เป็นการเดินทางที่ยาวนานร่วม 4 เดือนทีเดียว สำหรับเส้นทางสู่บัลลังก์แชมป์ของรายการ มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ซีซัน 6 “อาหารไทย” (MasterChef Thailand Season 6) ของบริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป กับสุดยอดการแข่งขันการทำอาหารของเหล่าบรรดา HOME COOK เพื่อเฟ้นหาเพียงหนึ่งเดียวที่จะเป็น มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย คนใหม่พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท
โดยวันนี้จะเป็นวันที่จะชี้ชะตาว่า 3 เชฟที่เข้ามาในรอบสุดท้ายอันได้แก่ ซีตรอง–วลาสุระ ณ ลำปาง, กิ๊ก–อารยา ศิริแวว และ สตังค์–วสุรัตน์ แก้ววิชิต ใครจะคือ “แชมป์” ซึ่งการแข่งขันเริ่มจาก Main Course หรืออาหารจานหลัก การแข่งเมนูนี้แต่ละคนเคร่งเครียดกันสุดๆ เพราะถ้าใครทำได้ดีก็เหมือนว่าได้เข้าใกล้แชมป์ไปครึ่งก้าวแล้ว
...
ดังนั้น ทั้งสามต่างขับเคี่ยวมุ่งมั่นใจจดจ่อแบบไม่ละสายตาไปจากหน้าเตาของตัวเอง เพราะต้องการจะรังสรรค์จานนี้ออกมาให้เป็นจานที่ดีที่สุด โดยเมนู Main Course ทั้ง 3 คนตั้งชื่อเมนูกันอย่างครีเอต ซีตรอง ตั้งชื่อว่า สำรับซ่อนกล ส่วน กิ๊ก ก็ให้ชื่อว่า พาข้าวบ้านเกิด และ สตังค์ ก็ตั้งชื่อ มรดกบ้านเกิด
ต่อด้วยเมนูที่สองคือ Dessert หรือของหวาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมนูสุดท้ายของการแข่งขัน และยังเป็นเมนูสุดท้ายที่จะชี้ชะตาหรือส่งผลให้ ซีตรอง– กิ๊ก–สตังค์ คนใดคนหนึ่งก้าวไปสู่บัลลังก์แชมป์คนใหม่ ซึ่งเมนู Dessert ทั้ง 3 คนก็ตั้งชื่อให้ซะเริ่ดหรู ซีตรอง ตั้งชื่อเมนูว่า ไอศกรีมข้าวแช่แปลงกาย ส่วนกิ๊ก ใช้ชื่อว่า ขนมสี่ถ้วยและเครื่องดื่มจากขุนเขา และ สตังค์ ก็ใช้ชื่อว่า อัญมณีแห่งสุวรรณภูมิ
โดยการต่อสู้กันในเมนูนี้ค่อนข้างดุเดือดเหมือนอยู่ท่ามกลางสงครามเพราะต่างคนต่างประเมินผลคะแนนของตัวเองและคู่แข่งที่ผ่านมาว่าอยู่ในเกณฑ์ประมาณไหน ดังนั้น เมนูของหวานทั้ง 3 คนจึงใส่กันแบบไม่ยั้ง อย่างไรก็ตามตลอดการแข่งขันของทั้งสาม
...
เพื่อนๆทั้ง 14 คนที่ต้องเสียผ้ากันเปื้อนไปก่อนหน้านี้ต่างก็กลับมาให้กำลังใจกันพร้อมหน้า อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนในครอบครัวมาร่วมเชียร์คนทั้งสามอีกด้วย รักใครเป็นแฟนคลับใคร มาร่วมลุ้นและเชียร์ไปพร้อมกันได้ใน “มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ซีซัน 6” วันอาทิตย์นี้ 18.00 น. ทางช่อง 7 HD.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่