เพราะ อุงเอิง SPD หรือ ชินาภา วิชญชญา ถูกจับตาเรื่องความสัมพันธ์กับ สไปร์ท SPD หรือ เนติเจน เนติรัตนไพบูลย์ มาระยะหนึ่งแล้ว แถมยังเจอดราม่ามาอย่างต่อเนื่อง

เพราะเหตุนี้ อุงเอิง เลยถือโอกาสมาตอบคำถามเพื่อเคลียร์ดราม่าในช่องยูทูบของตัวเอง ในหัวข้อ มาเคลียร์สถานะ เพื่อน ฟ้อง!? ให้ทุกคนที่ยังสงสัยและติดใจได้รู้กัน

ซึ่งอุงเอิงได้เริ่มที่คำพูดที่หลายคนชอบพูดว่าเอิงเข้ามาในวันที่สบาย ช่วยเหลือไปร์ทเพราะไปร์ทรวย คำนี้คือเกลียดมาก ทำไมถึงต้องมองคนแบบนี้ตลอด เอิงไม่ได้เข้ามาในวันที่ไปร์ทสบาย แต่เข้ามาในวันที่เขาสลาย

คือเรารู้จักกันเพราะว่าไปร์ททักมาหาเอิงให้ช่วยไปถ่ายคอนเทนต์ให้หน่อย และวันที่เจอไปร์ทวันที่นัดถ่ายงานมันไม่ใช่ไปร์ทที่ดูในคลิปสดใสร่าเริง แต่วันที่เอิงเจอ เขานั่งอยู่ที่ร้าน เขานั่งแล้วแววตาของไปร์ทมันเศร้ามาก

เอิงอยากออกมาพูดปกป้องไปร์ทว่าเขาชิล เขาสบายวันที่เขาสลาย เขาต้องเริ่มต้นเปิดช่อง SPD เป็นบริษัทใหม่ เขามีพนักงานอีก 10 กว่าคนที่เขาต้องดูแล เขามาคุยกับเอิงสปอนเซอร์ในช่องยังไม่มี แต่มีทีมงานที่ต้องรับผิดชอบ

...

เลยทำให้เอิงเห็นศักยภาพเขาที่เอิงช่วยไปร์ทในการเปิดบริษัท NO.1 ขึ้นมา เพราะจริงๆ แล้วเขาเก่งกว่าที่เขารู้กัน เขาสามารถไปได้ไกล เขาสามารถดูแลพนักงานได้ เพราะเขามีจิตใจที่เอื้อเฟื้อ ที่เอิงช่วยเพราะเขาเป็นคนที่น่าสงสารมากจริงๆ

และเขาก็เป็นคนดี สายตาของเขาในวันนั้นมันมีความเป็นเด็ก มันใสก็เลยอยากจะมาช่วยซัพพอร์ตเขา นี่คือจุดเริ่มต้นที่เอิงอยากเข้ามาช่วนเหลือไปร์ท ได้ทำงานร่วมกัน เอิงเรียนจบบริหารมาก็เลยมาช่วยบริหารให้

และที่สติเอิงรู้ว่ามันมีความทรงจำหลายๆ อย่าง และเอิงก็อยากให้ทุกคนให้เกียรติไปร์ทด้วยว่าเขาเป็นผู้นำ ณ ที่นั้นแล้ว ก็อยากให้กำลังใจไปร์ทด้วย เขาก็เป็นผู้ชายคนนึง เขาก็มีหัวใจ เขาก็เจ็บช้ำได้ แต่ไม่ออกมาพูด

ไปร์ทเป็นคนปล่อยวางได้ เวลาโดนด่าหรือดราม่าเขาก็หยุดที่ใจเขาเอง แต่สำหรับเอิงยังปล่อยวางไม่ได้ เลยเป็นต้นเหตุของคลิปนี้ ที่ต้องมาตอบคำถามทุกคน

ตั้งแต่เข้ามาเหยียบที่นี่ ก็มีหลายเรื่องเลยเถิดบานปลาย จนทุกวันนี้มีคนด่าแม่แล้ว วันนี้เลยเอาแม่มาเคลียร์ด้วย คลิปนี้เอิงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ชินาภา วิชญชญากรณ์ เป็นอุงเอิงร่างใหม่ เกิดใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นานามาได้

ตอนนี้มีดราม่า คนด่าถึงแม่ บอกว่าแม่เลี้ยงมายังไงลูกถึงได้เป็น XX อย่างนี้ งานนี้แม่ของอุงเอิงตอบว่าก็เลี้ยงเหมือนแม่ทั่วไป ลูกแม่ก็เป็นคนดีระดับหนึ่งอยู่นะ

หลังจากที่มีดราม่า คนก็ถามว่าจะฟ้องมั้ย ต้องบอกก่อนว่าใจจริงๆ ไม่คิดว่าจะฟ้องเลย มันเป็นเรื่องไร้สาระที่คนเข้าใจผิดแล้วไปพิมพ์อะไรแบบนั้น จนกระทั่งมันมีแวบนึงที่มันรุนแรงเกินไป เพราะเขาเริ่มบิดเบือนความจริง

มีคนเอาคำพูดหนูไปตัดต่อใหม่ให้ความหมายเปลี่ยน ให้คนเข้าใจผิด ก็เลยเริ่มมีความคิดว่าจะต้องดำเนินการอะไรสักอย่างเป็นตัวอย่างรึเปล่า มันไม่ได้เสียหายแค่เรา แต่มีทีมงานที่ต้องพึ่งพากันอยู่ ก็เลยเริ่มคิด

ถ้าคนที่ติดตามจะรู้ว่าเอิงไม่ได้เป็นคนที่อยากดัง อยากรวย แต่ที่อยากมีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะอยากมีพาวเวอร์ให้กับสังคม อยากให้สังคมมันน่าอยู่ขึ้นจริงๆ คนก็บอกว่าถ้าอยากให้สังคมมันอยู่ขึ้นก็ต้องฟ้อง เพื่อให้เป็นตัวอย่าง มันก็มีส่วนที่จริง และมีส่วนที่กังวล

อยากทำให้ใจเขามันสงบขึ้น เพราะถ้าเราฟ้อง ใจเขาก็ยิ่งร้อน และก็กลัวว่าจะแรงขึ้นไปอีก และจะกลายเป็นเรานี่แหละที่ทำให้ร้ายขึ้น เลยได้ข้อสรุปว่า

ที่ฟ้องเพราะอยากให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันผิด ไม่ควรทำ ก็จะให้โอกาสลบและปล่อยวาง เพราะเอิงให้อภัยได้เสมอ แต่ถ้าใครที่ไม่ลบก็จะคือว่าเป็นเคสตัวอย่างให้คนอื่น

ดราม่าที่เกิดขึ้น คนเข้าใจผิด และสุมไฟกันขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เรื่องลุกลามไปแบบผิดๆ ถูกๆ คนมองว่าเอิงไม่ยอมอยู่เงียบๆ ไม่งั้นก็ไม่มีดราม่าแล้ว หรือบางคนก็ให้เอิงออกไปจากที่นี่ ดราม่าก็ไม่เกิดแล้ว

อย่างคำว่า โอ๋ๆ นะ ทำไมกลายเป็นดราม่าได้ ตอนที่โพสต์ส่วนตัวไม่ได้คิดร้ายกับใครอยู่แล้ว เวลาจะพูดอะไรก็เป็นมุมบวกตลอด อย่างโอ๋ๆ นะก็เป็นการพูดให้กำลังใจ ไม่คิดว่าคำนี้จะเปลี่ยนเป็นมุมลบได้ และที่หลายคนบอกว่าเงียบ แล้วทำไมเอิงต้องเงียบ เพราะไม่ได้จะพาดพิงใคร จะทำร้ายใคร

ขอเคลียร์เรื่องที่หลายคนถามว่าทำไมต้องไปยุ่งกับผู้ชาย ดู 11 รด. โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นกับผู้ชายตั้งแต่เด็กๆ คือเล่นกับเพื่อนผู้ชายแล้วมันสุด สนุกสุดเหวี่ยง มันถึงใจถึงอารมณ์และเอิงเป็นคนไม่คิดมาก และก็เล่นกับทุกคน อยากให้เปิดตากว้างๆ และเปิดใจ

และอีกประเด็นที่อยากจะเคลียร์ ที่คนบอกว่าไปพูดถึงคุณเก๋ไก๋ สไลเดอร์ ว่าเขาจะลดตัวมาถ่ายได้เหรอ ทุกคนไปดูได้เลยนะเอิงไม่เคยพูดประโยคนี้มาก่อน เอิงให้เกียรติทุกคน ที่เรียกคุณเก๋ก็ไม่เคยคิดในมุมร้ายว่าจะเป็นการแซะ กระแนะกระแหน

...

เรียกคุณเพราะว่าให้เกียรติ เพราะเขาเป็นคนหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ คนเลยมองว่าเราแซะเขา และบอกว่าถ้ารู้จะเป็นประเด็นแล้วจะไปพูดถึงเขาทำไม ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ถึงคุณเก๋และ FC ที่รู้สึกไม่ดีกับคำพูดนี้ เอิงไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ

จะบอกว่าครั้งนั้นมันเป็นการไลฟ์ คำถามรัวเป็นร้อยก็อ่านไปเรื่อยๆ จนอ่านคำถามนี้แล้วมันอ่านไปแล้ว และทุกครั้งก็จะบอกตลอดว่าไม่ขอตอบคำถามที่พาดพิงถึงคนอื่น ก็พยายามแล้ว ฝากขอโทษถึงคุณเก๋อีกครั้ง ไม่ได้ต้องการจะแซะ

ถึงเขาจะบอกว่าเราคือเพื่อน คือพวกเรา เอิง ไปร์ท เก๋ เคยอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ว่าไม่ใช่เพื่อน มันอยู่คนละโซน และตอนที่อยู่โรงเรียนก็ไม่เคยคุยกันแม้แต่ประโยคเดียว ทักทายก็ยังไม่เคย ก็เลยไม่กล้านับว่าตัวเองเคยเป็นเพื่อนกับเขา

ประเด็นมือที่สาม อุงเอิงให้ทีมงานช่วยตอบคำถามให้เป็นมือที่สามหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ใช่มือที่สาม และวันที่ไปร์ททักมาหาชวนไปทำงาน สถานะไปร์ทคืออะไร ซึ่งทีมงานก็ตอบว่า โสด 100% ทุกคนเลิกเถอะ ไม่ได้อยากออกมาปกป้องแค่ตัวเองนะ อยากปกป้องไปร์ทด้วย เอิงไม่ใช่มือที่สาม

...

ก่อนที่จะสรุปดราม่าที่คาใจใครหลายคนว่า เอิงติดรถไปกับเพื่อน (นั่งคนละคัน) ติดรถเขาไปเพราะจะไปจังหวัดเดียวกัน ซึ่งคนจะเห็นว่ามีรูปว่านั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน นั่งข้างกัน ที่ได้ไปนั่งกินข้าวด้วย เพราะติดรถเขากลับค่ะ และรถคนละคันด้วย เป็นเพื่อนของเพื่อนไปร์ท หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกันเลยทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

แล้วสถานะตอนนี้เป็นอะไรกับไปร์ท ซึ่งบอกไปหลายรอบแล้ว ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ เป็นเพื่อนกันจริงๆ คนก็บอกว่าเอิงพยายามจะแสดงออกขนาดนั้นก็เปิดตัวกันไปเลย พูดไปแล้วทำไมไม่มีคนเชื่อ จะทำยังไงดี

ซึ่งไปร์ทก็มาตอบคำถามว่า เป็นเพื่อนกัน ดูกันเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุด อนาคตเป็นไงก็ไม่รู้ อุงเอิงจึงบอกว่า หลายคนชอบพูดว่าอย่าให้เห็นนะว่าเปิดตัวกัน ก็ตอนนี้มันยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ไม่ได้ซุ่มอะไร อนาคตยังไม่รู้ น้ำเซาะหินทุกวัน (พูดเล่นๆ) ทำเอาสไปร์ทเจอคำตอบแบบนี้ต้องรีบลุกขึ้นว่า ไปดีกว่า และอุงเอิงก็บอกว่าให้ไปร์ทออกไปก่อนดีกว่า เพราะไม่งั้นไม่กล้าพูดอะไรที่มันเป็นสาระ

ที่เอิงเคยลงติ๊กต่อกว่าเอิงก็มีหัวใจ มันคือเรื่องจริงนะ เอิงเคยมีแฟน มันเป็นรักที่ดีสำหรับเรา แต่ว่าพูดถึงมันก็จะร้องไห้ มันก็มีจุดที่รู้สึกว่าเอิงไม่รักตัวเองเลย เอิงมีนิสัยบางอย่างตอนมีแฟน ซึ่งก็ไม่ชอบตัวเองในเวอร์ชันนั้น

...

ตอนนี้ก็เลยอยากจะรักษาแผลใจ คือเอิงและไปร์ทมันบังเอิญที่เพิ่งเจอกันแต่ก็สนิทกัน เราเจอกันครั้งแรกมันเป็นการเจอกันแบบคลีน ไปร์ททักมาชวนถ่ายงาน จู่ๆ เขาก็ทักมาชวน เอิงก็ไม่รู้เหมือนกันทุกคน

เราสองคนเข้าใจกันง่ายเพราะผ่านเหตุการณ์มาเหมือนกัน โสดมาเหมือนกัน เอิงโสดมา 4 เดือน ไปร์ทก็ทักมา ตอนหลังก็รู้ว่าเราโสดช่วงเดียวกัน ตอนคุยกันก็คุยแบบเพื่อนจริงๆ เรามีความรู้สึกเหมือนกันมันเลยจูนกันง่าย

ที่ไปร์ทออกมาปกป้องเอิงทั้งที่เอิงยังไม่ได้ทำอะไร เขาก็คงสงสารเพราะคนด่าเยอะมาก เอิงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แต่คนก็มาด่าที่ไม่ออกมาพูดเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของทุกคน

เอิงพยายามให้เกียรติ FC ที่ด่าเอิงอยู่ทุกวัน และก็อยากให้ทุกคนให้เกียรติเอิงด้วยเหมือนที่เอิงให้เกียรติเขา หลายๆ ครั้ง ที่เลือกจะเซฟความรู้สึกของคนอื่น จนไม่ได้เซฟความรู้สึกของตัวเอง