เพราะชีวิตคือละคร... หลายคนคงเคยได้ยินประโยคบอกเล่าดังกล่าวกันมาบ้างไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับ อั๋น อัครพรรฒ บุนนาค พระเอกจากละครเรื่องทานตะวันสีเพลิง ทางช่อง 7HD
ที่ดึงความรู้ที่ได้จากการเล่นละคร มาปรับใช้ในชีวิตจริง โดยเปิดใจว่า การเล่นละครนั้นได้มากกว่าประสบการณ์ด้านการแสดง เพราะมีหลายเรื่องราวในละคร มาใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริง
ฟีดแบ็กในทานตะวันสีเพลิง เป็นอย่างไรบ้าง?
“ก่อนอื่นผมขอขอบคุณแฟนละครก่อนนะครับ ฟีดแบ็กโดยรวมสำหรับผมดีมากๆ ครับ มีแฟนละครเข้ามาทักทั้งในอินสตาแกรม และมีการพูดคุยกันในไลฟ์ระหว่างที่ละครออกอากาศด้วย ดีใจครับที่แฟนๆ ชอบบทบาทใหม่ของเราในเรื่องนี้ เพราะคาแรกเตอร์ของตัวละครต่างไปจากทุกเรื่องที่ผ่านมาครับ”
ตัวละคร วีรุทธิ์ ที่รับบทเป็นอย่างไรในความรู้สึกของอั๋น?
“ตัวละครนี้ ถูกพ่อของ ทานตะวัน (ชิงชิง คริษฐา สังสะโอภาส) ส่งมาให้ช่วยดูแลนางเอกและไร่ของเขา พอวีรุทธิ์ได้เจอกับทานตะวัน ก็มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ทั้งๆ ที่วีรุทธิ์เองมีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ สายขวัญ (มาเรีย สกาย)
...
ตัวผมเองถ้าให้มองตัวละครวีรุทธิ์ในตอนแรก จะรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูโลเล ไม่ค่อยหนักแน่นเรื่องความรัก เรามีคู่หมั้นอยู่แล้ว ทำไมเราอ่อนไหวกับสิ่งรอบข้าง ทำไมเราถึงไปรู้สึกลึกซึ้งกับทานตะวัน
แรกๆ ผมไม่เข้าใจตัวละครนี้ จนเริ่มอ่านบทไปเรื่อยๆ จึงเข้าใจได้ว่า ความรู้สึกที่เรามีต่อสายขวัญ ที่เราเข้าใจว่ามันเป็นความรักนั้นมันไม่ใช่ จริงๆ แล้วเรารู้สึกหวังดีกับเขา รักเขาอย่างพี่ชายที่อยากดูแลน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
การรับบทตัวละครนี้จึงต้องทำการบ้านเพิ่มในเรื่องของอารมณ์ตัวละคร การพัฒนาความรู้สึกของตัวละคร เพื่อที่จะถ่ายทอดออกมาให้คนดูเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง”
การร่วมงานครั้งแรกกับ ชิงชิง คริษฐา เป็นอย่างไรบ้าง ในเรื่องมีฉากโรแมนติกพอสมควร เขินกันไหม?
“ดีมากนะครับ ชิงชิงเป็นคนที่ตั้งใจทำงานครับ ถ้าเป็นเรื่องการแสดงผมมองว่าน้องเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย เขาเข้าใจความรู้สึกของตัวละครและถ่ายทอดออกมาได้ดี
อย่างฉากโรแมนติก ผมเชื่อว่าน้องเขาเขินแหละ เพราะเราร่วมงานกันครั้งแรก ดังนั้นผมจะถามชิงชิงก่อนเข้าฉากแบบนี้ทุกครั้งว่า น้องสามารถเล่นได้ประมาณไหน เพราะอั๋นเป็นผู้ชาย อั๋นอยากถามความรู้สึกเขาก่อน
เขาก็จะบอกว่าเต็มที่ เพราะในบทจะมีทั้งฉากที่ต้องหอมแก้ม หรือจูบจริงด้วย ซึ่งชิงชิงมีสปิริตการแสดงที่ดีมากๆ เขาเต็มที่และให้เราเต็มที่เช่นกันครับ ในเรื่องค่อนข้างมีความโรแมนติกแทรกอยู่แทบจะทุกตอนของเรื่อง
ขนาดฉากบู๊ที่กำลังต่อสู้ ก็จะมีจังหวะที่หันมาสบตาซึ้งใส่กัน หรือจะเป็นฉากดราม่า ร้องไห้อยู่ก็จะกอดปลอบกัน ผมเลยมองว่า ทานตะวันสีเพลิง มีครบทุกรสชาติแต่จะมีความโรแมนติกนำ คือแทรกอยู่ในทุกๆ ฉากที่เราแสดงออกไปครับ”
บรรยากาศของละครเรื่องนี้ มีแต่โลเคชั่นที่สวยงาม?
“ใช่ครับ เราไปถ่ายทำกันในไร่เป็นส่วนใหญ่ ทั้งสวนผึ้ง ไร่องุ่น ทุ่งทานตะวัน แต่ละที่ที่เราเดินทางไปถ่ายทำเป็นสถานที่ปิด ไม่มีนักท่องเที่ยว ธรรมชาติเลยสวยงามเต็มที่ เราได้สูดอากาศเต็มปอด
ทุกพื้นที่มีแต่พื้นที่สีเขียวให้เราได้มองจนสุดสายตา เป็นการทำงานที่มีความสุข ห้องทำงานของเราเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม อย่างที่ทุกคนได้เห็นในละคร ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะชอบเช่นเดียวกันกับผม”
เห็นว่าเล่นละครเรื่องนี้ อั๋นได้นำเอาความรู้ที่สอดแทรกในละคร มาใช้ในชีวิตจริงด้วย?
“ความที่ละครของเรา เล่าเรื่องของอาชีพชาวไร่ มันมีอยู่ฉากหนึ่งในละคร บทของอั๋นจะพูดว่า เอาเศษอาหารที่เหลือมาทำเป็นปุ๋ย ฉากนั้นผมก็เลยมีโอกาสได้เรียนรู้การทำปุ๋ยชีวภาพ ทั้งจากพืช จากมูลสัตว์ ซึ่งเกษตรกรเขาใช้กันจริงๆ
พอรู้ก็เริ่มกลับมาศึกษาอย่างจริงจัง เอามาปรับใช้ในชีวิตจริงของเราเลย ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน อั๋นก็เลยเริ่มปลูกผัก เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ อย่างที่บ้าน อั๋นปลูกต้นแคคตัส อั๋นก็เอามูลเต่าที่เลี้ยง อาหารที่เขากินเหลือไปหมัก
แล้วเรามารดต้นแคคตัส ทำให้ต้นแคคตัสออกดอก โตไวและแข็งแรง จนอั๋นสามารถเอามาขายได้ด้วย รวมถึงเอาความรู้ที่ได้มาพัฒนาธุรกิจฟาร์มเต่า ที่เริ่มทำมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว
อั๋นมองว่าในละคร นอกจากความสนุกของเรื่อง ทุกวันนี้ละครแต่ละเรื่องก็จะมีสาระ สอดแทรกอยู่ อย่างในทานตะวันสีเพลิงก็จะมีบทที่ตัวละครของเราและชิงชิง ให้ความรู้ถึงเรื่องอาชีพเกษตรกรที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงของเราได้ด้วย”
อยากให้เล่าถึงธุรกิจฟาร์มเต่าสักนิด?
“อั๋นหุ้นกับเพื่อนทำ ชื่อฟาร์มว่า ฟาร์มสุขของเต่า มาจากคำว่า ความสุขของเต่าครับ เต่าที่เลี้ยงจะเป็นพันธุ์ซูลคาต้า (Sulcata Tortoise) เป็นเต่าบก
...
เมื่อก่อนอั๋นก็จะต้องซื้อผักอย่างผักกาดมาให้เต่ากิน พอเราเริ่มได้ความรู้ตอนที่ถ่ายละครเรื่องนี้ ก็เลยเอามาพัฒนาที่ฟาร์มของตัวเอง เริ่มจากปลูกผักให้เต่าเอง ทั้งผักบุ้ง ผักกาด
เริ่มทำปุ๋ยเกษตรอินทรีย์จากมูลของเต่า ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียประจำออกไปได้พอสมควรเลย จากที่เคยต้องซื้ออาหารให้เต่า ตอนนี้เราผลิตอาหารได้เอง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้ดีมากๆ”
อะไรทำให้อั๋นหันมาเลี้ยงเต่าแบบจริงจัง?
“เมื่อก่อนอั๋นก็ไม่ได้ชอบนะครับ แต่มีอยู่วันหนึ่งที่อั๋นไปวัด แล้วเห็นแม่ค้าเขาเอาเต่าบกมาขายเพื่อให้เราซื้อไปปล่อยในแม่น้ำ อั๋นก็เลยไปคุยกับแม่ค้า
ถามว่าเต่าตัวนี้มันเต่าอะไร เขาก็ตอบว่าก็เต่านั่นแหละปล่อยลงแม่น้ำได้หมด อั๋นก็เลยบอกเขาว่ามันไม่ได้ มันจะตายนะครับ เพราะมันเป็นเต่าบก
ให้สังเกตเท้าเขาจะไม่มีพังผืด เหมือนกับเต่าน้ำนะครับ ซึ่งพี่แม่ค้าเขาก็เริ่มเข้าใจ ว่าเต่าประเภทนี้ถ้าปล่อยลงแม่น้ำจะทำให้เขาตาย เหตุการณ์นี้นานแล้วครับประมาณ 4-5 ปีแล้ว
แต่หลังจากวันนั้นอั๋นก็เลยกลับมาศึกษาเรื่องเต่าอย่างจริงจัง เริ่มจากเลี้ยงเต่าญี่ปุ่นก่อน จนกระทั่งช่วงโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ที่เรามีเวลาได้อยู่บ้านเต็มที่
...
ตอนนั้นก็หันมาเลี้ยงเต่าพันธุ์ซูลคาต้า ซึ่งเป็นเต่าบกพันธุ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และเริ่มไปพูดคุยกับพี่ๆ ที่ทำฟาร์มเต่า จนตัดสินใจหุ้นกับเพื่อนที่เขาทำอยู่แล้ว”
เป็นอย่างไรบ้างกับธุรกิจนี้?
“สำหรับตัวอั๋นถือว่าดีมากๆ ครับ ต้องบอกก่อนว่าฟาร์มของอั๋นจะไม่ได้ขายระบบเปิด เราไม่ได้เป็นพ่อค้าคนกลางที่เปิดขายเต่า แต่เราเพาะพันธุ์ โดยสั่งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากต่างประเทศ มีทั้งจากอียิปต์ และซูดาน
เมื่อรับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาแล้ว เราก็เริ่มเพาะพันธุ์ครับ จำนวนตอนนี้ก็มีเป็นพันๆ ตัวแล้วล่ะ แต่เต่าของเราจะส่งออกต่างประเทศเป็นหลักครับ อย่างจีนที่นั่นเขาจะมีความเชื่อเรื่องการให้สัตว์เลี้ยงตัวแรกของลูกเป็นเต่าครับ
พอเด็กอายุสัก 4-5 ขวบเขาก็จะมอบเต่าให้เลี้ยง เพื่อที่จะเติบโตไปพร้อมกัน เป็นเพื่อนกัน บางทีเขาก็จะใส่สายจูงเต่า พาเต่าออกไปเดินเล่น เหมือนกับสุนัขเลยครับ เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืนมากๆ ถ้าเลี้ยงเขาอย่างถูกต้อง เขาจะมีอายุมากกว่าเราด้วยซ้ำครับ”
...
นอกจากเต่าเห็นว่ามีสัตว์พิเศษอีกชนิด ที่อั๋นเองก็สนใจ?
“ตุ๊กแกสีครับ จริงๆ ผมอยากเอามาเลี้ยงที่บ้าน แต่ทุกคนที่บ้านบอกว่าไม่ผ่าน (หัวเราะ) เขากลัว อั๋นก็เลยต้องพาเขาไปไว้ที่ฟาร์ม ซึ่งตอนนี้โควิด-19 ด้วยก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเขาเลย
ฟาร์มอยู่แถวธัญบุรีครับ ตุ๊กแกที่อั๋นเลี้ยงจะไม่ใช่ตุ๊กแกไทยนะครับ เป็นตุ๊กแกหน้ายิ้ม (แว่วว่าพามากองละครด้วย) ครับ แต่ชิงชิงไม่ชอบ ขนาดเปิดรูปให้ดูยังวิ่งเลยครับ (หัวเราะ)”
หันมาทำธุรกิจนี้ในช่วงโควิด-19 เป็นอย่างไร?
“คือถ้าให้มองเรื่องกำไร ขาดทุน อั๋นคงตีความจากตรงนั้นยากครับ แบบถ้าอั๋นซื้อเต่ามาตัวละ 800 บาท แล้วอั๋นขายได้ในราคา 1,200 บาท แบบนี้จะรู้ว่าได้กำไร 400 บาท
แต่สำหรับที่ฟาร์ม อั๋นเลี้ยงมาตั้งแต่พ่อแม่เขา จนเขาฟักไข่ ผ่านไป 2-4 เดือน เริ่มจำหน่าย ซึ่งในตลาดจะมีราคากลางของเขาอยู่ อย่างปีที่ผ่านมามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราส่งออกไปต่างประเทศไม่ได้ ราคาเต่าจะเหลือที่ตัวละ 800 บาท
แต่สำหรับปีนี้ที่สามารถส่งออกได้ ราคาเต่าก็ขยับขึ้นไปที่ตัวละ 1,500 บาท มันจะเป็นแบบนั้นครับ และเต่าตัวเมีย 1 ตัวจะให้ไข่ประมาณที่ 50 ฟองต่อครั้ง และใน 1 ปี เขาจะให้ไข่ 4 ครั้ง เท่ากับตัวเมีย 1 ตัวจะมีลูกต่อปีที่ 200 ตัว
แต่เราก็ต้องลุ้นนะครับว่า ไข่ที่ออกมานั้นจะฝ่อไหม มีเชื้อครบทุกฟองไหม ดังนั้นเราก็คำนวณมูลค่าแบบกำไรขาดทุนเป็นตัวเลขชัดๆ ลำบาก แต่ถามว่าได้เงินไหม ได้ครับ เพราะถ้าเทียบกันจริงๆ แล้ว เต่าซูลคาต้าเป็นเต่าราคาไม่สูงมาก และมีตลาดรองรับครับ”
จากนักแสดงกลายมาเป็นเจ้าของฟาร์มเต่าไปแบบงงๆ?
“(หัวเราะ) ก็จริงครับ คือถ้าไม่มีโรคโควิด-19 ระบาดแบบทุกวันนี้ อั๋นก็อาจจะไม่มีเวลาเข้ามาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะทุกวันของเราคือการออกไปกองละคร ไปถ่ายละคร
แต่พอเราได้หยุด ได้พัก เรามีโอกาสได้หันมาศึกษาธุรกิจเสริม ซึ่งอั๋นสามารถสร้างรายได้ ได้เป็นรายวัน ไม่ใช่แค่จากฟาร์มเต่า แต่ยังมีรายได้จากการขายต้นแคคตัส
ซึ่งเราปลูกเองด้วย รายรับของธุรกิจทั้ง 2 อย่างจะต่างกับการเล่นละคร ที่เราจะได้เงินเป็นเรื่องๆ แต่ 2 ธุรกิจนี้ นอกจากจะทำให้อั๋นได้เงินเข้าบัญชีทุกวันแล้ว ยังทำให้อั๋นก็มีความสุขด้วยครับ”
ฝากถึงคนที่สนใจอยากหันมาเลี้ยงเต่าซูลคาต้า หรือสัตว์ต่างๆ?
“อย่างแรกคือต้องมีความพร้อมครับ พร้อมที่จะดูแลเขาตลอดไปไม่ใช่แค่ในช่วงที่มีกระแส แล้วพอถึงวันหนึ่งก็ปล่อยปละละเลยเขา และถ้าคุณอยากจะเลี้ยงเต่า ก็ต้องศึกษาแต่ละสายพันธุ์ที่เลี้ยง
ถ้าเป็นพันธุ์ซูลคาต้า คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณสามารถพาเขาแช่น้ำทุกวัน วันละ 15 นาทีไหม มีเวลาให้อาหารไหม มีสถานที่ ที่เหมาะสมไหม เพราะเขาสามารถเติบโตได้ขนาดใหญ่มาก
อย่างที่ผมเลี้ยงตัวที่โตที่สุด วัดจากกระดองความกว้างคือ 36 นิ้ว และยังโตขึ้นได้อีกเรื่อยๆ ดังนั้นถ้ายังไม่มีความพร้อมตรงนี้ ผมไม่อยากให้เลี้ยงครับ ตัวผมเองแม้จะทำธุรกิจนี้
แต่ก็จะบอกกับตัวเองทุกวันเช่นกันว่า ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ถ้าเราทำไม่ดี รวมถึงถ้าเรามัวแต่มองเรื่องกำไรยอดขาย
โดยไม่คำนึงถึงผู้ที่รับชีวิตนี้ไปต่อจากเราว่าเขาจะดูแลได้ดีหรือไม่ เราก็จะบาปไปด้วยครับ ส่วนใครที่ชอบเลี้ยงและอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องนี้ทักมาหาอั๋นได้ทาง อินสตาแกรม : Iamakerabhaj นะครับ”
ทิ้งท้ายเรื่องผลงานแสดงของอั๋นบ้าง?
“ตอนนี้มีละคร ทานตะวันสีเพลิง ให้ติดตามกันได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7HD กด 35 ส่วนละครเรื่องใหม่ที่รอถ่ายทำมีเรื่อง อุ้มรักปาฏิหาริย์ ครับ ถ่ายทำเสร็จได้ลงจอเมื่อไหร่ก็อยากให้ช่วยติดตามเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ”.