รายการ “แฉ” ทางช่อง GMM25 เปิดใจนักร้องเสียงดี ปาน ธนพร แวกประยูร งานนี้ มดดำ คชาภา ถามตรงๆ ถึงเรื่องที่ไม่ได้รับงานทุกวัน ปานบอกว่าถ้าไม่จำเป็นก็มีเวลาให้ตัวเองบ้างไหม ก็ยังทำงาน แต่ทำน้อยลง ก็ทำงานทอล์กสินค้าที่เราใช้จริงๆ งานร้องเพลงไม่ได้รับ พูดขำๆ จะร้องเพลงไม่เป็นอยู่แล้ว

จริงๆ ไม่ใช่ไม่รับ ถ้ารับก็ขอดูมากขึ้น อย่างงานร้องเพลงในผับไม่ได้ร้องมานานมาก ส่วนงานร้องเพลงที่วัดก็มีคนติดต่อมา ถ้าเป็นตามร้านอาหาร ที่มีแขกมาจอยกันสนุกๆ ก็โอเค ส่วนนึงที่ไม่รับเพราะเรื่องสุขภาพเราถอยไปเยอะ เมื่อก่อนดื่มหัวราน้ำ แต่เพราะสังขารด้วย และหลายๆ อย่าง แม่ป่วยก็ส่วนหนึ่ง เหมือนสัจธรรมอยู่ตรงหน้า เราก็วิ่งรักษาแม่ตลอด ที่ไหนดีก็ไปหมด แต่สุดท้ายแม่เราก็นอนเป็นผักอยู่ดี เป็นแบบนี้มา 20 ปี

แรกๆ ทำใจยากมาก แต่ก็ต้องยอมรับให้ได้ เราก็เข้าใจว่ามันคือสัจธรรม เราก็คิดว่าเราเอาดินน้ำลมไฟที่แม่ให้เรามาไปทำประโยชน์ให้เขาดีไหม ก็ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ในเมื่อเขาให้ร่างกายเรามา เขาจะไม่ได้บุญนั้นจากเราได้ยังไง เขาให้เราอยู่ตั้ง 9 เดือน เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องเปลี่ยนชีวิตอะไรบางอย่างดีกว่า ทุกวันนี้ก็อยากมีความมั่นคงในชีวิต เพื่อที่แก่ตัวแล้วจะได้ไม่เป็นภาระใคร อยากตายอย่างสง่างาม ตายอย่างผู้กล้า จึงต้องไปปฏิบัติธรรม

...

มีช่วงหนึ่งมดดำถามว่า เคยมีแฟนไหม ปานตอบทันที “มีสิ ฉันก็เป็นมนุษย์ เราก็ต้องเคยมีความรัก ไม่งั้นเราจะถ่ายทอดออกมาได้ยังไง” มดดำถามว่า แล้ววันนี้ล่ะ ปานบอกว่า ไม่มีมาเป็น 10 ปีแล้ว มดดำบอกว่า มีคนบอกว่าปานเป็นผู้หญิงที่ร้องเพลงแดกดันผู้ชายได้ดีที่สุด ปานบอก “ก็นั่นไง มันเป็นกรรมไง เธอคิดว่าผู้ชายจะมาจีบผู้หญิงอย่างนี้มั้ยดาด้า (หันไปหาดาด้า ดาด้าหัวเราะชอบใจ)

แล้วรู้มั้ยว่าคนแต่งเพลงคือพี่บั๋ง (สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา) เคยเดินมาขอโทษเลยอ่ะ บอกว่าปาน ถ้าชาตินี้ปานไม่ได้แต่งงาน พี่ขอโทษนะ” น็อต วรฤทธิ์ ถามว่า เป็นเพราะเพลงที่เขาแต่งให้ร้องเหรอ ปานบอก “ถูก มันส่งผล” น็อตถามต่อว่า ช่วงที่เป็นนักร้องดังมากๆ มีคนมาจีบมั้ย ปานบอกว่า “ไม่ แปลกมะ คงกลัวปากน่ะ หน้าดุด้วย ปากด้วยหลายอย่าง”

มดดำถามว่า คนที่อายุเลข 3 เลข 4 แล้วยังไม่มีแฟน จะอยู่คนเดียวยังไงให้มีความสุข ปานบอกว่า “เอาจริงๆ นะ ถ้าเมื่อไหร่ที่อยู่คนเดียวเป็นแล้ว จะไม่อยากอยู่กับคนอื่นเลย เราถูกฝึกให้ทำอะไรคนเดียวตลอด ตอนนี้กลายเป็นว่ากลัวการอยู่กับคนอื่น เพราะมีความรู้สึกว่าไม่ส่วนตัว ไม่ชินแล้ว เลยอยู่กับแมว มีแมวตัวนึง เราอยู่กับตัวเองตลอด”

มดดำถามว่า อะไรคือความสุขของการอยู่กับตัวเอง ปานบอกว่า “อยู่กับใจ แล้วจะดีใจมากที่ทุกครั้งตัวเองมีสติ รู้สึกเหมือนทำข้อสอบผ่าน มันเหมือนนับแต้ม วันนี้รู้ตัวกี่คะแนน วันนี้เผลอตอนนี้ ตอนนั้นไม่มีสติ อย่างน้อยได้ทบทวนทุกวัน”

น็อตถามว่า เหงามั้ย ปานบอกว่า “แรกๆ ก็เหงา แต่มันมี 2 ทาง คือเราไม่มีแฟน อย่างน้อยคำตอบที่เรารู้แน่ๆ มันจะเหงา แต่เป็นคำตอบที่เรารู้ไง แต่ถ้าการที่เรามีใครสักคน นั่นคือเป็นคำตอบที่เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราและเขา เราต้องศึกษากับเขาไปอีกเท่าไร คนคนนี้จะอยู่กับเราไปทั้งชีวิตได้จริงมั้ย

อาจารย์พี่ท่านเคยถามว่า ความรักมันมีจริงมั้ย เราก็บอกว่ามีสิ จะไม่มีได้ยังไง ท่านก็บอกว่ามันมี แต่ดูให้ดีสิ ถ้ามันมีจริงๆ เวลาเขาทำให้เราไม่พอใจ ทำไมเราถึงไม่พอใจได้ ทำไมเราถึงกล้าพูดไม่พอใจเขาล่ะ ทำไมเราเอาเรื่องเขา ถ้าเรารักเขาก็ต้องให้อภัยเขาได้เดี๋ยวนั้นเลยสิ ก็เลยถอยไปนั่งคิดใหม่

...

ท่านบอกว่ามันเป็นแค่อารมณ์เท่านั้นแหละ ทุกวันนี้ถ้าอยู่ด้วยกัน อย่างคนที่มีครอบครัวแล้ว ท่านบอกว่าสุดท้ายคนเรามันอยู่ด้วยความเมตตา ความผูกพัน สายใยที่อยู่ด้วยกัน ความผูกพันเกื้อกูลต่างหากที่เป็นตัวเชื่อมให้อยู่ด้วยกัน ไอ้ตัวความรักน่ะแป๊บๆ เดี๋ยวมันก็เลือนราง เราก็เลยเข้าใจ

สุดท้ายแล้วมนุษย์ทุกคนท่านพูดเสมอว่าไม่มีหรอกมนุษย์คนไหนที่รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะเรารักเขาตราบเท่าที่เขายังทำให้เราพอใจ เมื่อไรที่เขาทำให้ไม่พอใจ เธอลองถามตัวเธอเองว่ายังรักเขาหรือเปล่า หรือเธอเกิดความไม่พอใจในตัวเขา แล้วทำไมเธอถึงยังเรียกมันว่าความรัก ปานว่าถ้าเรารักตัวเองเป็น เราก็จะรักคนอื่นเป็นโดยอัตโนมัติ”.