ลาล่า อาร์สยาม ขอเปิดตัวเปิดใจสถานะในตอนนี้กับหนุ่มหล่อคนสนิทคนล่าสุด แพน นทีเทพ หรือ แพน สุรเกียรติ บุนนาค ว่าคบหาดูใจหรือคบกันแค่ปั่นกระแสหางาน พร้อมเคลียร์ดราม่าโพสต์ใบแจ้งหนี้ เจตนาดีหรือจงใจประจาน มาหาคำตอบเรื่องราวสุดแซ่บกันได้ในรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่องOne31
เคลียร์ดราม่าล่าสุด โพสต์บิลอะไร?
ลาล่า "ก็ต้องกราบขอโทษทุกๆ คนที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด กับสิ่งที่ลาล่าโพสต์ไป คือด้วยความเบลอของตัวเอง ที่เดินขึ้นห้องตัวเองผิดชั้น แล้วไปเห็นแผ่นป้ายทวงหนี้หน้าประตูห้อง เราก็ตกใจ ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เราก็เลยคิดว่าจะมีใครพอจะรับผิดชอบในส่วนนี้ หรือจะช่วยอะไรพวกเราได้ไหม เราก็เลยตัดสินใจโพสต์"
คนมองว่าเราไปถ่ายรูปหน้าประตูห้องคนอื่นประจาน?
ลาล่า "เราก็รู้สึกดาวน์เหมือนกัน ก็รู้สึกเสียใจ เพราะตอนนี้ งานเราก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีรายการก็ไม่มีงานเลย ด้วยละครก็เลื่อนออกไป คอนเสิร์ตก็ไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไหร่ แล้วจะไปหาใครเหมือนเดิมก็ไม่ได้ คือเราก็เข้าใจหลายๆ คนที่อยู่กับโซเชียล"
...
เห็นว่าลบภาพที่โพสต์ไปแล้ว?
ลาล่า "จำเป็นต้องลบ เพราะมันเกิดดราม่าข้างในโซเชียลของเรา คือมันมีทั้งคนที่รักเรา และไม่ชอบใจในสิ่งที่เราโพสต์ ก็เลยทะเลาะกัน เราก็เลยไม่อยากสร้างศึกในโซเชียลเรา ก็เลยคิดว่าลบออกน่าจะดีกว่า"
แพน สุรเกียรติ กับ ลาล่า เป็นแฟนกันหรือเปล่า?
ลาล่า-แพน "คนสนิท (พูดพร้อมกัน)"
ลาล่า "เราไม่ได้ปิดกั้น ใครที่เป็นคนดีๆ ที่พร้อมเข้ามาคุยกับเรา เราเปิดหมดเลย อย่างวันนี้เราก็คุยกันอย่างเปิดอก เราไม่อยากปิดว่ามันยังไปไม่ถึงขั้นคำว่าแฟน เพราะคำว่าโควิดมันทำให้เราต้องห่าง มันทำอะไรไม่ได้ ก็เลยได้แต่วิดีโอคอลคุยกัน"
เห็นว่าเป็นสายบุกด้วย?
ลาล่า "ด้วยสไตล์ของเรา เราไม่ยั้งอยู่แล้วกับความที่เราอยากสนิทกับใคร เราเต็มที่กับชีวิตของเราตลอด ด้วยความที่เขาน่ารัก ด้วยการที่เขาไปทำบุญ ไปโน่นไปนี่เราที่เราเห็นบ่อยๆ"
แพน "ด้วยความที่พี่ล่าเป็นคนขี้อ้อน และก่อนหน้านี้เราเคยอยู่ค่ายเดียวกัน เป็นศิลปินที่เดียวกัน ก็มีโอกาสได้ไปทริปญี่ปุ่นด้วย ตอนนั้นมีคอนเสิร์ต และหลังจากนั้นไม่ได้เจอกันมาหลายปีมาก จนมีโอกาสมาทำบุญคือเราเป็นลูกศิษย์ อ.เชียง (อาจารย์เชียง ปัณณวิชญ์) เหมือนกัน ก็ตามไปทำบุญกัน เราก็เลยมีความสนิทกันมากขึ้น"
ไปงานบุญแล้วสนิทด้วยกันได้อย่างไร?
ลาล่า "เราเริ่มจากสายแม่ คือเวลาทักแม่ของเขา เราก็จะทักว่า แม่ ลูกสะใภ้สวัสดีค่ะ แต่เราไม่ได้ทำแบบนี้กับแม่แพนคนเดียว แต่เราทำกับแม่ของผู้ชายทุกคน (หัวเราะ) คือเราก็ฝากตัว แล้วแม่เขาก็เล่นด้วย ก็จะเรียกเราว่าลูกสะใภ้ พาน้องไปตรงนั้นตรงนี้หน่อย เราก็ติดจะเรียกแม่สามีตลอด"
แพน "ด้วยความที่สนิทกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ช่วงหลังเวลาผมไปทำบุญแม่ผมก็จะไปด้วยตลอด"
คู่นี้อายุห่างกันเท่าไร?
แพน "ประมาณ 12 ปี ผมก็ดูแลเขาเหมือนเป็นคุณแม่อีกคนหนึ่ง เวลาจะทานอะไรจะกินอะไรเราก็จะถามเขา"
ลาล่า "เรารู้สึกเหมือนเขาพาแม่ 2 คนมานั่งกินข้าวเลย เวลาเขาตักข้าวให้กับแม่ ช้อนต่อไปก็จะเป็นของเรา แม่เขาก็จะบอกว่า ลูกจะกินอะไร ลูกสะใภ้จะกินอะไร แม่ก็จะสั่งให้ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเรามาเป็นเพื่อนแม่หรือเพื่อนลูกเพราะทั้งแม่และเขาดูแลเราพร้อมๆ กันเลย ก็น่ารักอีกรูปแบบหนึ่ง"
แพน "คือใครที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง คนรู้จัก หรือคนร่วมงานต่างๆ นานา เราจะเป็นคนที่คอยเทคแคร์คนอยู่แล้ว พอพี่ล่าเข้ามา มีการพูดคุยปรึกษากันหลายๆ เรื่อง เราดูแลเขาเพิ่มเติมเข้าไป
...
ถามว่าใส่ใจระดับไหน คือด้วยความที่เราในตอนนี้ไม่มีใคร และด้วยความที่ผมเองก็เกิดเรื่องมา มีปัญหาหนักที่สุดในชีวิต พอได้เจอพี่ล่า ได้ไปทำบุญด้วยกัน เราก็มีการปรึกษา เพราะพี่ล่าเป็นคนร่าเริงและให้คำปรึกษาที่ดี เวลาที่ใครอยู่ด้วย ก็ทำให้เราสบายใจ มีความสุข"
แต่ลุคแต่ก่อนของแพน ดูแบดบอยมาก พอได้คุยกันเขาเป็นคนอย่างไร?
ลาล่า "เขาเป็นคนน่ารัก เหมือนมีเด็กมาอ้อน คือก่อนหน้านี้เราก็เสพเขาตามข่าว เราก็เสพเขาตามลุค คือเรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ยังไม่ใช่ แต่ก็คุยได้ปกติ แต่พอได้รู้จักได้พูดคุยกันเขาเป็นคนขี้อ้อนนะ"
แพน "เรื่องอ้อนนี่ ผมเบาไปเลยถ้าพูดถึงพี่ล่า เพราะพี่ล่าเขาอ้อนหนักมาก เขาอ้อนผมหลายเรื่องมาก อย่างล่าสุดเขาได้แหวนใหม่มา เขาก็เอาแหวนมาโชว์ผมแล้วก็แอบจับมือประมาณนี้"
ลาล่า "เราแค่รู้สึกว่าถ้าใจไปแล้ว มันก็ต้องปล่อยไปให้สุด มันไม่ต้องกั๊กอะไรแล้ว คือถ้าเราอยากจะสนิทกับคนนี้แต่เราได้แต่นั่งเฉยๆ มันก็ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้สนิทกัน"
แพน "คือเรามีการตกลงกันด้วยว่าใครเป็นอะไรอย่างไร ก็พยายามปล่อยให้สุดไปก่อน เราก็จะได้รู้จักนิสัยเขา เขาก็จะได้รู้จักนิสัยเรา"
...
แต่ก่อนหน้านี้แพนได้ลงข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ส่งผลกระทบอะไรบ้าง?
แพน "ผลกระทบหลังเกิดเรื่องตอนนั้นเยอะมาก ที่เยอะสุดคือครอบครัว คือในข่าวจะมีภาพของคุณแม่ที่ออกไปด้วย ตามสื่อ ตามโซเชียลต่างๆ ก็มีทั้งคนที่ให้กำลังใจเรา และมีคนที่เข้ามาเสพตามข่าวแบบเต็มๆ
และอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องสัญญา คือตอนนั้นผมมีสังกัดอยู่ ตอนนั้นก็มีการยุติสัญญากันไปในเรื่องของงาน งานมันก็เลยยุติไปหมด ผมก็เลยไปปรึกษา อ.เชียง ซึ่งท่านก็แนะนำให้ผมไปบวชที่วัดสระมณี ที่จ.อุดร จำนวน 2 เดือน
พอได้อยู่ตรงนั้นเราก็ได้นึกย้อนกลับไปว่าถ้าวันนั้นเราไม่ทำแบบนั้น ถ้าเราไม่ประมาท กับคำว่าแค่ใกล้ๆ ไม่เป็นอะไรหรอก มันถึงทำให้เกิดเรื่องขนาดนี้ แต่ถ้าสุดท้ายก็ยังดีที่แค่มีข่าวออกมา แล้วก็มีแค่เรื่องอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ
เพราะฉะนั้นผมก็เลยอยากจะฝากถึงทุกๆ คนว่าใครที่ยังใช้ชีวิตประมาทอยู่ในทุกวันนี้ อยากให้มีสติมากขึ้น และไอ้คำว่าไม่เป็นอะไรหรอกถ้าตัดได้ก็อยากให้ตัดไปดีกว่า"
ลาล่าทราบข่าวเขาไหม?
ลาล่า "เราเสพข่าวอยู่หน้าจอเลย (หัวเราะ) แล้วเราก็เห็นแม่ เราถึงอึ้ง เพราะภาพที่เราเสพเขากับสิ่งที่เขาเป็นกับเรามันคนละแบบกันเลย"
...
พอใช้ธรรมะเข้าช่วยก็เปลี่ยนเป็นคนละคน?
แพน "เรียกว่านิ่งขึ้น และก็รู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่างเราก็รู้แล้วว่าสิ่งไหนที่ควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำ และสิ่งที่ดีที่สุดคือการใช้ชีวิตไม่ประมาท ผมว่าคำนี้สำคัญมาก"
ตอนนี้พร้อมทำงานหรือยัง?
แพน "พร้อมทำงานมาก ก็อยากฝากถึงผู้จัดทุกท่าน ถึงพี่ๆ ที่เคยร่วมงาน และที่ไม่เคยร่วมงานด้วย ครั้งนี้ผมขอโอกาสอีกครั้ง และรับรองว่าผมจะไม่ทำให้โอกาสครั้งนี้มันพังลงเหมือนครั้งที่แล้ว พิธีกร ละคร ร้องเพลง พร้อมครับ (ยกมือไหว้)"
เคยได้ยินว่าลาล่าไม่ทานเด็ก เพราะไม่ใช่สเป๊ก?
ลาล่า "คือเราก็ยังคงคอนเซปต์เดิมอยู่ เพียงแต่พอเราตั้งมาตรฐานไว้มาก เวลาผ่านไป มันก็เริ่มพังลงไปเรื่อยๆ สเปกมาตรฐานของเราคือ สูง หล่อ ขาว คือเขาก็มีอยู่แล้ว แต่ด้วยสไตล์การแต่งตัวแบบแบดบอยของเขามันไม่ใช่แนวเรา
เพราะเราชอบเนี้ยบๆ เรียบๆ แต่มันก็เป็นแนวเขา เราก็พยายามตามเขา ในสิ่งที่เด็กๆ เขาทำกัน แต่ด้วยการที่เขาดูแลครอบครัวเขา มันไม่ได้เป็นเด็กตามอายุ เวลาเขาอยู่กับเราก็เลยพยายามหาจุดกึ่งกลางที่จะเล่นไปกับเขาได้"
แพน "เรียกว่าพยายามปรับเข้าหากัน หากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ ล่าสุดเขาก็ไปเล่นเซิร์ฟสเกต อย่างที่เห็นในคลิป ก็มีเจ็บตัวตรงโหนกแก้มก็เขียวช้ำ แต่ตอนนี้ก็หายแล้ว ตอนเขามาอ้อน ผมก็รู้สึกว่าเขาอ้อนเราเหมือนแม่ผมเลย
แต่พอคบไปสักพักผมก็รู้แล้วว่านิสัยพี่ล่าเป็นแบบนี้ เขาจะเป็นคนที่อยากให้คนดูแลเทคแคร์ ถามว่าผมชอบไหม ก็ชอบครับ เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่ง คือเขาเริ่มรู้ว่าถ้าจะมาทางผมต้องมาทางอ้อน เขาก็เริ่มอ้อน อย่างวันก่อนไปฉีดยามาแล้วตัวร้อน เขาก็จะมาทำหน้างุ้งงิ้งๆ ใส่"
เห็นว่าฝั่งแพนเอง ลาล่า ก็ไม่ใช่สเป๊กเหมือนกัน?
แพน "ครับ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้เราอยู่ค่ายเดียวกัน ผมก็มองเขาเป็นพี่คนหนึ่ง สเป๊กผมก็จะเป็น ขาว สวย สูง หุ่นดีๆ ตามอารมณ์เด็กๆ แต่พอผ่านช่วงระยะเวลามาหลายๆ อย่าง
มันทำให้เรามองว่าเรื่องของอายุ เรื่องของหน้าตามันเป็นเรื่องภายนอก ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของใครที่อยู่กับเราได้ แล้วรักกันแบบธรรมชาติ คือให้มันไปแบบสบายๆ ไหลไปเรื่อยๆ จูนกันติดมันก็พอแล้ว"
เริ่มรู้ใจกัน อยากศึกษากันเมื่อไหร่?
แพน "มันไปของมันเอง
ลาล่า "คือมันคุยแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกมีความสุขที่ได้คุยกับเขา ได้ไลน์หา ได้โทรหา คือมันเป็นของมันแบบอัตโนมัติ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อะไร อย่างไร แต่มันเป็นของมันไปแล้ว"
สรุปว่าคบกันจริงๆ หรือคบกันสร้างกระแส?
ลาล่า "ถามว่าสร้างกระแสไหมคงไม่ คือเรารู้จักกันก็คือคบกันอยู่แล้ว แต่สถานะยังไม่ใช่แฟน เพราะเราขอเวลาทำความรู้จักกันให้มากๆๆ ก่อน ไม่ปิดกั้น ด้วยอายุ ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง"
แพน "ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ด้วยความที่เราไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนก่อนหน้านี้ ด้วยความที่ต้องมีระยะห่าง ซึ่งมันก็ไม่มีที่ให้ไปอยู่แล้ว ทุกอย่างต่างคนต่างต้องอยู่ในที่ของตัวเอง แล้วบ้านผมก็มีคุณแม่ด้วย ถ้าเราออกไปข้างนอกแล้วได้รับเชื้อขึ้นมา กลับมาที่บ้านก็เป็นแบบนี้อีก"
ลาล่าชอบแพนไหม?
ลาล่า "ถ้าตอบตรงๆ ก็ชอบ แต่ยังไม่โฟกัสถึงจุดที่เป็นแฟน แต่ก็ยังชอบที่จะได้คุยอย่างนี้ทุกวัน"
แพน "ด้วยความที่เราไม่รู้หรอกว่าอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ถึงแค่ไหน แต่ด้วยความที่เราเริ่มต้นจากการเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน สุดท้าย ถ้าสถานะมันไปต่อกันได้ดีในสถานะที่มากกว่านี้ แล้วจบสถานะลงเราก็ยังกลับมาเป็นพี่น้องกันได้อีก"
ลาล่า "เราไม่อยากโกรธกัน ไม่อยากเกลียดกัน อยากเก็บความรู้สึกดีๆ ไว้ตลอดไป"
แพน "อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก"
มีกระแสวิจารณ์ว่าเป็นคนหิวแสงมันทำให้เรารู้สึกอย่างไร?
ลาล่า "ไม่เลย คือไม่ว่าเราจะเปิดตัวกับใครเราก็โดนตลอด"
แพน "เรามีภูมิคุ้มกันแล้ว ด้วยความที่เราต่างคนต่างเจอเรื่องที่รุนแรงมาแล้ว มันทำให้เรามีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่ง เราถึงได้มาตกลงกันว่า อันไหนที่ทำให้สภาพจิตใจเราไม่ดี เราพยายามหลีกเลี่ยงออกละกัน".