เรียกว่าถ้าไม่ใช่ในหนังคงไม่ได้เห็นโมเมนต์นี้ง่ายๆ!! เพราะชีวิตจริงหนุ่ม “ป๊อบ–ปองกูล” เห็นนักแสดงสาว “คารีสา สปริงเก็ตต์” มาตั้งแต่เด็ก แต่คราวนี้ต้องเล่นบทบาทคนคลั่งรักกันแบบไม่ลืมหูลืมตาในภาพยนตร์ “อาตมาฟ้าผ่า” ทำเอาสาว “คารีสา” อยากเล่าเรื่องราวสุดสนุกให้ฟังว่า

“เรื่องนี้รับบทเป็น ‘หวาย’ ตอนรับไม่เท่าไหร่ แต่ตอนที่เราเล่นไปแล้ว และยิ่งมาดูด้วย ก็คิดว่าเป็นคาแรกเตอร์และเป็นการแสดง เป็นลุค เป็นทุกอย่างที่ไม่มีใครคาดหวังในหนู และไม่คิดว่าจะได้เห็นเร็วๆนี้ อยากให้มาดูกันเยอะๆ เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะได้ทำอะไรแบบนี้ให้คนดูได้หัวเราะกันอีกค่ะ”

ดูตัวเองแล้วตลกมั้ย?

“หนูเขินมากเลยค่ะ หนูเหมือนไม่ได้จำที่ตัวเองเล่นเลย แอบลืมๆมันไป อยากเซอร์ไพรส์ตอนดูในโรงภาพยนตร์”

ตอนแรกที่รับคิดมั้ยว่าภาพจะออกมาเป็นแบบนี้?

“ตอนแรกเค้าไม่ได้ติดต่อหนูให้เป็น ‘หวาย’ เค้าติดต่อให้หนูเป็น ‘จวง’ แล้วพอหนูไปอ่านบท หนูถึงรู้ตัวว่าได้เป็นหวาย เพราะตอนแรกติดต่อมาให้เป็นคนชื่อจวง แล้วก็อ่านบทมาแล้ว แต่พอที่ต้องไปอ่านบทคู่กับทุกคน หนูกลายเป็นหวาย แต่หนูคิดว่ามันคงเหมาะกว่า เพราะว่าหนูก็คงเล่นได้น่ารักเท่าพี่ฝน-ศนันธฉัตร ไม่ได้จริงๆ มันดูน่าเอ็นดูมาก”

ความชุลมุนในหนังถ้าเกิดขึ้นจริงๆจะเป็นไง?

“ไม่มีทาง หนูคิดไม่ออกเลย ถ้าไม่ใช่หนังเรื่องนี้หนูจะได้กอดพี่ป๊อบ- ปองกูล แบบนี้ไม่มีทางเลย เราไม่ค่อยแสดงความรักกันขนาดนั้นนี่หนูพูดแล้วรู้สึกจะอ้วก (หัวเราะ) มันเขินอะ มันใกล้เกินไป มันเหมือนฟ้าจะผ่า มันจริงๆ”

...

ความจริงแล้วเรากับป๊อบเป็นอากับหลานกัน?

“ใช่ค่ะ หลายคนก็รู้เรื่องนี้แต่ศักดิ์ไม่รู้ว่าต้องอาหรือน้า แต่มันประมาณนี้”

ตอนอยู่บ้านด้วยกันเป็นยังไง?

“ตอนอยู่บ้านด้วยกันมากสุดก็คือสวัสดี คือพี่ป๊อบดุมากๆ หนูว่าพี่ป๊อบเฟรนด์ลีกับหนูขึ้นตอนที่หนูโตแล้ว ตอนหนูเด็กๆเพิ่งเข้ากรุงเทพฯ เค้าแบบดุมาก ดุแบบไม่แสดงออก จะให้คนอื่นมาพูดเองว่าจะต้องอะไรยังไง เค้าเพิ่งจะเฟรนด์ลีขึ้น ตอนเด็กก็เกร็งๆ ถ้าไม่ดูเรื่องนี้หนูไม่รู้ว่าจะได้ทำอะไรกันอย่างนี้อีก มาเห็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในเรื่องนี้ ในเรื่องจะเล่นกับเค้าเยอะสุดค่ะ”

เข้าฉากกับพี่ป๊อบมีฉากไหนที่เล่นยากสุด?

“ยากสุดน่าจะฉากบนเรือ หนูอยู่บนเรือแล้วเค้าต้องปีนขึ้นมา มันก็จะโคลงเคลงก็นานค่ะและหนาวด้วย วันนั้นจู่ๆ กรุงเทพฯก็หนาว ตอนถ่ายกันคือหนาวมาก ส่วนตอนฉากพูดภาษาเขมร มันเหมือนยากกับตัวเอง การจำบทคือต้องท่องจำอย่างเดียวเลย ซึ่งมันมีความหมายหนูจะต้องจำบทให้ได้ และต้องจำเป็นคำด้วยว่าคำพวกนี้แปลว่าอะไร เพื่อให้อินเนอร์เหมือนเราเข้าใจว่าเราพูดอะไร มันยากกว่าภาษาฝรั่งเศส ถ้าถามหนูว่ามันยากค่ะ มีโอกาสได้ซ้อมแค่ 2 วันแล้วก็ถ่ายเลย”

กับพี่โอ๊ต-ปราโมทย์เป็นยังไง?

“กับพี่โอ๊ตไม่ได้เข้าซีนไดอาล็อกกันค่ะ เลยเหมือนไม่ได้มีโมเมนต์ หนูจำได้แค่ตอนอยู่กับพี่ป๊อบกับพี่โอ่ง- อำนาจ มากกว่า”

เล่นหนังมากี่เรื่องแล้ว?

“ถ้าเล่นแบบจริงๆเต็มตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เรื่องอื่นแทบจะเป็นเอ็กซ์ตราค่ะ เคยเล่นแบบเอ็กซ์ตราไกลๆ ประมาณ 2 เรื่อง ไม่เคยเล่นแบบมีบทจริงจังแบบนี้”

พอมาเล่นหนังรู้สึกต่างจากที่เล่นละครมั้ย?

“มันก็ต่างนะ ถ้าละครวันนึงเราคงไป 10 กว่าซีนแล้ว แต่พอเป็นหนังมันก็ต่าง บท อะไรที่ต้องจบในชั่วโมงครึ่ง วิธีการเล่าเรื่อง แต่ถ้าคนจะมองว่าเล่นเล็กหรือเล่นใหญ่ อันนี้อาจไม่ได้ต่างมาก เพราะเรื่องนี้ก็เป็นคอมเมดี้ด้วย มันก็จะโอเวอร์นิดนึงค่ะ”

เป็นเรื่องราวในอดีตชาติและเราก็โดนของ?

“โดนของด้วย โดนซวยฟ้าผ่าอะไรไปกับเค้า คือวุ่นวายไปหมดเลยค่ะ ซึ่งตอนอ่านบทก็ไม่คิดว่าเราจะเจอพายุอะไรได้ขนาดนี้ นึกว่าเป็นซีจีหมดเลย แต่มันก็มีพารามอเตอร์อันใหญ่ๆ มาเป่าลมเราตกลงมา แอ๊ก แต่ก็สนุกดีค่ะ”

ถามถึงงานรอบปฐมทัศน์ มีหนุ่มเคน หวานใจให้กำลังใจ เค้าโอเคมั้ยหลังจากเปิดตัวแล้วคนจับตามากขึ้น?

“เค้าไม่ได้ชอบเลยค่ะ หมายถึงไม่ได้แอนตี้นะเพราะเราอยู่ตรงนี้ คือหนูไม่ชอบปิดเพราะมันต้องอธิบายเยอะ เมื่อไหร่ที่เราทำอะไรให้มันยาก ต้องมาอธิบายพวกพี่ๆสื่อ เวลาเรามีปัญหากับแฟน ถ้ามันจะต้องทะเลาะกัน หรือดีกัน
เรายังไม่เข้าใจกันเลยแล้วต้องมาอธิบายให้นักข่าวฟังให้ชาวเน็ตฟังมันยาก หนูก็เลยค่อนข้างเป็นคนตรงไปตรงมา ช่วงไหนรักก็ตะโกน ช่วงไหนอะไรก็เล่าให้ฟัง หนูจะได้จำได้ว่า ณ โมเมนต์นั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับหนู”

...

ส่วนของเค้า เค้าชอบมั้ยที่เราเปิดตัว?

“เค้าคงไม่ชิน เหมือนไม่เคยซ้อมมาก่อน”

แฟนๆเราจับตามอง เค้าเขินมั้ยเวลาโดนถ่ายรูป?

“ไม่นะ เวลาที่หนูโดนแอบถ่าย หนูก็พยายามจะบอกว่าอย่าแอบถ่ายเลยเดี๋ยวหนูไม่สวย (ยิ้ม)”

ซีเรียสมั้ยกับการที่คนอื่นมาเปิดวาร์ปแฟนเรา?

“ยังไม่มีนะ แต่ไม่ต้องทำนะ หมายถึงที่เราเปิดคือเพื่อที่จะให้เค้าไม่อึดอัด แต่ที่ทำลึกๆส่วนตัวมันคือการให้เกียรติเค้าเวลาเราไปไหน มันก็ต้องมีคนซุบซิบว่า เฮ้ยเป็นแฟนรึเปล่า เป็นใคร แล้วระยะเวลาที่เราคุยกับเค้ามามันก็นานพอสมควร เราเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงพื้นที่ตรงนี้ เราก็รู้สึกอยากให้เกียรติเค้า อาจจะไม่ใช่ว่าอยากให้เค้ามาอยู่ตรงนี้เพราะเค้าไม่ได้เข้ามาในวงการบันเทิงอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ให้เกียรติ คนเข้าหาเราเพราะเราคาแรกเตอร์เข้าหาง่าย เลยไม่อยากให้มันซับซ้อน”.