เป็นพระเอกลิเกมาตั้งแต่ยังเด็ก กระทั่งมามีชื่อเสียงในวงการบันเทิง สำหรับ เอ ไชยา มิตรชัย ที่ตอนนี้มีครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมาก โดยเฉพาะภรรยา หนูนา นั้นดูแล เอ และลูกๆ เป็นอย่างดีมาโดยตลอด 

ล่าสุดในรายการ เม้าท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม ทางช่องยูทูบที่มี เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นพิธีกร เอ ไชยา ก็ได้มาเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นความรักรวมไปถึงยอมรับว่าเคยคิดนอกใจภรรยาไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย และทำผิดแบบไม่น่าให้อภัย

เอ ไชยา ได้เล่าถึงภรรยา หนูแดง ว่า แม่ของแฟนเขาเป็นสายบุญ แล้วแม่เขาชอบหาลิเกคณะของ เอ ไชยา ไปช่วยงานบุญ ถามว่าทำไมถึงเป็นคนนี้ ตอนแรกเรามองว่าเขาหยิ่ง ซึ่งต่างคนต่างก็มองว่าหยิ่ง เพราะเขาเคยเห็นภาพที่เรานั่งรถเบนซ์เข้างานแบบชูคอ และเราก็มองว่าเขาหยิ่งเพราะเขาไม่พูด แต่สุดท้ายเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ผู้หญิงเขาเป็นคนพูดน้อยด้วย และสุดท้ายที่มาจูนกันได้เพราะแม่เขาเป็นสายบุญ เอาคณะลิเกเราไปช่วยวัดนั้นวัดนี้

...

ถามว่าจีบนานแค่ไหน จีบนานเป็นปีเลย แม่ยายเขามีที่ดินแถวสาทร เป็นที่ดินเขาหมดเลย เขาเป็นต้นตระกูลตรงนั้น ในช่วงที่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องครอบครัว เพราะมันมีเหตุผลตรงที่ว่า มีลูกน้องในคณะอีก 100 ชีวิตที่ต้องเลี้ยงและดูแล ถ้าเราไปอยู่กับครอบครัว แล้วลูกน้องที่ทำมาหากินกันมาจะอยู่ยังไง เลยตกลงกับครอบครัวว่าแบบนี้อยู่ได้มั้ย แบบที่เราไม่ต้องไปคุยกับใคร เราก็มีความสุขกันเล็กๆ ในครอบครัว จนแม่ยายเคืองไปพักเลย เขาบอกให้ลูกสาวเขากลับบ้าน หลานก็เลี้ยงได้ แต่ภรรยาบอกว่าไม่เป็นไร เลือกแล้ว จะทนเพื่อครอบครัว

สิ่งหนึ่งในบ้านที่ขอภรรยาเลยว่า อย่าแต่งตัว เพราะถ้าแต่งตัวแล้วจะสวย เวลาเดินด้วยกัน แม่ยกเขาจะหาว่าเป็นแฟน แล้วเราจะมีปัญหากับแม่ยก เพราะเขาเป็นภรรยาเราแล้ว คนก็จะยิ่งจับผิดใหญ่เลย เลยกลายเป็นว่า ทาเล็บ ทาลิปสติกไม่ได้ ทำยังไงก็ได้เพื่อให้โลว์โปรไฟล์ที่สุด เหมือนเขาเป็นผู้ติดตามเรา

เอ ไชยา ยอมรับว่า ในช่วงที่มีภรรยาแบบบอกใครไม่ได้ ก็มีคนเข้ามาจีบเยอะมาก เวลาแม่ยกโทรมา ก็จะออกไปคุยข้างนอก ซึ่งภรรยาก็ไม่เคยถาม แม้กระทั่งว่าเวลาไปไหน กลับกี่โมง เขาก็ไม่เคยถามอะไรเลย

แต่มีสิ่งหนึ่งในใจที่รู้สึกผิดมากๆ คือ ภรรยานอนอยู่บนเตียง แล้วเราก็ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก 3-4 ชั่วโมง ทำแบบนี้ประมาณ 2-3 คน เคยแอบคิดขอมีเมียอีกคน ซึ่งภรรยาก็รู้ แต่เขาไม่พูด เราได้โอกาสจากเขาหลายครั้ง เป็นโอกาสที่ไม่น่าจะได้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นบุญเก่าหรืออะไร ที่ชีวิตคู่ของเราอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านของภรรยาเขาก็รับได้ด้วยนะ เขาบอกว่า เราจะมีบ้านน้อยอีกหลังก็ไม่เป็นไร แต่ก็ขอฝากลูกไว้อีกคนด้วยนะ

ซึ่งเราจะก้าวขาออกจากบ้านไปจดทะเบียนแล้ว แต่ก็คิดว่าไม่เอาดีกว่า สงสารลูกสงสารเมีย มันมีภาพแวบเข้ามาในหัวตอนที่เขาพาลูกขึ้นไปอยู่บนเขาเพื่อหลบข่าว เขาตั้งใจเลี้ยงลูกของเรา ณ ปัจจุบันนี้เลยตั้งใจว่า ต่อไปนี้เราจะมีลมหายใจเพื่อเขาจริงๆ ผมไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง ตอนนี้เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือทำอะไรก็ได้ให้เขามีความสุขมากที่สุด.