สร้างกระแสฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองกับความสำเร็จของละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้อิงประวัติศาสตร์ "บุพเพสันนิวาส" และ "พรหมลิขิต" ถือเป็นอีกหนึ่งศักยภาพในการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของผู้สร้างละครไทย รวมถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นผลงานของผู้จัดมากฝีมืออย่าง หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์ แห่งค่ายบรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด นอกจากนี้บริษัทต่างชาติยังได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปออนแอร์ที่ต่างประเทศอีกด้วย
ล่าสุด ไทยรัฐกรุ๊ป ผนึกกำลัง 3 สื่อ หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐทีวี และไทยรัฐออนไลน์ ร่วมจับมือพันธมิตรจัดเวทีการถกประเด็น Soft Power Thailand's Nest Weapon เวทีเสวนา Soft Power แบบไม่ซอฟต์ หน่อง อรุโณชา ได้มาร่วมงานเสวนาในครั้งนี้ เจ้าตัวได้เผยถึงเรื่อง การต่อยอดยาดมให้มีมูลค่าให้คนอยากจะใช้ อยากจะซื้อ และยกระดับเศรษฐกิจ โดยยกตัวอย่างศิลปินไทยระดับโลกอย่าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ ก็เป็นอีกคนที่จะหยิบจับอะไรก็เป็นกระแสได้ตลอด
"แน่นอนเวลาเราทำละครตัวแสดงของเราได้ดมยาดม คิดว่าถ้าตัวละครหลักของเราได้ดมยาดมซึ่งเป็นสมุนไพรไทย package สวยมาก มีการออกแบบเป็นลวดลายไทย ตรงนี้คิดว่าในละครซึ่งเป็นสื่อที่ออกอากาศทั้งใน และต่างประเทศ คิดว่าถ้านำมาเป็นส่วนสำคัญในละครของเรา ยาดมน่าจะไปได้ไกล
...
จริงๆ ก็มี พี่จอง และคัลแลน อยากให้เขาตามไปดูว่ายาดมมีกระบวนการทำยังไง สมุนไพรใช้อะไร สิ่งนี้อาจจะทำให้เราเข้าใจ และอธิบายได้ถูก
และแฟนคลับชอบศิลปินต่างชาติ ก็ให้ยาดมเป็นของขวัญ และน้องลิซ่าดมปุ๊บยอดขายขึ้นทันที หรือแม้กระทั่งนักร้องชื่อดังของโลก เปิดกระเป๋ามาก็มียาดมของไทยด้วย คิดว่าคนที่มีชื่อเสียงต่างๆ สามารถที่จะส่งต่อให้เขา และเพิ่มมูลค่าให้กับยายดมของเราได้ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ต่อไปในอนาคตได้
จริงๆ การเป็นคนไทยก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้ น้องลิซ่าเป็นคนไทย แต่ว่าไปเติบโต ไปทำงานที่เกาหลี เพราะฉะนั้นน้องลิซ่าหยิบจับยาดม หรือหยิบจับอะไรก็ตาม มันก็สร้างกระแสให้กับตัวสินค้า น้องลิซ่าเป็นคนไทย แต่ว่ามีฝีมือจนได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็สร้างกระแสได้หมดเลย".
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”