ห่างหายจากงานในเมืองไทยไปนานมาก สำหรับไอดอลชื่อดัง นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องเกาหลีชื่อดังวง 2PM ล่าสุดเจ้าตัวได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวซีรีส์เรื่อง Finding the Rainbow : สุดท้าย…ที่ปลายรุ้ง ที่กำลังจะออกอากาศทาง Viu ซึ่ง นิชคุณ ได้นำแสดงด้วย 

โดย นิชคุณ ได้พูดถึงประเด็นที่มีคนขุดคลิปตนเองว่ายน้ำข้ามแม่น้ำฮัน เมื่อปี 2015 คนเดียว พร้อมยอมรับว่า รู้สึกไม่สบายใจที่มีคนโยง และเอามาเป็นดราม่า เพราะมองว่า โตโน่ ภาคิน ก็มีเจตนาดี และอย่างที่เคยพูดไว้ก่อนหน้าแล้วว่า "ถ้าไม่มีอะไรดีจะพูดเกี่ยวกับคนอื่น ก็ไม่ต้องพูดดีกว่า"

"จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้ข่าวลึกขนาดนั้น แต่ในใจผมก็คือเป็นแฟนคลับพี่โตโน่อยู่แล้ว เพราะว่าพี่เขาก็ทำงานช่วยสังคมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วเขาก็มาว่ายน้ำครั้งนี้ คือผมเช็กทวิตเตอร์อยู่ดีๆ ก็มีคลิปที่ผมว่ายน้ำขึ้นมา แล้วก็มีคนโจมตีกันไปโจมตีกันมา ผมก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแบบ 100% ผมก็เลยอยู่ห่างๆ ดีกว่า แต่ผมก็คิดว่าพี่โตโน่เขาก็พยายามทำดีเพื่อสังคมของเขา

ไม่ได้ตกใจที่มีการโยงแต่ก็แบบ…ทำไมอีกแล้ว คือผมก็ชื่นชมที่พี่เขาพยายามทำดีเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ แล้วพอเอามาโยงกับผมแล้วกลายเป็นว่า ทั้งสองฝั่งปะทะกันแล้วแบบมันไม่เกิดอะไรที่มันดีขึ้น ผมก็เลยอยู่เงียบๆ ของผมดีกว่า เดี๋ยวมันก็ซาลงไปเอง คือถ้ามีฝั่งไหนออกมาพูดอะไรด้วยตัวเองมันจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง"

...

เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจให้กับตัวเราใช่ไหม?

"ไม่สบายใจอยู่แล้ว เพราะว่ารายการมันผ่านมา 7 ปีแล้ว อยู่ดีๆ คนขุดขึ้นมา แล้วไม่ได้มาในทางที่มันดี 100% เขาอาจจะคิดว่าฉันอยากจะพูดอย่างนี้สำหรับศิลปินของฉันนะ แต่มันไปกระทบคนอื่น พอกระทบเขามันก็กลับมากระทบผมอีกรอบหนึ่ง

ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรที่มันดีต่อใครเลย เหมือนกับที่ผมเคยสัมภาษณ์มาก่อนว่า ถ้าไม่มีอะไรดีจะพูดเกี่ยวกับคนอื่น ก็ไม่ต้องพูดดีกว่า อยู่เฉยๆ ไปเถอะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาทำสิ่งที่ดีอีกด้วยซ้ำ ขอให้ทุกคนรักกันดีกว่า"

ภูมิต้านทานในการรับเรื่องดราม่าของเราสูงแค่ไหน?

"ถ้าผมทำอะไรผิดจริงๆ ผมก็แค่ออกมาขอโทษ แต่ว่าถ้าเกิดมีเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาหรือว่าโดนใครด่าเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผมก็รู้แค่ว่าผมเป็นใคร ผมมีชีวิตมายังไง แล้วผมมีชีวิตประจำวันเป็นยังไง

ผมก็เป็นผม ไม่สั่นสะเทือนกับเรื่องพวกนี้ อย่างที่ผมบอกอยู่ตลอดเวลาการเป็นดาราสำหรับผมเป็นแค่อาชีพอาชีพหนึ่งที่ผมโชคดีได้มายืนอยู่จุดนี้ ได้ยืนอยู่บนเวทีทำให้คนหลายคนมีความสุข นั่นคือเป็นอะไรที่วิเศษมากสำหรับการเป็นดาราของผม

แต่ผมเอามันแค่เป็นอาชีพหนึ่งที่ผมประกอบ พอผมกลับไปบ้านปุ๊บผมก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่อาจจะโดนด่าโดนว่าอะไร แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย รักกันดีกว่าใช่ไหมครับ"

สำหรับซีรีส์ฟอร์มยักษ์แห่งปี "Finding the Rainbow : สุดท้าย…ที่ปลายรุ้ง" โดย Viu Original ที่นิชคุณร่วมแสดงนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ได้กลับมาทำในเมืองไทย?

"ปีนี้ก็จะได้เห็นผมอยู่ประเทศไทยนานเหมือนกัน เพราะว่าช่วงนี้โควิดก็เริ่มคลี่คลายแล้ว เลยได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทยมากขึ้น ดีใจมากครับ ถามว่างานอั้นมาจากช่วงโควิดรึเปล่า จริงๆ ช่วงโควิดมันรับอะไรไม่ได้เลยครับ ถึงรับก็ยากช่วงนี้ก็เลยเข้ามามากขึ้น"

เห็นว่ามีมาถ่ายรายการที่เมืองไทยด้วย?

"ใช่ครับ รายการตีกอล์ฟที่มาถ่ายที่เมืองไทย สนุกดีครับ มีถ่ายที่กรุงเทพฯ และที่กาญจนบุรี แล้วก็ได้โชว์ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยให้ทุกคนได้เห็นกันด้วย"

โปรเจกต์ที่จะได้เห็นนิชคุณในเมืองไทยยังมีอีกไหม?

"ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรเยอะแยะมากมายนะครับ มีซีรีส์เรื่องนี้ (Finding The Rainbow : สุดท้าย…ที่ปลายรุ้ง) แล้วก็คงอาจจะมีงานเล็กๆ น้อยๆ ยังไงก็ต้องรอดูปีหน้าอีกที เพราะว่าก็มีอะไรทาบทามมาเหมือนกัน แต่ว่าปีนี้และปีหน้าก็คงจะหนักไปในเรื่องของการแสดง เพราะว่าเพื่อนๆ 2PM ก็ค่อนข้างยุ่งในตารางงานของเขา แต่ก็คุยกันเรื่อยๆ ว่าจะมีอะไรหรือเปล่า"

คัมแบ็กเหรอ?

"อันนี้ยังแค่คุยกันเฉยๆ เพราะว่าทุกคนก็ตารางงานเต็มกันไปหมด แต่แน่นอนว่าเราคุยกันอยู่ตลอดว่าจะมีคอนเสิร์ตเมื่อไหร่ดี ทุกคนพร้อมเมื่อไหร่ก็มาคุยกัน ถ้าสมมติจะมีคอนเสิร์ตปีหน้า เราก็ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ปีนี้เลย เพราะว่าแต่ละคนก็จะยุ่งกันก็ต้องจัดตารางการซ้อม การหาสถานที่ การอะไรก็แล้วแต่ แล้วยิ่งช่วงนี้โควิดคลายแล้วคนก็เริ่มรุมจองพวกฮอลล์คอนเสิร์ต เลยทำให้หาฮอลล์ยากหน่อย"

...

ส่วนตัวคาดหวังว่ามันจะต้องมีเกิดขึ้นแน่นอนใช่ไหม?

"(ถอนหายใจ) ไม่อยากจะสัญญาอะไรเลยครับ แต่ว่าพวกเราก็รู้แหละว่าแฟนๆ ก็คิดถึงพวกเรา แล้วพวกเราก็คิดถึงแฟนๆ เหมือนกัน อยากขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีต่อหน้าแฟนคลับทุกคน เราก็พยายามหาโอกาสกันให้มากที่สุดที่จะได้เจอแฟนคลับ".