หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หรือ บิ๊ก ธิติวุฒิ วารุณ ได้ออกมาแจ้งข่าวถึงความรักกับภรรยาสาว แพรวพราว แสงทอง หมอลำซิ่งสาวชื่อดัง ว่าสถานะของทั้งคู่เหลือแค่ทำหน้าที่พ่อและแม่ของลูกน้อยทั้ง 2 คนเท่านั้น
หลังจากนั้น เจ้าตัวก็ได้ไลฟ์พูดคุยกับชาวเน็ต และในระหว่างที่ไลฟ์ บิ๊กก็ได้พูดถึงบุคคลที่ 3 ที่เข้ามาทำให้ครอบครัวมีปัญหา และสิ่งที่พูดมา ไม่ใช่ไม่มีหลักฐาน แต่เจ้าตัวแอบซุ่มเก็บหลักฐานมานานถึง 2 เดือนแล้ว แต่วันนี้ที่ต้องออกมาระบาย เพราะมันสุดจะทน ที่ถูกอีกฝ่ายหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ซึ่งเจ้าตัวได้พูดประมาณว่า
"มันไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ทุกคน แต่มันเกิดแล้วก็ต้องยอมรับมัน แก้ไขกันต่อไป ถ้าปล่อยให้มันยืดเยื้อมันยิ่ง... ผมคุยกันจนขี้เกียจจะคุยแล้ว ไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ร้องไห้มานานหลายสัปดาห์แล้ว เดินหน้าต่อไป ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ต่างคนต่างมีเหตุผล ก็เอาตามที่ผมโพสต์ไปนั่นแหละ แต่คนอย่างผมไม่มีพูดโกหก พูดจริงหมดทุกอย่าง ไม่อยากลงรายละเอียดเยอะ เราก็ยังเป็นพ่อกับแม่อยู่ ยังทำงานด้วยกันอยู่ แต่บางอย่างก็ต้องพูด เพราะถ้ายิ่งโกหก ผมไม่ชอบโกหกใคร ผมไม่เป็นไร เรื่องพวกนี้มันไม่เข้าใครออกใคร ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาที่จะพิสูจน์เท่านั้น
ทุกเรื่องที่ผ่านมา อยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้ว ผมก็ไม่ได้ไปไหน ผมก็อยู่ที่ตรงนี้ ตั้งใจมาตั้งหลักปักฐานที่นี่ คุยกันหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปเราก็คงสถานะความเป็นพ่อเป็นแม่เหมือนเดิม ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ผมก็ไม่ไปไหน เพราะลูกก็อยู่ที่นี่ และเราก็รู้สึกผูกพันกับที่นี่ แต่บางเรื่อง ถ้าเก็บเอาไว้คนเดียว มันจะระเบิดได้ทุกเวลา บางทีดูเป็นคนสดใสร่าเริง เข้มแข็ง แต่บางทีมันก็อ่อนแอเหมือนกัน
...
อย่างที่ผมโพสต์ไป ความรู้สึกที่มันเสียไป ยังไงก็เอากลับมาไม่ได้ นอนคิดมานานแล้ว แสงทองฟินแลนด์ ผมยังขึ้นเวทีเหมือนเดิม ยังบริหารงานเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแค่เราต้องสู้ต่อไป เอฟซีจะว่าอย่างไรผมก็น้อมรับทุกอย่าง ถามว่าผมทนได้มั้ย ผมทนได้ แต่ทนในรูปแบบของตัวเอง จะเกิดอะไรขึ้นก็จะยังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม เพราะที่นี่ผมสร้างให้ลูกให้เมียผมอยู่
แต่มันเกิดปัญหาเพราะคนที่ 3 เข้ามา แล้วไม่ยอมออกไปสักที มาเหยียบศักดิ์ศรีผมอยู่ที่นี่ทุกวัน คนที่ 3 ยังอยู่นี่อยู่ ผมก็มีศักดิ์ศรีอยู่นะ เราเป็นคนไม่มีสกุลรุนชาติ ถึงผมจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็มีศักดิ์ศรีในตัวเอง เราต้องปกป้องในศักดิ์ศรีลูกผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ใช่ แม้ผมจะบอกว่าพวกคุณสามารถ แต่จิตใจสำนึกของคนก็ต้องสำนึกมั้ย ต้องรู้สึกว่าเราทำอะไรได้บ้าง
คุณรู้ว่าอยู่ไปก็ทำให้ครอบครัวเขามีปัญหา ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริง คุณต้องถอยนะจ๊ะ จงฟังฉันไว้ ถ้าลูกผู้ชายจริงต้องถอย แต่อันนี้ยังทนอยู่ ตกงานไม่ตายหรอก ไม่มีใครปล่อยให้ตัวเองตาย คุณออกจากนี่ไป คุณก็สามารถหางานใหม่ได้เหมือนเดิม เหยียดหยามศักดิ์ศรีผมมากแล้ว เห็นผมเป็นแบบนี้แล้วอยากจะทำอะไรก็ได้เหรอ มันจะมากไปแล้ว
รอให้ไปก็ไม่ไปซะที ไม่มีใครเป็นไร ไม่มีใครผิดพลาด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับ คือที่จะบอก มันเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชาย ที่ผมพูดอยู่นี่ จะมาใส่ร้ายใครไม่ได้ถ้าไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อมูล ไม่สามารถพูดได้ แอบดูมา 2 เดือนแล้ว ไม่สามารถพูดลอยลมได้ ผมมีหลักฐานทุกอย่าง หลักฐานคืออะไร ถ้าวันหนึ่งผมจะใช้ก็จะใช้
ผู้ชายผมบอกให้ออกตั้งแต่วันแรกแล้วแต่มันไม่ยอมออก ไม่ยอมออกจากวงจรนี้ไปให้เขากลับมาคุยกัน แต่ทำไม่ได้ เพราะคนนี้ยังอยู่ แต่ผมโฟกัสลูกเป็นหลัก ลูกผมอยู่ที่นี่ ลูกผมกำลังจะโต ผมก็จะดูแลลูกเหมือนเดิม และเอาใจใส่มากขึ้น ชีวิตคนเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง เกิดแล้วต้องยอมรับมัน ความดีความชอบก็สร้างด้วยกันมาหลายอย่าง ก็เป็นเรื่องปกติ
แต่เมื่อวันหนึ่งมาถึงจุดที่มันสุดทาง แต่สำหรับผม ผมเต็มร้อยทุกอย่าง คุณทำอะไรไปก็ต้องยอมรับผลในสิ่งที่ทำ แต่วันนี้ผมเป็นคนดีมาหลายวันนะ แอบดูอยู่นะว่าเขาจะทำแบบนี้ต่อไปมั้ย ก็ยังทำอยู่ แต่ถ้าเป็นผม ถ้าจะทำแบบนี้ผมจะรีบย้ายออก ยิ่งถ้าเราอาศัยเขา จะมาทำแบบนี้ได้ไงใช่มั้ย
ยังให้เกียรติ แต่จะไม่พูดว่าใคร เรายังให้เกียรติแม่ของลูก ไม่พูดหมดทุกอย่าง ที่พูดอยู่ไม่ได้อยากเลิกกับเมีย หรือว่าขายเมีย แต่พูดในมุมของผม เพราะในวันหนึ่งคนก็ต้องรู้อยู่แล้ว พูดให้มันจบไป แล้วค่อยมาแก้ หรือจะให้ผมแก้คนเดียวเหรอ ผมไม่ได้ทำผมก็ต้องแก้เหรอ
...
ผมจะบอกตัวเองว่า ผมทำดีที่สุดแล้ว ผมเข้มแข็งมามาก เจออะไรมาเยอะ ชีวิตเจอแต่อะไรแบบนี้แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มีลูกอยู่ ขนาดผมบุคลิกไม่ค่อยผู้ชาย ผมยังแมนกว่าเขาอีก ถึงผมจะพูดจาแบบนี้ แต่ผมก็มาดแมนกว่านี้ ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะคนของตัวเอง ทำไมไม่โทษคนของตัวเอง มันก็รู้อยู่ว่าเขามีผัวมีลูก 2 คน ก็ยังจะมาเล่นกับเขาอีกเหรอ อะไรมันจะขนาดนั้น ผมว่าคนนั้นนะ ไม่ได้ว่าแม่ของลูก
ให้เกียรติเขา แต่ก็ขอพูดในมุมของผม ผมเป็นประสาทกับเขามา 2 เดือนแล้ว ไปญี่ปุ่นไม่ทำอะไร ผมแอบดูแต่เมีย เป็นห่วงเขา คนเข้าหาเขาก็ไม่รู้มีใครบ้าง ถ้าผมเป็นผมจะไม่แปลกใจ เพราะผมอายุยังน้อย ยังวัยรุ่นอยู่ ผมไม่สามารถพูดลอยๆ ให้ใครฟังได้หรอก ถ้าผมพูดโกหกขอให้ผมไม่เจริญ แต่ถ้าผมพูดจริงขอให้รวยขึ้น
ทำไมผมไม่ไล่ผู้ชายออก ผมมีสิทธิ์จัดการเขาทุกอย่าง แต่ผมไม่ทำ เพราะรอว่าเขาจะไปเองมั้ย หรือว่าคนของผมจะไปกับเขามั้ย ผมก็เป็นคนคนหนึ่ง เก็บกดอดกลั้น เห็นผมเป็นแบบนี้ผมก็รู้หมดทุกอย่างนะ ถึงบุคลิกของผมจะเป็นอย่างนี้ แต่ผมไม่โง่ สิ่งที่ผมสร้าง สิ่งที่ผมทำ (แพลนกล้องให้ดูบ้าน) ผมก็ทำให้ลูกให้เมียอยู่ ผมจะพูดลอยๆ ฆ่าตัวตายทำไม แต่ที่พูดเพราะผมต้องการระบาย ผมอัดอั้นมาก ไม่จัดการใครด้วยอารมณ์หรือบารมี อำนาจจัดการใคร ไม่ทำร้ายร่างกาย ผมแค่อยากรู้ว่าคนเรามันจะมีจิตใต้สำนึกบ้างมั้ย คุณมีครอบครัว คุณต้องรู้ต้องเข้าใจ อันนี้ยังหน้ามึนอยู่ อยู่ขวางหูขวางตาผมอยู่หลายวันแล้ว
ผมก็คือคนคนหนึ่งที่มีอารมณ์รักโลภโกรธหลง ผมไม่ใช่พระพุทธเจ้า วันนี้ผมถึงได้พูดออกไป วงผมไม่ทิ้ง ดูแลเหมือนเดิม ไม่ทิ้งใคร แต่อยู่คนละมุม และทำคนละบทบาท ทำหน้าที่ช่วยกันเหมือนเดิม ไม่ต้องไปทัวร์ลงเขาเลยนะ ไม่ต้องการทะเลาะกัน
...
ไม่ต้องกลัวว่าผมจะทำร้ายตัวเอง ผมไม่ทำ ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมมีลูกมีครอบครัว มันไม่ใช่ทางออก ที่ออกมาพูดมันผ่านการแก้ไขมาหมดแล้ว และมันก็สุดๆ สำหรับผมแล้ว คนเรามันแบกทุกอย่างไม่ได้ ผมร้องไห้จนขี้เกียจจะร้องไห้แล้ว แบกมา 8 อาทิตย์แล้ว นอนคิดว่าทำไมชีวิตผมจะเจอแต่อะไรแบบนี้เหรอ
ใครจะคิดว่าผมโกหกก็คิดต่อไป ก็ไว้ใจ เพราะอยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้วจ้า ผมตั้งหลักไม่ทัน ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว มันเหนื่อย ตอนนี้เหมือนคนจะเป็นบ้า ประสบการณ์การมีครอบครัวยังน้อย ผมก็เหมือนวัยรุ่นคนหนึ่ง ความรู้สึกผมมันบาง บางกว่ากระดาษ คนอื่นอาจจะมองว่าใครๆ ก็เจอกันหมด แต่ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ เพราะผมไม่ใช่คนวอกแวกทางไหนเลย เพราะผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่
วันที่คุยกัน 3 คน ผมก็พูดสุภาพทุกอย่าง ด้วยความประนีประนอม ทั้งๆ ที่เขาเหยียบหัวเรา วันที่จับได้ไล่ทันผมก็ยังพูดเพราะกับเขา พูดปกติ ไม่ได้ด่าเลย มันแอบดูมานานก็เลยเหมือนรู้อยู่แล้ว ก็รอฟังเขาว่าเขาจะพูดอะไรออกมา รอฟังเลย แต่เขาจะพูดยังไงก็ช่าง แต่ผมไม่มีวันโกหกแน่นอน"
...
ในระหว่างที่ บิ๊ก ไลฟ์ระบายความในใจของตัวเองอยู่นั้น ในบางช่วงบางตอนที่เจ้าตัวพูดถึงบุคคลที่ 3 ก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ถามรัวๆ ว่า คนที่บิ๊กพูดถึงนั้น ใช่ผู้ชายใส่หมวกดำหรือไม่ หรือบางคนก็บอกว่า ถ้าใครที่ออกจากวง ก็คือคนนั้นแหละ หรือใช่ผู้ชายที่อยู่กับแพรวพราวหรือเปล่า
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิง” เพิ่มเติม