ใครจะรู้ว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของนักแสดงหนุ่ม ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย นักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี มีช่วงชีวิตที่ต้องซึมเศร้าอย่างหนัก ต้องหาหมอและกินยา เนื่องจากเจ้าตัวเจอดราม่าปมถล่มวิจารณ์การเมืองถึง 2 ระลอก ซึ่งปั้นจั่นได้เปิดใจถึงชีวิตตัวเองในรายการแฉ ให้ทุกคนได้ฟังว่า
มันค่อยๆ สะสม ระลอกหนึ่งเราไม่เคยเจอ จิตตก ไม่อยากทำงาน ไม่อยากเจอใคร ไม่มีพลัง อยู่แต่ในห้อง นอน ปิดไฟ ปิดม่าน ไม่มีแรงทำอะไร จนแม่ไม่ให้ล็อกห้อง พอออกมาเจอคนก็ปกติร่าเริง อาจจะเหนื่อยด้วย พอกลับบ้านก็นิ่งๆ แต่พอออกมาจากบ้านก็ต้องทำงาน
รู้สึกมั้ยว่าตอนนั้นหายใจก็ผิด?
มันเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร เลยทำให้เรื่องบานปลาย เป็นคนแคร์คนอื่น พอมาเจอคอมเมนต์ว่าไม่แคร์คน ก็เลยรู้สึกแย่เข้าไปอีก ผมก็เป็นลูกชาวบ้านคนหนึ่ง ไม่เคยมองว่าใครสูงต่ำต่างกัน พอคนเข้าใจอย่างนั้นก็เสียใจ ทำไมถึงมองเราแบบนี้
ตอนนั้นไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร และเคสผมเป็นเคสแรกๆ ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นผมก็อยากอธิบาย แต่คนรอบข้างบอกไม่ต้องพูด จะเหมือนต่อความยาวสาวความยืด ก็เลยนิ่งเฉย ไม่ได้ออกมาแก้ต่างให้ตัวเอง ปล่อยให้กาลเวลามันตอบไปเองว่าเป็นอย่างไร
...
เดินออกจากบ้านน้ำตาไหล?
ตอนนั้นอยู่ในช่วงกระแสแรง เป็นรายการสด หน้าผมไม่ไหวแล้ว เขาก็ถามว่าผมไหวมั้ย และผมก็บอกผู้จัดการว่าไม่ไหว พูดแล้วน้ำตาจะร่วง เหี่ยวไปทั้งตัว ขับรถจ่ายค่าทางด่วนก็ไม่กล้ามองหน้าเขา ไม่รู้ว่าเขาจะคิดว่าเป็นคนแบบนั้นหรือเปล่า
เวลาไปกอง ทำงานก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ ผมก็จะไม่คุยกับใคร นอนหลับ ชีวิตเปลี่ยนไปเลย และผมก็ง่วงตลอดเวลา อยากหลับเพราะไม่อยากคิดอะไร บางทีก็คิดว่าอยากหลับไปไม่ต้องตื่น
แต่ผมก็ยังมีคนที่ต้องดูแล ที่บ้านมีพ่อแม่เป็นกำลังใจ เพื่อนก็โทรมาให้กำลังใจ นี่คือกำลังใจเล็กๆ ที่ต่อพลัง ช่วงหนึ่งผมก็ไม่แคร์ใคร และตอนนี้ก็ยังกินยาอยู่ เพราะยาตัวนี้ไม่มีเอฟเฟกต์ มีหมอดูแลให้
แต่ยาตัวนี้เวลาร่าเริงก็จะไม่สุด เศร้าก็ไม่สุด ใจเย็นลง ไม่คิดมาก มีเอฟเฟกต์อย่างเดียวคืออาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะมันทำให้อารมณ์มันดาวน์ นิ่งๆ ชิลๆ แต่ผมยังมีอยู่ (หัวเราะ)