จากกรณี บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดาราและพิธีกรชื่อดัง โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวระบุว่า “เหลือบชั่วในวงการบันเทิง ต้องเข้าคุก” พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า “งานนี้ขอเอาชีวิตเข้าแลก” ส่งผลให้เกิดกระแสความสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครนั้น

จนไปถึงการเข้าจับกุมโมเดลลิ่งดังกล่าวที่มีภาพหลักฐานการอนาจารเด็ก และเกี่ยวข้องกับคนในวงการบันเทิงหลายคน ล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา ได้แถลงข่าวถึงเรื่องนี้กับกองทัพสื่อมวลชนว่า 

ผู้ชายคนนี้อยู่ที่หาดใหญ่ สงขลา พฤติกรรมของผู้ชายคนนี้คือ ทำงานโมเดลลิ่งมาเป็น 10 ปี แล้วเป็นโมเดลลิ่งใหญ่ของทางภาคใต้ โดยที่ผู้ชายคนนี้เปิดบริษัท แล้วให้เด็กๆ มาเรียนแอ็กติ้ง เรียนการแสดง เรียนการเดินแบบ พ่อแม่เด็กส่งมาเรียนเยอะมาก และมีการให้ค้างคืนอยู่ที่บ้านผู้ชายคนนี้บางกรณี แต่บางกรณีก็ไม่เป็นแบบนั้น

ผู้ชายคนนี้ดูเส้นสายใหญ่โต เขาจัดงานเดินแบบตามห้างต่างๆ หรือจัดงานประกวดเด็กๆ ตามห้างต่างๆ แล้วหลังจากนั้นก็จะเชิญดารานักร้องดังที่เคยถ่ายรูปคู่กับเขา แล้วอัปเฟซ อัปโปรไฟล์มากมาย แล้วเขาก็เอารูปพวกนี้ไปเรียกเด็กอื่นๆ มาต่อ

งานเดินแบบ หรือประกวดเด็ก พ่อแม่เด็กบางคนบอกไม่ได้เอาลูกไปนอนค้างกับผู้ชายคนนี้ ทำไมยังโดน ปัญหาคือผู้ชายคนนี้ไปรับลูกเขาแต่เช้าไปทำงาน ระหว่างรอเข้างานก็พาเด็กไปที่ห้อง แล้วทำการอนาจารค่ะ ตอนแรกที่บุ๋มได้รับข้อมูลมา มีประมาณ 10 กว่าคน

...

แต่ผลปรากฏว่าบุ๋มทำการติดต่อประสานงานกับทางอัยการทางภาคใต้ให้ติดตามพฤติกรรม แล้วออกหมายศาลเพื่อขอทำการจับกุมผู้ชายคนนี้ โดยทางลับ แต่ตอนแรกศาลไม่อนุมัติหมายจับ เนื่องจากว่าข้อมูลมาจากไหน นั่นคือความจำเป็น บุ๋มต้องเปิดหน้าว่ามาจากบุ๋มเอง 

ซึ่งการช่วยเหลือใครสักคน นั่นคือการสร้างศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งคน บุ๋มก็คิดหนักนะ เพราะบุ๋มอยู่ที่สว่าง บุ๋มไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะติดคุกกี่ปี เขาแค้นบุ๋มแน่นอน แต่บุ๋มมานั่งมองหน้าลูกสาวตัวเองแล้วคิดในใจว่า ฉันจะยอมให้เด็กผู้หญิงโดนหนักกว่านี้อีกเหรอ

เราจะยอมให้อนาคตของเด็กต่อไป โดนผู้ชายคนนี้กระทำแบบนี้อีกเหรอ สิ่งที่เขาทำมันหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดเด็ก อนาจารเด็ก มีการถ่ายภาพอวัยวะเพศของเด็ก แล้วก็ส่งในกลุ่มไลน์ของเขาเอง 

มีทั้งเก็บภาพของตัวเอง และเก็บภาพของเด็กทั้งมีสติและไม่มีสติ แล้วถ้าเกิดคุณได้เห็นภาพแบบนั้นอย่างที่บุ๋มเห็น บุ๋มถึงเขียนไงคะว่าขอเอาชีวิตเข้าแลก บุ๋มจะไม่ยอมให้เด็กคนไหนมาโดนแบบนี้อีกเด็ดขาด นี่คือเหลือบของวงการบันเทิงที่มีมานานเป็น 10 ปี

หลายคนรู้ข่าว หลายคนรู้ประวัติ หลายคนรู้ว่าเขามีทำแบบนี้ แต่ไม่เคยมีใครกล้าจะไปบุกจับเขา เมื่อคนนี้มีการประสานงานกับ สภ.หาดใหญ่ ได้มีการจับกุมผู้ชายคนนี้ 

นี่คือเฟซบุ๊กของผู้ชายคนนี้ ที่จะมีการเอาภาพดารามา มีภาพการประกวดมากมาย มีคนติดตามเกือบ 5 พันคน เมื่อคืนมีการจับกุมตัวที่ห้องพักของเขา พร้อมกับหลักฐานคามือถือ ว่ามีภาพเด็กโป๊อยู่ในนั้นที่เขาถ่ายเอง มือถือเขามี 4 เครื่อง

โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในนั้น สิ่งที่บุ๋มนอนไม่หลับเลยคืออะไร หลังจากที่ตำรวจได้มีการจับกุมและมีการยึดของกลาง ไม่ว่าจะเป็นมือถือ 4 เครื่อง และคอมพิวเตอร์อีก 2 เครื่อง มาที่โรงพัก สิ่งที่เราเปิดเจอคือภาพเด็กมากกว่า 100 คนที่อยู่ในนี้ค่ะ 

มากกว่า 100 คนที่อยู่ในนี้ และที่สำคัญพ่อแม่เด็กไม่รู้เรื่องเลย เด็กไม่บอกพ่อแม่ว่าโดนอะไร เด็กไม่กล้าบอก บุ๋มจึงขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอเรียนพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านที่เคยส่งลูกหลานไปเรียนเดินแบบหรือมาทำงานกับผู้ชายคนนี้ ช่วยติดต่อ สภ.หาดใหญ่

เข้ามาเช็กภาพลูกหลานของคุณทีว่าโดนกับเขาด้วยหรือไม่ และถ้าโดนไม่ต้องห่วงเรื่องของข้อมูล เราจะมีศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน รวมถึงสถาบันครอบครัวภาค 9 อยู่ที่สงขลาทำการดูแล 

...

หลายครอบครัวที่เราติดต่อไป บอกไม่มีเงินเรื่องการเดินทาง เพราะบางคนอยู่จังหวัดอื่น องค์กรทำดีจะดูแลค่าเดินทางทุกบาททุกสตางค์ บุ๋มจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้ออกจากคุกเด็ดขาด ขออนุญาตชี้แจงตรงนี้

ในวันพรุ่งนี้ทางอัยการทางภาค 9 จะแถลงข่าวอีก 1 รอบว่าจะดูแลข้อมูลของลูกหลานคุณอย่างไร เรื่องแบบนี้เราวางแผนกันมานาน และทำงานกันเป็นทีม เรารู้ว่าเราจะดำเนินการผู้ชายคนนี้ยังไงต่อ ช่วยและขอร้องสื่อมวลชนทุกคนช่วยบุ๋มด้วยค่ะ 

อย่าให้ผู้ชายคนนี้ออกมาจากคุกแล้วทำร้ายเด็กอีกเลย และนี่คงเป็นเรื่องที่ได้ยินมานานในวงการบันเทิง แต่เราไม่เคยจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้มาก่อน ขอร้องนะคะในการช่วยบอกข่าวว่าเด็กคนไหนเคยโดนแบบนี้

ลูกหลานถ้าหนูโดนบอกพ่อแม่หนูเลยค่ะ ว่าผู้ชายคนนี้เคยทำอะไรหนูมาบ้าง อย่าให้เขาไปทำเด็กคนอื่น เราต้องช่วยกัน ดูแลวงการบันเทิงดูแลวงการตรงนี้ต่อไป 

คำว่าคนในวงการไปเกี่ยวข้องหมายถึงว่า ไปทำงานร่วมกับเขา แล้วก็ถ่ายรูปร่วม โดยหลายคนเข้าใจว่าเป็นทีมงานเดียวกันหรือเปล่า ทำงานบริษัทเดียวกันหรือเปล่า อยากให้คนในวงการบันเทิงที่รู้จักผู้ชายคนนี้ออกมาชี้แจงด้วยว่ารู้จักหรือไม่

...

แต่บุ๋มเชื่อว่าที่บุ๋มโทรเช็ก ดาราเด็กของเราเขาบอกว่าแม่ประกบลูกตลอด เขาขอถ่ายรูป เขาจ้างน้องบ่อยมาก แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลย อันนั้นคือปลอดภัย 

ส่วนคนในวงการบันเทิงไม่แน่ใจ อันนี้ถึงบอกว่าบุ๋มยังไม่ได้ดูรูปร้อยกว่าคนที่โดน ถ้าไม่ติดโควิดบุ๋มอยู่หาดใหญ่แล้วแน่นอน

บุ๋มประสานงานกับอัยการและตำรวจเลยค่ะถึงจับตัวได้ ส่วนน้องที่เป็นเหยื่อหนึ่งในนั้นบอกว่าโดนไปแล้ว 3 ครั้ง คนเดียวในรูปแบบต่างกัน เด็กต่ำกว่า 12 เพียบเลย

ถ้างานนี้มีผู้ใหญ่ออกมาช่วย เมื่อคืนเขาเดินล้วงกระเป๋า เดินยิ้มมุมปาก ตอนที่ตำรวจเข้าไปจับเขา บุ๋มขอบอกว่า ถ้ามีผู้ใหญ่เข้าไปช่วย ช่วยร่วมอนาจารเด็กเหรอคะ 

ต่ำกว่า 12 ด้วยอยากให้เห็นรูปแล้วคุณจะทนไม่ได้หรอกที่ผู้ชายคนนี้ทำกับลูกคุณบ้าง ถ้าเป็นลูกหลานคุณเองคุณจะทำอย่างไร เขาเลียอวัยวะเพศแล้วเก็บภาพไว้ ขอโทษที่ต้องใช้คำแบบนี้

เมื่อคืนบุ๋มถามตำรวจเลยนะ ถ้ากระทืบผู้ชายคนนี้จ่ายเท่าไร เขาไม่มีสามัญสำนึกอะไรเลย เมื่อคืนโดนจับเดินชิลมาก บุ๋มถามหน่อยว่าคนโรคจิตแบบนี้ คุณจะให้ออกจากคุกมาทำร้ายลูกหลานคุณมากกว่านี้อีกเหรอ

ได้ตรวจสอบเขาไหมว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนไหม? 
ไม่มีใครกล้าจับเขาเลย แต่มีคนรู้มานานแล้ว บางคนไม่กล้าส่งลูกหลานไป แต่บางคนเห็นว่าเขาเป็นโมเดลลิ่งใหญ่เลยส่งลูกหลานไป เพราะไม่รู้ว่าข้อมูลข่าวลือเป็นจริงหรือเปล่า แต่ ณ วันนี้ขอยืนยันว่าผู้ชายคนนี้ทำจริง เลวจริง

หลังจากถูกจับเขายอมรับไหมว่าทำจริง?
ยอมรับแล้วค่ะ แล้วก็เปิดมือถือ ภาพคามือถือเลย ถามว่าเอาผิดได้ถึงขนาดไหน ไม่ทราบว่าตอนนี้จะเป็นยังไง แต่ทุกคนเต็มที่แน่นอน เราวางแผนกันมา 1 เดือนเต็ม ถึงบอกว่าอยากให้ผู้ปกครองเด็กคนอื่นๆ ออกมาบอกสักนิดนึงว่าลูกหลานของท่านโดนอะไรบ้าง

...

มาเช็กรูปสักหน่อย เพราะเขาส่งเข้ากลุ่มอื่นด้วย อันนี้จะเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกต่างหาก ตอนนี้กำลังประสานงานกับตำรวจอีกฝ่ายเพิ่มเติม

ถ้าเหยื่อออกมาพูดมันจะมีน้ำหนักใช่ไหม?
แน่นอนค่ะ จะหลายกระทง อย่างคนแรกก็ 3 กระทงแล้ว ทำความผิด 3 ครั้ง ตอนนี้เราเอาเด็กไปตรวจร่างกาย เด็กได้สติอย่างดี และรู้ด้วยว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไร แต่ที่ผ่านมาไม่บอกแม่ เพราะเด็กกลัวว่าแม่จะรับไม่ได้

บุ๋มไม่ทราบว่ามีใครเป็นแบ็กอัปให้เขา เพียงแต่เท่าที่บุ๋มประสานงานมา สภ.หาดใหญ่ก็เข้าบุกจับอย่างเต็มที่นะ ไม่มีใครเป็นแบ็กเขาแน่นอน ตอนนี้อัยการก็ออกโรงมาเอง ทางสภ.หาดใหญ่ด้วย และบุ๋มได้โทรเรียนท่าน ผบ.ตร. แล้ว บุ๋มว่าไม่มีใครกล้าแบ็กเขาแล้วค่ะ 

ตอนแรกเราเองไม่กล้าออกมาพูด?
ตอนแรกที่ไม่ออกมาเพราะ เราอยู่ในจุดสว่างนะ แล้วบุ๋มไม่รู้ว่าเขาจะโดนกี่คดี ถ้าเขาออกมาแล้วแค้นบุ๋ม ทำยังไงอะ และบุ๋มมีลูกสาว แล้วถ้าไม่มีบุ๋มตำรวจก็น่าจะดำเนินคดีได้ บุ๋มเชื่ออย่างนั้น

แต่ในกระบวนการของความยุติธรรมก็ต้องมีว่าใครเป็นคนได้ข้อมูลมา กลายเป็นว่าชื่อบุ๋มต้องไปอยู่ตรงนั้น ต้องไปขึ้นศาลด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จัดการกับเขายังไงบ้าง?
ตอนนี้คุมตัวไว้ค่ะ ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้เขาจะขอประกันตัวหรือเปล่า ณ วันนี้บุ๋มขอยืนยันว่าจะคัดค้านการประกันตัว เพราะบุ๋มไม่รู้ว่าเขาซ่อนข้อมูลอื่นๆ ไว้อีก กลัวเขาออกมาทำลาย ณ ตอนนี้ที่ตำรวจแจ้งไว้เขาโดน 4 คดี

พรุ่งนี้ท่านอัยการภาค 9 น่าจะบอกอีกทีนึงค่ะ เราประสานงานทางออนไลน์กันตลอด เพราะช่วงนี้มีโควิด ตอนนี้ถ้าใครอยากเช็กรูปลูกหลาน ให้ไปที่สภ.หาดใหญ่ ท่านรองผู้กำกับ รอต้อนรับทุกท่านอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลจะรั่วไหล เพราะมีศูนย์คุ้มครองเด็กและเยาวชน ในส่วนของอัยการภาค 9 ดูแลตรงนี้ด้วย

ดังนั้นทุกครอบครัวมั่นใจได้ ไม่มีอะไรหลุดมาแน่นอน และบุ๋มออกหน้าเองทุกอย่างค่ะ ส่วนค่าเดินทาง บางบ้านที่เดินทางไม่ได้ แจ้งองค์กรทำดี เราจะออกให้ทุกบาททุกสตางค์ในการเดินทางมาแจ้งจับผู้ชายคนนี้ หรือแจ้งในท้องที่ได้นะคะ ทางตำรวจจะประสานงานให้

เขามีเป็นกระบวนการไหม?
มีเป็นกระบวนการแน่นอน ในกรุ๊ปไลน์เขาส่งรูปกันไปกันมา (เราต้องทลายกระบวนการ?) ค่ะ เราเป็นคนในวงการบันเทิง บุ๋มก็ดาราคนนึงนะ เราก็เป็นนางงาม เดินแบบกับเด็ก เจอเด็กๆ เหล่านี้ มันไม่ผิดเลยที่พ่อแม่อยากให้ลูกเข้าวงการบันเทิง

ไม่ผิดที่เด็กมีความฝันเป็นนางแบบ เป็นดารา มันผิดที่คนทำชั่วต่างหาก เราต้องเอาพวกนี้ออกจากวงการบันเทิง ใครทำชั่วจะต้องโดนค่ะ ณ ตอนนี้มีแค่คนนี้ที่ทำ แล้วส่งรูปไปในกลุ่ม ก็ต้องตามว่าในกลุ่มมีใครอีกบ้าง เพราะรูปมันกระจายไปถึงไหนต่อไหน ถึงบอกว่าพ่อแม่อย่ากลัว เพราะรูปมันกระจายไปแล้ว

ทางเราจะสืบไปต่อเคสอื่นๆ หรือเอาเคสนี้ก่อน?
จะเอาตัวให้ได้มากที่สุด ถ้าใครอยู่ในกระบวนการต้องดึงออกมาให้มากที่สุด ไม่หยุดแค่นี้แน่นอน ในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ แค่คิดว่าถ้าเกิดกับลูกเรานะ ไม่ตายดีหรอก

อันนี้มันคือการสร้างแผลให้เด็กเลยนะ ต้องเห็นว่าเด็กไม่ได้เต็มใจถ่ายรูปให้เลย บางรูปจูบปากเด็กแล้วเซลฟี่ด้วย ดังนั้นบอกเลยว่าไม่ให้ออกจากคุกแน่นอน

บุ๋มเองก็บอกไม่ได้ว่าโมเดลลิ่งไหนดี ไม่ดี ได้แต่บอกว่าทางที่ดีผู้ปกครองต้องประกบลูก หรือเปิดใจกับลูกเลยว่าอยากทำไหม ลองรับฟังว่าลูกเจออะไรมาบ้าง เขาต้องกล้าที่จะเล่า

บางทีพ่อแม่อาจจะผลักดันมากเกินไป จนลูกไม่กล้าที่จะเล่าความฝันของตัวเองหรือสิ่งที่ตัวเองเจอผู้ชายคนนั้นกระทำมา ดังนั้นนี่คือสิ่งที่อยากจะฝากไว้ว่า มีคนดี ก็มีคนชั่ว เราต้องดูแลกันดีๆ ฝากเรื่องนี้ด้วยค่ะ