(ภาพจาก youtube)

ในไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเขียนคอลัมน์ซอกแซก สรุปผลการแข่งขันดนตรีลูกทุ่งประเภทมัธยมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ และเงินรางวัล 1 ล้านบาท ในรอบชิงแชมป์ 3 ทีมสุดท้ายของรายการ “ชิงช้าสวรรค์ 2022” ทางช่อง 23

ผลปรากฏว่า โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จากอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ สามารถคว้าแชมป์ไปครอง โดยเอาชนะ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จากจังหวัดเชียงใหม่ และ โรงเรียนเชียงกลมวิทยา จากจังหวัดเลยไปได้ในที่สุด

ช่วงท้ายๆของข้อเขียนซอกแซกเมื่อวันอาทิตย์ ผมเล่าถึงการกลับไป “แก้บน” สำหรับโรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผมเผอิญเปิดเจอในยูทูบ

เห็นแล้วก็ชื่นชมในตัวเด็กๆ ที่แต่งชุดเสื้อผ้าอาภรณ์อลังการที่ใช้แสดงในวันประกวดที่ช่อง 23 อย่างครบเครื่องเต็มยศ ลงไปร้องเพลงและร่ายรำโชว์ลีลากลางลานบ้านที่เต็มไปด้วยฝุ่น มองเห็นบ้านเก่าๆ เพราะสร้างมานานแล้ว หลังคามุงสังกะสี สนิมเกรอะ แบบหมู่บ้านชนบททั่วไปเป็นฉากอยู่ด้านหลัง

แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเวทีแสดงใน “สตูดิโอ” ของ เวิร์คพอยท์ ที่ประดับด้วยแสงสีสว่างไสว และน่าจะเย็นฉ่ำจากแอร์เครื่องยักษ์ เช่นเดียวกับสตูดิโอของสถานีโทรทัศน์ทั่วไป

ผมจึงเขียนแสดงความชื่นชมที่ลูกๆหลานๆจากโรงเรียนประโคนชัยฯ ยังรักษาความเป็นเด็กประโคนชัยหรือเด็กบุรีรัมย์เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น คือไม่ลืมท้องถิ่นของตนเอง

โดยเฉพาะท้องถิ่นชนบทบุรีรัมย์ ที่แม้ทุกวันนี้จะเจริญเติบโตขึ้นมากจาก “บุรีรัมย์โมเดล” ที่คุณ เนวิน ชิดชอบ ไปบุกเบิกไว้

...

แต่ความเจริญเติบโตนั้น ก็ยังคงอยู่ในตัวเมือง ในอำเภอใหญ่ๆ และค่อยๆกระจายออกไปอำเภอรอบนอกทีละน้อย ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของการพัฒนาที่จะต้องใช้เวลา

การที่ลูกๆหลานๆไม่ลืมถิ่นเก่ากลับไปแก้บนและแสดงอย่างเต็มที่กลางลานฝุ่นของหมู่บ้านตนเอง แสดงให้เห็นว่าลูกๆเหล่านี้เปรียบเสมือนปลา 2 น้ำ สามารถอยู่ได้ทั้ง 2 น้ำ

จะให้ร่ายรำกลางฝุ่นของบ้านเกิดฉันก็รำได้...หรือจะให้ไปร่ายรำกลางแสงนีออนใน “สตูดิโอ” เย็นฉ่ำฉันก็ทำได้เช่นกัน

นี่คือคุณสมบัติของเยาวชนไทยในอนาคต ที่ผมเชื่อว่านักพัฒนาประเทศทุกคนอยากเห็นนั่นก็คือเด็กไทยที่รักท้องถิ่น ไม่ลืมตนลืมตัว พร้อมสู้ชีวิต และพร้อมจะเดินออกไปแสวงหาความสำเร็จที่อยู่ไกลถิ่น...โดยระลึกถึงถิ่นเดิมอันยากลำบากอยู่ตลอดเวลา

ขอให้ลูกๆหลานๆชาวประโคนชัยรักษาคุณสมบัติอันดีงามเช่นนี้ไว้ตลอดไป โดยเฉพาะเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า

ในส่วนของ “บุรีรัมย์โมเดล” นั้น ผมก็ขอให้กำลังใจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อที่จะเป็นตัวอย่างของการพัฒนาจังหวัดอื่นๆ

แม้จะมีเสียงค่อนแคะว่าตัวคุณเนวินวางมือจากการเมืองแล้วก็จริงแต่ก็มีน้องชายเป็นใหญ่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง รวมทั้งตัวเองก็สนับสนุนและมีบารมีเหนือหัวหน้าพรรคดังกล่าวอย่างชัดเจน

อาจได้ “ทรัพยากร” ทางการเงินจากรัฐบาลโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานไปทุ่มลงจังหวัดบุรีรัมย์มากเป็นพิเศษ ฯลฯ

ก็อย่าไปคิดอะไรมากถือว่าราชอาณาจักรไทยนั้นแบ่งแยกมิได้ จังหวัดบุรีรัมย์ก็คือประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย พี่น้องบุรีรัมย์ก็เป็นคนไทยเช่นเดียวกับพวกเรา...มีงบฯไปลงเยอะๆเจริญรุ่งเรืองเยอะๆจะเป็นไรไปละ...ดีเสียอีกด้วยซ้ำ

สิ่งที่เราจะต้องช่วยกันควบคุมดูแลก็คืองบประมาณหรือทรัพยากรที่ไปลงบุรีรัมย์นั้นมีการใช้จ่ายอย่างถูกต้องหรือไม่? รั่วไหลหรือไม่? คอร์รัปชันโกงกินหรือไม่? ต่างหาก

ซึ่งผมก็เชื่อว่าในยุคข่าวสารทันสมัยอย่างทุกวันนี้คนที่ได้งบประมาณได้โครงการไปดำเนินการคงไม่กล้าที่จะโกงกินอย่างมูมมามแน่นอน

ผมจึงพยายามที่จะลืมเสียงค่อนแคะต่างๆและขอเอาใจช่วยให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จในที่สุด...สู้สู้ ต่อไปนะครับ “ปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” เอ๊ย...“บุรีรัมย์โมเดล” ที่คนทั้งประเทศกำลังจับตามองอยู่ในขณะนี้.

“ซูม”