ยอมรับว่าใจหาย หลังบริษัทดูแลศิลปินและผู้ผลิตค่ายดัง นาดาว บางกอก ประกาศปิดตัว ยุติทุกบทบาท พระเอกดัง “ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร” เปิดใจครั้งแรกว่า

“ผมไม่ตกใจเพราะผมเข้าใจ เราก็ทราบมาก่อน เรื่องแบบนี้มันไม่สามารถคุยกันในคืนเดียวได้ มันมีการคุยกันเป็นภายใน”

วันที่เราทราบวันแรกรู้สึกยังไง? “ก็ตกใจ มันก็มีความใจหายเหมือนกัน มันคือการอธิบายกันมาเรื่อยๆ มันไม่ใช่การคุยกันอธิบายกันครั้งสองครั้ง ผมรู้สึกว่าผมโอเคเพราะผมรู้เหตุผล ผมว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งนี้เป็นแค่เรื่องว่าเราอาจจะต้องโตพอที่เราจะต้องเดินไปในเส้นทางตัวเองจริงๆแล้ว”

หลายคนเป็นห่วงศิลปินในค่ายทั้งต่อและน้องๆ? “ขอบคุณแทนทุกคนที่เป็นห่วง พวกผมก็เป็นห่วงตัวเองนะ แต่ส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่าเราก็โตขึ้นแล้ว มันไม่แปลกเลยที่วันนี้เราจะต้องเริ่มเดินด้วยสองเท้าเราเอง”

ได้ตัดสินใจหลัง มิ.ย.รึยังว่าจะเดินต่อไปยังไง? “เป็นช่วงที่ใช้ความคิดครับ แต่ว่าผมยังไม่ได้ตัดสินใจแบบฟันธงขนาดนั้น ผมเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ใช้ความคิดกับตัวเอง แต่มันยังไม่ชัวร์ยังไม่รีบ”

พอค่ายประกาศปิดตัว หลายค่ายอาจจะพุ่งเป้าสนใจในตัวเรา มานำเสนอตัวเองให้ไปอยู่ด้วย? “จะจีบว่างั้นเถอะ อยากโดนจีบนะ (ยิ้ม) อย่างพี่ๆที่ผมทำงานด้วยเราคุยกันได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าสำหรับผมสิ่งสำคัญมันไม่ใช่สัญญาด้วยซ้ำ ผมให้ใจล้วนๆเลย เรื่องสัญญาผมว่ามันเรื่องเล็ก สุดท้ายมีสัญญาแต่ไม่มีใจมันก็ทำอะไรไม่ได้”

หลายคนมองว่าถ้าไม่มีนาดาวแล้วต่อจะยังอยู่ตรงนี้มั้ย? “ช่วงแรกๆที่แชร์ความคิดกับตัวเองก็มีความคิดนะว่าเราจะยังไง เราอยู่ในโพสิชันแบบไหน เราอยากทำอะไรไปต่อ แต่พอคิดแล้วเราก็คิดว่าจะตั้งใจทำงานให้แฟนๆ ถามว่าผมจะเลิกเป็นนักแสดงได้มั้ย ไม่ได้หรอก ผมยังรักงานตรงนี้”

...

ความผูกพันระหว่างเรากับนาดาวเป็นยังไง? “ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ต่อให้มันจะปิดหรือยังอยู่ก็ตาม นี่คือบ้านของผม มองอย่างนั้นและความคิดนี้มันไม่เคยเปลี่ยน ผมโตมากับที่นี่ ผมถูกที่นี่ให้กำเนิด เลี้ยงมาแบบนี้ แล้วผมก็เชื่อว่าพี่ๆเค้าไม่ได้ไปไหน เค้าก็ยังเป็นคนที่เรารู้สึกว่าถ้าเราต้องการคำปรึกษาเราก็ยังนึกถึงเค้าอยู่ดี และเชื่อว่าเค้าก็พร้อมให้คำปรึกษา”.