”

แม่ร้องไห้มั้ย?

...

“คือจริงๆวันนั้นผมก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะอิโมชันนอลขนาดนั้น จริงๆทุกคนร้องไห้ครับ แล้วผมก็เกือบร้องไห้ แต่พอรู้ว่ามีไลฟ์ก็อยากเซฟเอาไว้ แบบคีพคูลหน่อย แต่จริงๆข้างในผมอิโมชันนอลมาก กลับบ้านผมแบบร้องไห้”

พอหลังเดบิวต์มันไม่ได้คาดหวังว่าจะดังขนาดนี้ใช่มั้ย?

“ใช่ครับ ตอนเดบิวต์จริงๆ ผมคาดไม่ถึงว่าจะได้มีแฟนคลับ หรือได้ออกงาน มีโอกาสดีๆเยอะขนาดนี้อะครับ คาดไม่ถึงจริงๆ”

มีของขวัญให้ตัวเองมั้ย?

“ผมเคยซื้อกีตาร์โปร่งให้ตัวเองครับ ตอนเพิ่งเดบิวต์ ตอนนี้กําลังคิดอยู่ว่าซื้อกีตาร์อีกมั้ยก็น่าจะกีตาร์แหละครับ เพื่อที่จะเอาขึ้นไปโชว์อะไรแบบนี้”

โตขึ้นแล้วยังมีความห่วงคุณแม่เหมือนเดิมมั้ย?

“ก็มีครับ เรื่องสุขภาพ การพักผ่อน เรื่องทั่วไป ที่คุณแม่ก็ห่วงผมด้วย”

แต่คุณแม่ห่วงเราหนักกว่า?

“ก็เป็นความแบบแม่ห่วงลูกอะไรแบบนี้ จริงๆน่าจะเท่าๆกันนะครับ เรารักกันมากครับ”

แม่ปล่อยเรามากมีอิสระมากขึ้นมั้ย?

“จริงๆแม่ก็ปล่อยมาสักพักแล้วนะครับ เค้าก็เป็นห่วง แต่ก็ให้ผมมีชีวิตของตัวเอง ให้ผมได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่โดยที่ไม่ต้องเป็นห่วง คือแม่พยายามให้ผมได้ใช้ชีวิตอย่างสบายที่สุดและให้ผมได้เก็บประสบการณ์ในวงการเพลงด้วยตัวผมเอง แล้วก็กับเพื่อนๆ”

จะมีได้เห็นผลงานละครบ้างมั้ย?

“จริงๆตอนนี้แค่เพลงครับ แต่ถ้ามีโอกาสเข้ามา ไม่ปิดครับ”

มีละครทาบทามบ้างมั้ย?

“มีแต่ยังไม่มีเวลา เพราะว่าเรื่องเพลงผมโฟกัสแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยอะเต็มที่มากๆ อย่างอัลบั้มที่ผมกําลังทําอยู่ ผมเต็มที่กับมันมากอยากให้ชิ้นงานทุกๆเพลงออกมาอย่างคุณภาพ”

หลายคนบอกภาษาไทยเราดีขึ้น?

“พออยู่กับทุกคน ออกงานเยอะๆ ได้คุยกับคนเยอะๆ เข้าสังคมมากขึ้น เจอคนมากขึ้น มันก็พัฒนาโดยธรรมชาติ จริงๆเมื่อก่อนมีบางคำที่ไม่เข้าใจ แล้วอาจจะพูดไม่ทัน เหมือนภาษาไทยลึกๆแล้ว มันเป็นการปลดล็อกเพราะว่าการที่อยู่ในสังคมโรงเรียนนานาชาติ มันก็พูดภาษาอังกฤษทุกวัน พอเข้ามาในวงการ ผมก็ได้เอาของมาใช้แล้ว มันก็ค่อยๆเก็บเกี่ยว แล้วค่อยๆปลดล็อก”

จริงๆช่วงนั้นกังวลมั้ย?

“จริงๆมันต้องค่อยๆ เก็บเกี่ยวทุกอย่างพร้อมๆ กันครับ ถ้ารู้สึกกดดัน มันก็จะเครียด แต่สําหรับผม ผมไม่อยากกดดันตัวเอง ไม่อยากเครียด ก็เลยค่อยๆให้ตัวเองเติบโต ยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ก็ค่อยๆเก็บไปเรื่อยๆ”

ตอนนี้ให้คะแนนภาษาไทยตัวเองเท่าไร?

“ผมให้ 10 เลย เพราะภูมิใจว่าผมมาได้ไกลขนาดนี้จากเมื่อก่อน จริงๆภาษาแรกที่ผมพูดก็คือภาษาไทยแต่พอเรียนใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แล้วก็เหมือนดันมันลงไปครับ แค่ตอนนี้มันคือการเอากลับมาอีกทีเอามาใช้อีกรอบ ผมรู้สึกว่าภูมิใจมากๆ ที่ได้มาไกลขนาดนี้ในการพูด เพราะเมื่อก่อนผมก็แอบไม่มั่นใจ นอยด์นิดนึง”

...

นอยด์เพราะอะไร?

“เพราะรู้สึกแบบว่าเมื่อก่อนผมเคยพูดได้ แต่ทําไมตอนนี้รู้สึกเกร็งมาก หรือกดดันตัวเอง จนผมพูดอะไรไม่ออก กลัวจะพูดผิด แต่ตอนนี้ถ้าพูดผิดมันก็ตลกดีครับ”

แล้วพร้อมจะมีแฟนรึยัง มีสาวๆเข้ามาจีบมั้ย?

“ไม่มีครับ (ยิ้ม) ถ้าถามว่าอยากมีแฟนมั้ย ก็โอเพ่นครับ แต่แค่ว่าแบบดีเอ็มผมแห้ง (หัวเราะ)”

เราถนัดเป็นคนจีบหรือเป็นคนโดนจีบ?

“ไม่รู้อะครับ ส่วนใหญ่อะ ถ้ากับผม มันไม่ได้เป็นการจีบขนาดนั้น เป็นการคุยกันไปเรื่อยๆ เริ่มด้วยการเป็นเพื่อนก่อน อันนั้นผมว่าสำคัญที่สุด แล้วเป็นขั้นตอนที่ผมว่ามันจะดีที่สุด เพราะว่าการเรียนรู้ก่อน แล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ”

คุณแม่มีผลต่อหัวใจเรามั้ย?

“จริงๆไม่เลยครับ แม่ไม่ได้เป็นด่านเลยครับ แม่ผมเป็นเพื่อนแล้วเป็นฟีลบอกว่าดีอะ หรือแบบพูดว่าจริงเหรอ แม่ไม่ได้เป็นห่วงขนาดนั้น ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่