“การ์ดอย่าตก อย่าเห็นแก่รายได้มากขึ้น...” ประโยคสุดจี๊ด แทงใจภาคธุรกิจบันเทิงอย่างเจ็บปวดที่สุดก็ว่าได้!!

มันคือความเห็นจากผู้นำประเทศ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างเริ่มเปิดประเทศ เหมือนกับร้องขอให้ภาคธุรกิจบันเทิงอย่าเพิ่งผลีผลาม อาจจะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่อีกครั้ง เหมือนสถานบันเทิงทองหล่อเมื่อต้นปีนี้

มาดูกันว่าภาคธุรกิจบันเทิงที่สาหัส สากรรจ์ ณ ขณะนี้ ทนทรมานมาอย่างไรบ้าง??

อันดับแรกก็คือผับ–บาร์–คาราโอเกะ ที่โดนคำสั่งปิดมานาน เจ๊งระยับไปทั่วประเทศ โดยไม่ได้รับการเยียวยาใดๆเลย!!

จะว่าไปแล้ว ธุรกิจบันเทิงเหล่านี้ หล่อเลี้ยงแรงงานและธุรกิจเกี่ยวข้อง

นับล้านชีวิต หลายคนอยู่ในระบบประกันสังคม และมีอีกจำนวนมากไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม

อย่างน้อย 8 เดือนที่ผ่านมา ในห้วงเวลาประเทศหยุดชะงัก จะบอกว่าธุรกิจภาคบันเทิงถูกรัฐบาลทอดทิ้งมากที่สุดก็ย่อมพูดได้!!
เอากันแค่นักร้อง นักดนตรี หลายหมื่นคนต้องตกงาน ไม่ได้รับเงินเยียวยา และไม่เคยมีสวัสดิการใดๆรองรับ

พวกเขาขาดรายได้มาจุนเจือตัวเองและครอบครัว ต้องทนอย่างยากลำบาก ข้นแค้นแสนสาหัส หลายคนถึงกับหมดเนื้อหมดตัว ดิ้นรนขายลูกชิ้นทอดริมถนนก็มีให้เห็น

แล้ววันนี้...เมื่อรัฐบาลเดินเครื่องเปิดประเทศ เพราะมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ธุรกิจหลายส่วนเริ่มเดินหน้าค้าขาย หวังจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน

แต่ไหงภาคบันเทิงจึงกลายเป็น ผู้ร้าย เป็นธุรกิจน่ารังเกียจ ถูกเหยียดด้วยคำพูดแบบนี้จากผู้นำ!!

‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com 

...