ไม่เคยมีใครได้รู้ว่า มารี เบรินเนอร์ เคยหมายหัว มะปราง อลิสา เนื่องจากอีกฝ่ายเฟรนลี่กับอดีตแฟนเก่าของเธอ จนทำให้มารีเคยโกรธมากจนถีบกระจกรถแตกมาแล้ว ซึ่งล่าสุด มะปรางได้มานั่งเป็นแขกในรายการ มารีฝากไว้ให้คิด พร้อมกับเปิดใจถึงเรื่องราวในอดีตทั้งน้ำตา
ซึ่ง มารี เบรินเนอร์ ได้เปิดรายการว่า วันนี้พาคู่กรณีมาด้วยคือ มะปราง อลิสา รู้จักกันมา 5-6 ปี ซึ่งมะปรางบอกว่าเป็นผู้หญิงเฟรนลี่ แอ๊บบ้างบางเวลา อ่อยบ้างบางที เมื่อมารีถามว่าอ่อยใคร งานนี้มะปรางรีบบอกว่า ไม่ได้อ่อยผัว_ึงละกัน ก่อนจะหัวเราะลั่น
จากนั้นมารีเล่าต่อว่า ทั้งคู่เคยทะเลาะกันเพราะความเฟรนลี่ของมะปราง ซึ่งมะปรางเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ทะเลาะกับมารีให้ฟังว่า ตอนนั้นการไลฟ์ในเฟซบุ๊กกำลังมา และมะปรางก็ชอบ วันนั้นเจอแฟนของมารีที่สนามบิน เขาไปกับครอบครัว มะปรางรู้จักแต่ไม่สนิท ก็ชวนมาไลฟ์ ด้วยความเฟรนลี่โดยไม่ได้คิดอะไร
ซึ่งมารีเล่าต่อว่า ตอนนั้นเธออยู่กรุงเทพฯ เป็นช่วงที่ทะเลาะกันพอดี เพื่อนส่งลิงก์เฟซบุ๊กของมะปรางมาให้ดู เปิดดูของขึ้น อยู่ฮ่องกงกับผู้หญิง ไลฟ์สดเฟซบุ๊ก ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนมารี ทำให้เธอนั้นรู้สึกหน้าชามาก
...
ตอนนั้นรู้สึกว่ามะปรางคือเพื่อน จะสนิทหรือไม่สนิทก็คือเพื่อน แล้วทำไมไม่มีใครบอกเราเลย ต่างคนต่างเจอกัน มารีร้องไห้หนักมากกับเรื่องนี้ ความรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง และเมื่อเคลียร์กับแฟนจบ ก็ลืมเรื่องมะปรางไป แต่มะปรางคือผู้หญิงที่ตนหมายหัวเอาไว้ ส่วนมะปรางก็บอกว่า ได้ยินมาว่า มารีไปพูดว่าเธอนั้นหนีไปเที่ยวกับแฟนมารี
จากนั้นมารีเล่าต่อว่า ตอนนั้นมีกรุ๊ปไลน์ที่มีกัน 4 คน มี แฟนมารี เพื่อนของแฟนมารี แฟนของเพื่อน และมะปราง แล้วผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นเพื่อนสนิทกับมะปราง มารีก็คิดว่า เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะพยายามจับคู่มะปรางกับแฟนของมารีอยู่
แล้วที่ทำให้โกรธคือพูดถึงเธอในกรุ๊ปแชตว่าเธอนั้นโมโหและขำ จึงทำให้รู้สึกว่าไม่ให้เกียรติ และครั้งหนึ่งเคยเห็นแฟนของตัวเองคุยไลน์กับมะปราง ก็ปรี๊ดแตก ไปทะเลาะกันในรถ (มะปรางคือคนที่ทำให้มารีถีบกระจกรถตัวเองแตก)
ซึ่งมะปรางบอกว่าก็เพิ่งรู้ และมะปรางก็โทรเข้ามาที่เบอร์แฟน ยิ่งทำให้มารีโมโหหนักเข้าไปอีก แต่พอได้คุยก็โอเค มะปรางแคปแชตมาให้ดู แต่มีหน้าหนึ่งมาแค่ครึ่งเดียว พอขอให้ส่งมาให้ดูใหม่ แต่มะปรางบอกว่าลบไปแล้ว ยิ่งทำให้ดูน่าสงสัย มีอะไรแน่ๆ
หลังจากนั้นมะปรางเล่าต่อว่า เวลาไปตามงานอีเวนต์ก็พยายามเดินไปทักมารี แต่อีกฝ่ายไม่อยากคุย แต่ก็คิดว่าสักวันถ้ามีโอกาสเคลียร์จริงๆ แล้ววันนึงไปร้องคาราโอเกะ แล้วก็เจอมารีกำลังเก็บกระเป๋าจะกลับ ก็เลยชวนไปคุยกัน
มารีเล่าต่อว่า มะปรางมองว่าเธอนั้นเป็นเพื่อนมาตลอด และไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ ไป แต่ก็ไม่รู้ว่ามาขอโทษมารีทำไม เขาพูดว่าเหมือนอยากมีเพื่อนคนนี้ในชีวิต สัมผัสได้ถึงความเป็นเพื่อน แล้วเขาก็ร้องไห้
มะปรางเล่าต่อว่า มารีจะอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วมะปรางจะเป็น 1 คนที่โดนแบน เดินเข้าไปเพื่อนก็จะมองแปลกๆ เก็บในใจมาหลายปี ต้องอยู่แบบไม่มีกลุ่มเพื่อน แต่เขาอยู่กับเพื่อนที่กลุ่มใหญ่มากๆ ไปงานเพื่อนก็จะมองเหมือนทำอะไรผิดตลอด เพื่อนซุบซิบกัน ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นใจ
วันที่ได้คุยกัน เราก็ขอโทษกัน ทำให้มะปรางรู้ว่าการที่เป็นคนเฟรนลี่มันก็มีผลเสียนะ ซึ่งมะปรางก็เข้าใจความรู้สึกมารี ก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมาว่า แฟนใครใครก็รัก เรื่องที่เกิดขึ้นสอนให้รู้ว่า เวลาจะพิสูจน์ความจริงอะไรบางอย่าง ให้เวลาเขาและเราได้ทบทวน และมันต้องคุยกัน การคุยกันมันดีที่สุด
...
จากนั้นมะปรางบอกว่า การที่เฟรนลี่ก็ไม่ผิด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง แต่ถ้าเป็นเพื่อนจะรู้ว่าเพื่อนชอบหรือไม่ชอบ แล้วถ้าทำอีกก็คือผิดละ ส่วนมารีบอกว่า ต่อไปจะไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้ว เพราะจะทำให้ชีวิตเหนื่อยตาย ตอนที่มะปรางมาขอโทษ เราก็คิดว่าทำไมต้องเสียเพื่อนดีๆ ไป ก่อนจะขอบคุณมะปรางที่เข้ามาคุยกับเธอในวันนี้
...