กลายเป็นดราม่าสนั่นโซเชียล เมื่อ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูล ประกาศตัดสัมพันธ์กับ สมปอง นครไธสง หรือ อดีตพระมหาสมปอง ซึ่งก่อนหน้านี้ทิดสมปองสึกจากการเป็นพระและทำงานทั้งเป็นนักร้อง รีวิวสินค้าต่างๆ รวมถึงการทำรายการกับทีวีพูล และทิดสมปองก็ได้พักอาศัยที่บ้านของติ๋ม ทีวีพูล แต่พอมีดราม่าแตกหัก ทิดสมปองก็ถอนตัวออกจากทุกรายการของทีวีพูล ทั้งที่ยังติดสัญญาอยู่ 2 ปี

ล่าสุดรายการ “ดราม่าวันนี้” ทางช่อง MCOT HD ดำเนินรายการโดย บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี สอบถาม ติ๋ม ทีวีพูล ถึงเรื่องดังกล่าว โดยในช่วงหนึ่งของรายการ บุ๋มถามว่าตั้งแต่รู้จักกับเขาจนถึงวันนี้หมดเงินกับเขาไปเท่าไร ติ๋มตอบว่า เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะว่าเรามีเหลือเฟือ เราเต็มใจให้ เราคิดว่าเขาทำคุณประโยชน์ให้พระพุทธศาสนานาน 30 ปี อยากจะตอบแทนในสิ่งที่เขาทำให้กับพุทธศาสนา

บุ๋มถามว่า วันนั้นที่เขามาอยู่บ้าน เขาขอ 2 แสนใช่ไหม ติ๋มบอกว่าใช่ วันที่มาอยู่บ้าน 2-3 วัน เขาบอกว่าเขาอยากมีเงินติดกระเป๋า เขาบอกให้ช่วยรับขวัญหน่อย เขาบอกว่าเราเป็นเหมือนแม่คนที่ 2 ของเขา เราก็รับขวัญเขาไป 2 แสนบาท ให้ส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน บุ๋มถามว่า หลังจากนั้นมีการเซ็นสัญญาเรื่องการทำงานเหรอ ติ๋มบอกว่า เรื่องทำงานเป็นเรื่องของเต้ ลูกชาย เป็นคนเซ็น เพราะไม่ได้ทำงาน ยกให้ลูกแล้ว ด้านเต้เสริมว่า เรื่องสัญญาทำไว้ 2 ปี ที่ให้ 1 ล้านบาทคือระยะเวลา 4 เดือน ตกเดือนละ 250,000 บาท พอเริ่มสัญญาก็ให้ล่วงหน้าก่อน

...

เมื่อถามว่า ดูแลเขาขนาดนี้วางแผนกับชีวิตเขายังไง ทำไมถึงให้เขาขนาดนี้ ติ๋มบอกว่า ที่จริงให้กับคนทุกคน พี่บอกเขาว่า วางแผนชีวิตเขา อยากให้เขาเก็บเงิน เพราะเขามีรายได้มาก จริงๆ มากกว่าดาราเบอร์หนึ่งด้วยซ้ำ เขาได้ค่าไลฟ์สดครั้งนึงประมาณ 3 แสนบาททุกวัน ครึ่ง ชม. ได้ 150,000 บาท แต่เขาไม่รู้จักวิธีการใช้เงิน บุ๋มถามว่า เคยถามเขาไหมว่าเอาเงินไปใช้อะไร ติ๋มบอกว่า ถามตลอด แต่เขาไม่ตอบ

ติ๋มบอกว่า ที่ผ่านมาได้แต่เตือนเขาว่าพยายามคบคนที่มีต้นทุนเท่าเรา จะได้ไม่กล้าทำร้าย ส่วนเรื่องผู้หญิง คนไทยรับไม่ได้ที่คนเพิ่งสึกมาแล้วจะไปมีผู้หญิง ต้องระวังมากๆ เรื่องนี้ พี่ออกกฎว่าห้ามนั่งใกล้ผู้หญิงใส่สายเดี่ยวเด็ดขาด

บุ๋มถามว่า เขาพูดในไลฟ์ว่าพี่ติ๋มห้ามคบเพื่อนแบบนั้นแบบนี้เป็นชนวนแตกหัก พี่ห้ามเขาคบเพื่อนผู้หญิงด้วยหรือไม่ ติ๋มตอบว่าใช่ เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเขาไม่รู้จักโลกข้างนอกเลย ดังนั้นเขาต้องคัดคนที่มาอยู่รอบตัวควรเป็นคนที่ดีและต้องสะอาด เพราะพี่กลัวมากเรื่องธุรกิจสีเทา จะมีกิเลสเยอะเพราะเงินได้ง่าย เราไม่ใช่คนอย่างนั้น สมปองไม่ใช่คนสีเทา เราใช้แรงงานทำจริงๆ ฉะนั้นอย่าไปอยู่กลุ่มพวกนี้ พวกที่อยู่กับผู้หญิงกับไวน์ เราไปใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้ พยายามห้ามเขาไม่ให้เจอกับคนเหล่านั้น

บุ๋มถามว่า ห้ามเขาเยอะเกินไปหรือเปล่า ติ๋มกล่าวว่า เขาบอกว่าพี่ห้ามเขาเยอะแยะมากเลย คนโน้นคนนี้คบไม่ได้ อยากให้รักษาภาพลักษณ์ เพราะถ้าเขาใกล้ใครก็ฟังคนนั้น เขาเหมือนผ้าขาวออกมาในโลก ถ้าเจอคนดีก็ดีไป โชคร้ายที่เขาเจอคนรอบข้าง ซึ่งคนแวดล้อมอาจมีส่วนมาก ทำให้ศีลไม่เสมอกันแล้ว ถามว่าถ้าเขาขอโทษจะกลับมาร่วมงานไหม เจ๊ติ๋มบอกว่า พี่อโหสิไปแล้ว ไม่เดินถอยหลัง วันนี้เดินหน้าอย่างเดียว ชื่อสมปองเป็นแค่ลมที่พัดผ่านหู ไม่มีความหมายสำหรับพี่อีกต่อไป ฉะนั้นไม่สามารถให้ลูกไปร่วมงานด้วยได้ เมื่อวานตอนที่เปิดห้องโกรธมาก ตัวสั่น หัวใจจะหยุดเต้น แต่วันนี้มีสติ ไม่โกรธเขาแล้ว ว่างเปล่า

...

บุ๋มถามว่า ตอนเปิดห้องหลังเขาไปแล้วตอนนั้นรู้สึกยังไง เจ๊ติ๋มบอกว่า ตอนเปิดห้องไปคิดว่าจะเหมือนเดิมเสื้อผ้าเขายังอยู่ เพราะเขาไม่ได้มา เขาโกรธที่ห้ามเขาไปคบเพื่อนผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เป็นคนนอกวงการ เป็นแม่ค้าออนไลน์ ถามว่าทำไมต้องห้าม พี่คิดว่าคนข้างตัวเขา เราพยายามสกรีนว่าคนดีหรือเปล่า ดีไม่ดีไม่รู้ แต่สิ่งที่เขาแนะนำให้เป็นกิเลสทั้งนั้น เช่น ให้นั่งรถซุปเปอร์คาร์ พี่ว่ามันไม่ถูกต้อง เพราะเขาเพิ่งสึกมา บุ๋มถามต่อว่า ไม่ได้มองว่าสิ่งที่พูดกับเขาบังคับเขามากไป แต่เป็นความหวังดี อดีตบิ๊กบอสทีวีพูลตอบว่า เราหวังดี แต่เขาคงมองว่าเราบังคับ เพราะเขาพูดกับพี่ว่าพี่บังคับแบบนี้ผมอยู่ไม่ได้หรอก

กับคำถามว่า อยากบอกอะไรกับทิดสมปองหลังเขาไลฟ์หลังจากพี่ติ๋มแถลงข่าว เจ๊ติ๋มตอบว่า “อยากให้เขาตั้งสติคิดเรื่องราวทบทวนให้หมด ว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องไหม ทุกอย่างมีโอกาสแก้ไขได้ ถึงแม้ไม่มีพี่ร่วมในการแนะนำต่อไป พี่เคยบอกเขาว่าถ้าพี่พูดแล้วไม่ฟัง พี่จะไลน์ไปหาเขา พี่อธิบายทุกวัน ก่อนนอนพี่จะไลน์ไปหาเขาว่าเขาจะต้องทำอะไรบ้าง เขาต้องแก้อะไรบ้างกับภาพของเขา พี่จะไลน์ยาวเหยียดไปหาเขา ก็บอกว่าถ้าอย่างนี้จะไม่คุยอีกแล้ว จะไม่เขียนหาเขาแล้ว เขาตอบมาว่า ครับผม ก็ต้องปล่อยเขาไป”.