โชว์ “บู๊” จัดหนักไม่หวั่นฟกช้ำดำเขียวจริงๆ สำหรับสาวทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ขึ้นแท่น “นางเอกสายบู๊” รับบท “นิตยา” สาวยึดถือความถูกต้องและความยุติธรรมในละคร “ทะเลเดือด” ค่ายโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป ทางช่อง 7HD เป็นอีกลุคที่หลายๆ คนไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก สาวทับทิม เปิดใจเป็นการทำงานที่เหนื่อยแต่สนุก ส่วนสวีตหวานกับพระเอกสายบู๊ หลุยส์ เฮส พอมีให้ลุ้นหอมปากหอมคอ พร้อมอัปเดตชีวิตเป็นผู้หญิงเก่งจนไม่รู้หนุ่มๆจะกลัวความเก่งรอบด้านของเธอด้วยหรือเปล่าน้า...า ใน “คนดังนั่งคุย”

ฟีดแบ็กทะเลเดือดเป็นอย่างไรบ้างคะ

“ฟีดแบ็กดีมากๆเลยค่ะ คือส่วนมากจะมีคอมเมนต์เข้ามาว่าไม่ค่อยเห็นทับทิมเล่นบู๊หนักขนาดนี้มาก่อน เพราะเป็นบู๊ที่ต่อสู้ระยะประชิด ที่ผ่านมาเราอาจจะมีจับปืน ใช้อาวุธมาบ้าง แต่แบบนี้แฟนๆยังไม่เคยเห็นก็เลยทักมา ค่อนข้างเยอะ ทับทิมดีใจมากๆที่แฟนๆชอบ การทำงานเรื่องนี้ทับทิมเตรียมตัวหนักพอสมควรตั้งแต่ก่อนถ่ายทำได้เวิร์กช็อปคิวบู๊ ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างมวยหนักเหมือนกัน จะมีฉากที่เราถูกรุมทำร้ายเยอะมาก ดังนั้น เราต้องมีทักษะด้านการต่อสู้เบื้องต้น ก็เลยจะเรียนทั้งก่อนถ่ายทำและตอนถ่ายทำเราก็ตั้งใจมากจริงๆ”

...

ได้แผลบ้างไหมเพราะเข้าฉากบู๊หนักๆตลอด

“ก็มีบ้างค่ะ ด้วยความที่ทับทิมเป็นคนที่ช้ำง่ายอยู่แล้ว ก็จะมีรอยช้ำบ้าง ซึ่งพี่พีท (พีท ทองเจือ) จะบอกกับเราว่า เราเล่นละครบู๊ถ้าเราไม่มีรอยช้ำกลับบ้านนี่แปลกนะ (หัวเราะ) ซึ่งมันก็จริงค่ะ จะต้องมีบ้างนิดหน่อย เป็นเรื่องปกติค่ะ”

การได้กลับมาร่วมงานกับหลุยส์เป็นอย่างไร

“ดีนะคะ จะบอกว่าอย่างไรดี คือทับทิมกับหลุยส์ (หลุยส์ เฮส) ค่อนข้างสนิทกันเพราะว่าเคยเจอกันมาหลายเรื่อง พอรู้ว่าจะได้มาเล่นด้วยกันก็ดีใจค่ะ ทำให้การทำงานทุกอย่างราบรื่นมากๆ แล้วในเนื้อเรื่องต้องบอกก่อนนะคะว่าตัวละครหลักที่อยู่ในเรื่องเป็นกลุ่มเพื่อนกันต้องสนิทกันมากๆ คือ ตัวทับทิม หลุยส์ โอ๊ต (รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน) พีพี (พัชญา เพียรเสมอ) พอทุกคนมาร่วมงานกันก็สนิทกันจริงๆ ทำให้บรรยากาศในการทำงานมีความสุข”

เมื่อสนิทกันขนาดนี้ ถ้าจะให้เม้าท์สักนิดว่า เวลาอยู่ในกองละครแล้วใครแสบที่สุด

“ถ้าในกลุ่มน่าจะไม่มีนะคะ แต่คนที่ทับทิมยกให้เป็นผู้นำกลุ่มเลยคือพี่มาด (สามารถ พยัคฆ์–อรุณ) ค่ะ (หัวเราะ) คือในเรื่องพี่มาดจะรับบทเป็นพ่อของไข่มุก เพื่อนสนิทเรา จะเป็นคนที่คอยช่วยพวกเราตลอด รวมถึงเป็นครูที่สอนมวยพวกเรา 3 คนด้วย คือหลุยส์ โอ๊ต และทับทิม พี่มาดจะเป็นคนอารมณ์ดีมาก เป็นคนนำหัวเราะตลอด”

เรียกว่าทำงานเรื่องนี้แฮปปี้ แต่ก็เหนื่อยหน่อยเพราะบู๊หนัก

“ถามว่าเหนื่อยไหม จริงๆ คือถ้าจะเหนื่อยน่าจะเป็นในเรื่องของอากาศร้อนมากกว่า อย่างในส่วนแอ็กชันทับทิมว่าเหมือนกับเราได้ออกกำลังกายมากกว่า ไม่ได้เหนื่อยแบบหนักมากค่ะ”

พาร์ตของแอ็กชันผ่านไป แล้วฉากโรแมนติกกุ๊กกิ๊กพอจะมีให้ลุ้นไหม

“(หัวเราะ) นี่แค่ออกมาไม่กี่ตอนทุกคนก็ออกมาคอมเมนต์ว่าตัวละครดูเป็นเพื่อนกันจริงๆ นะ เป็นเพื่อนปากแข็ง ทับทิมอยากให้แฟนๆ รอลุ้นไปพร้อมกันมากกว่าค่ะ ว่าต่อไปจะเดินเรื่องไปทางไหน ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างลุยกับนิตยา”

นอกจากทะเลเดือดแล้ว ทับทิมมีงานอะไรอยู่อีกบ้าง

“มีถ่ายทำอยู่ 2 เรื่องค่ะ คือหลงกลิ่นจันทน์ และเสาร์ 5 อีกเรื่องนึง รวมถึงมีรายการออนไลน์ที่เป็นของทับทิมเองค่ะ ออกอากาศทางช่องบักกาบูทีวี ชื่อรายการสตรีมหานคร แม่มา ซีซัน 2 ค่ะ ใครที่เคยติดตามสตรีมหานคร TALK ในซีซัน 1 ช่วงปลายปีที่แล้ว ตอนนี้รายการกลับมาแล้วนะคะ ก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบด้วย ทับทิมอยากให้ทุกคนได้ชมกัน เพราะจะได้เห็นแง่มุมของเหล่าแม่ๆของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ของศิลปิน หรือศิลปินที่เป็นคุณแม่แล้ว หรือแม่ยกของศิลปิน กลุ่มแฟนคลับของศิลปิน ซึ่งเราได้ไปสัมภาษณ์เขา ทับทิมอยากให้ลองติดตามกันค่ะ เพราะจะได้รู้เรื่องราวแบบอินไซด์ของเหล่าศิลปินทุกคนเลย ยกตัวอย่างนะคะ อย่างคุณแม่พี่แพนเค้ก (เขมนิจ จามิกรณ์), พี่เจง (ภรรยาพีท ทองเจือ), คุณแม่ของพี่ชิน (ชินวุฒ อินทรคูสิน), พี่ต้อม (รัชนีกร พันธุ์มณี), คุณแม่ของพี่เชียร์ (ฑิฆัมพร ฤทธา–อภินันท์) ฯลฯ คือทุกคนจะมีเรื่องราวน่าสนใจ นอกจากเรื่องอินไซด์ของศิลปินแล้ว ยังมีแง่มุมธุรกิจต่างๆที่แต่ละคนทำกันในช่วงโควิด-19 ด้วยค่ะ”

...

7 วันของทับทิมตอนนี้มีงานแน่นทุกวัน

“ใช่ค่ะ ค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว”

วกกลับมาที่ละครกันสักนิด หลงกลิ่น-จันทน์ ตัวละครของทับทิมเป็นอย่างไร

“หลงกลิ่นจันทน์ เรื่องราวจะสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการหาฆาตกรตัวจริงของคดีฆาตกรรม ตัวทับทิมรับบทเป็นว่านรัก เป็นสารวัตรตำรวจที่ได้รับหน้าที่มาสืบคดีฆาตกรรมนี้ คาแรกเตอร์ค่อนข้างจริงจัง เป็นผู้หญิงที่อยากพิสูจน์ว่าเรามีความสามารถนะ เราจะปิดคดีให้ได้ แต่ด้วยความที่คิดเร็ว ทำเร็ว จะมีเทคนิคฉบับของตัวเอง ก็เลยอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ทับทิมอยากให้แฟนๆรอลุ้นตอนละครออก อากาศดีกว่าค่ะ เชื่อว่าคนที่ชอบละครแนวสืบสวนสอบสวนน่าจะชอบแน่นอน”

ส่วนอีกเรื่องคือเสาร์ 5 ก็บู๊อีกเหมือนกัน

“ใช่ค่ะ เป็นละครที่วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่าเลยค่ะเรื่องนี้ (หัวเราะ) คือส่วนมากโลเกชันจะอยู่ในป่าเป็นส่วนใหญ่ค่ะ”

นอกจากงานในวงการก็ยังมีธุรกิจส่วนตัวด้วย จะเอาสตางค์ไปเก็บที่ไหน

...

“ไม่กลัวเลยค่ะ มาเยอะๆได้เลยค่ะ (หัวเราะ) สำหรับบริษัททับทิม 61 ได้ผลิตรายการ อย่างตอนนี้คือสตรีมหานคร TALK รวมถึงทับทิมมีกลุ่มศิลปินฝึกหัด ชื่อว่าวูแมน แบ็งคอกขึ้นมาค่ะ ออกซิงเกิลให้กับน้องๆด้วย MV จะปล่อยวันที่ 23 เม.ย. ชื่อเพลงรักแอดหัวใจ เพลงแรกปล่อยทางบักกาบูทีวี จะว่า ไปตอนนี้เราก็อยู่ในฐานะผู้ผลิตคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ทำงาน ตรงนี้ อย่างเอ็มวีของน้องๆ ก็ถือว่าเป็นชิ้นงานหนึ่งที่เราได้ผลิตขึ้นมาสำหรับคอนเทนต์ออนไลน์ และยังจะมีในส่วนของงานโปรดักชัน
ซึ่งเราเข้าไปช่วยดูแลในการผลิตโฆษณาสินค้าต่างๆ ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอให้ลูกค้า ช่วยดูในเรื่องการสื่อสารการตลาดด้วยค่ะ”

คิดถึงการเป็นผู้จัดละครบ้างหรือยัง

“ยังค่ะ ยังไม่กล้าคิดไปถึงขนาดนั้น ตอนนี้ทับทิมขอทำหน้าที่ผลิตรายการออนไลน์ไปก่อนแล้วกันค่ะ”

ในอนาคตก็ไม่แน่

“ยังหรอกค่ะ การเป็นผู้จัดละครน่าจะต้องมีเวลาและมีทักษะเรื่องอื่นๆอีกรอบด้านเลย ตอนนี้ยังไม่ใช่แน่นอนค่ะ”

ทับทิมวางเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างไร

“ณ ตอนนี้ทับทิมอาจจะมองเป้าหมายของบริษัทไว้สั้นๆ แบบ 3 ปี 5 ปีก่อน เราค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ส่วนเป้าหมายแบบยาวๆยังไม่มีนะคะ เพราะท้ายที่สุดแล้วเราอาจจะไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่ขอให้ทุกอย่างเราอยู่ได้มีความสุข ครอบครัวเรามีความสุขสบาย ไม่เดือดร้อน ส่วนมุมมองของธุรกิจ อย่างที่บอกว่าทับทิมจะตั้งแต่เป้าในระยะสั้นว่าจะต้องทำได้เท่านั้นเท่านี้นะ แล้วก็มีการเซตเอาไว้ในเรื่องของรายได้บริษัท”

หันมาถามเรื่องความรักบ้าง ณ วันนี้เป็นอย่างไร

“ณ วันนี้เหรอคะ แทบจะไม่ได้แตะสักเท่าไหร่เลยค่ะ เพราะเวลาไปอยู่กับงานหมดแล้ว (หัวเราะ) จะบอกว่าอย่างไรดี คือไม่ได้มีอะไรที่หวือหวา ทุกอย่างยังนิ่งๆ เพราะเราไปโฟกัสที่เรื่องการทำงานมากกว่า ช่วงนี้แทบจะไม่มีเวลาเลยจริงๆ คือติดต่อกันน้อยลงเพราะว่าเราทำงานหนักมากๆ”

...

เป้าหมายการทำงานชัดเจน แล้วเป้าหมายในการใช้ชีวิต อย่างเรื่องความรักล่ะคะ ทับทิมมองไว้แบบไหน

“จริงๆ ทับทิมเป็นคนที่ค่อนข้างเป็นคนวางแผนในการใช้ชีวิตตลอดเวลา เรารู้ว่าสิ่งที่เราต้องการในชีวิตนี้มีอะไรบ้าง และเราก็จะค่อยๆทำไปทีละข้อ โดยไม่ได้ไปเร่งเวลา อย่างทับทิมรู้ว่าต้องการ 1 2 3 4 ในชีวิต เราก็มาดูว่าตอนนี้ถ้าเราทำข้อ 1 ผ่านไปได้แล้ว เราก็จะเริ่มต่อที่ข้อ 2 ทับทิมจะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กคือวางแผนตลอดเวลา แต่ไม่กดดันตัวเองว่าจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้หรือจะต้องทำให้สำเร็จในปีนั้นปีนี้ คือจะไม่กำหนดเรื่องระยะเวลา ไม่อยากกดดันตัวเองมากเกินไป ทุกอย่างมันอยู่ที่จังหวะ อยู่ที่เวลา อยู่ที่โอกาสด้วย อย่างเรื่องการเรียนปริญญาเอก ที่ทับทิมไปลงเรียนมาแล้วคือคณะบริหารธุรกิจ เลเซียม ออฟ เดอะฟิลิปปินส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ทับทิมก็วางเอาไว้ว่าอยากจบให้ได้ภายใน 3 ปีค่ะ ตอนนี้เรียนมาประมาณ 1 ปีแล้ว กำลังเรียนคอร์สเวิร์กเป็นเทอมสุดท้าย จากนั้นก็จะเริ่มต้นทำเล่มงานวิจัยแล้วค่ะ ซึ่งค่อนข้างหนัก ถ้ามองจากเป้าที่เราตั้งไว้ก็ยังเหลืออีก 2 ปีที่เราจะทำให้ได้ตามเป้าหมาย ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้า เราก็จะเริ่มทำในเป้าหมายต่อๆไป คือเป็นเป้าหมายสั้นๆ ทำให้บางทีเราก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ถึงเป้าหมายในระยะไกลๆนัก เพราะเรายังไม่เห็นภาพตรงนั้นค่ะ”

ยิ่งคุยยิ่งรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงเก่ง หนุ่มๆ เขาจะกลัวความเป็นผู้หญิงเก่งของเรานะ

“ยิ่งเก่งยิ่งเหงา (หัวเราะ) แอบกลัวเหมือนกันค่ะ ในมุมของทับทิม ทับทิมไม่คิดว่าตัวเองเก่งขนาดนั้นนะคะ คือทับทิมจะเป็นคนที่มีนิสัยที่ชัดเจน และตรงมากๆ อาจจะถามตรงๆว่า ถ้าทับทิมเป็น อย่างนี้จะโอเคหรือเปล่า คือทับทิมโอเคทุกเรื่อง คนที่จะเข้ามาต้องเข้าใจในระดับหนึ่ง จริงๆ คือไม่มีคำอื่นที่จะสามารถอธิบายความเป็นไปตรงนี้ได้เท่ากับคำว่าเข้าใจจริงๆ ค่ะ ต้องเข้าใจกันจริงๆ โดยเฉพาะวันนี้ เป้าหมายของเราคือเรื่องงาน เราโฟกัสเรื่อง งาน อย่างเรื่องของบริษัท ทับทิมอยากทำให้มันเติบโต ทับทิมกำลังเอาเรื่องที่เรียนมามาต่อยอดให้บริษัทของทับทิมเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน เป็นธุรกิจของครอบครัวที่เราอยากให้อยู่ได้แบบยาวๆ อยากให้บริษัทเป็นรายได้หลักของเราในอนาคต”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ