จากนางเอกมากฝีมือก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดป้ายแดง สาว จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา เลยทุ่มเต็มที่กับละครเรื่อง “จังหวะหัวใจนายสะอาด” ทางช่องพีพีทีวี ได้สามีสุดหล่อ พุฒ–พุฒิชัย เกษตรสิน มาเป็นพระเอกประกบนางเอกฮอต ใหม่–ดาวิกา และนักแสดงคับคั่ง เลยให้ จุ๋ย เล่าชีวิตในมุมผู้จัดละครที่เจอหลากหลายเรื่องราว
“เรื่องนี้สนุกมาก คือนักแสดงในเรื่องเราเคยร่วมงานกันมาแล้ว เราก็จิ้มว่าคนนี้เคยทำงานด้วยแล้วนิสัยดี รวมถึงการแสดงดี คาแรกเตอร์เหมาะกับเรื่อง เมื่อนักแสดงน่ารัก ทีมงานน่ารัก ผู้กำกับน่ารัก ก็เลยทำให้การทำงานในเรื่องนี้มันสมูธ คือมันมีปัญหาระหว่างทางแหละ แต่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องคน เป็นปัญหาเรื่องอื่นๆที่เราก็พอแก้ไขได้ ถ้าเกิดสมมติว่าคนที่ทำงานร่วมกันแล้วมันมีความสุขมันก็จะไปด้วยดีค่ะ ดังนั้น เราก็ไม่ค่อยมีความล่าช้าของงาน”
ศึกษางานการเป็นผู้จัดจากใครเป็นพิเศษมั้ย?
“จุ๋ยได้มาจากช่อง 7 ช่อง 3 เอ็กแซ็กท์ ช่องวัน เวิร์คพอยท์ ทุกๆที่ที่จุ๋ยเคยไปทำงานร่วมด้วยเค้ามีวิชาความรู้มาให้จุ๋ย แล้วจุ๋ยก็หยิบอันที่จุ๋ยคิดว่าจุ๋ยชอบ พอมารวมกันมันก็สามารถทำงานได้ และผู้จัดหลายๆคนที่จุ๋ยเคยไปทำงานด้วย ทั้งพี่หน่อง พี่แอน พี่เจี๊ยบ และอีกหลายๆเรื่องเค้าก็ให้วิชาความรู้เรามาทั้งนั้น สมัยช่อง 7 ก็จะอยู่ตั้งแต่กันตนา ดาราวิดีโอ ก็มีพระคุณกับจุ๋ยมากที่ทำให้เราได้เติบโตมาทุกวันนี้ค่ะ”
แล้วมาเป็นผู้จัดช่องพีพีทีวี?
“กับพีพีทีวีเป็นอีกช่องที่ยังไม่เคยร่วมงาน ก็ได้มาทำร่วมด้วย และที่ท้าทายเลยก็คือการทำงานร่วมกับประเทศจีน คือบริษัทอินไซด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จุ๋ยจะต้องทำงาน 3 พาร์ต คือมีบริษัทจุ๋ย มีช่อง และอินไซด์ด้วย และทำงานเพื่อส่งไปที่เท็นเซ็นประเทศจีน และยังต้องมาฉายที่บ้านเรา เรื่องนี้มันเลยเป็นการทดสอบวิชาความรู้ในวงการของจุ๋ยมาก ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับจุ๋ย และปัญหาโควิด-19 ด้วย เลยทำให้บางอย่างมันล่าช้าไป แต่ระยะเวลาในการถ่ายทำกลับไม่ช้าเลย เพราะทุกคนให้ความร่วมมือ นักแสดงทุกคนให้คิว มันเลยเสร็จเร็วกว่าที่คิด ตัวจุ๋ยเองก็พยายามเข้ากองทุกวัน มีไม่กี่คิวจริงๆที่ติดงานที่ไม่ได้เข้ากอง ส่วนเรื่องงบก็โชคดีที่เราคุมอยู่ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้เป็นอานิสงส์แฟนคลับนักแสดงหลายๆคนส่งฟู้ดซัพพอร์ตมาให้กองอิ่มหนำสำราญ”
...
พุฒเคยบอกว่าจุ๋ยลุยงานจนเป็นโรคเครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว?
“ใช่ค่ะ หมอเพิ่งบอกว่าจุ๋ยน่าจะเป็นโรคทำงานแบบเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ คือจุ๋ยไม่เคยรู้เลย เพราะจุ๋ยเป็นคนชิลมาตลอด มากองหน้าก็ไม่ได้แต่ง แต่ความเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ของแต่ละคนมันอาจจะไม่ใช่เรื่องการแต่งตัว แต่มันคือเรื่องงานที่อยากให้ดี อยากให้ทุกคนแฮปปี้ หมอก็บอกว่านี่แหละ มันจะเป็นลักษณะอย่างนี้ (ยิ้ม) มันก็จะเป็นลักษณะของคนที่จะเครียดง่าย ถามว่าตอนทำงานกังวลมั้ย จุ๋ยไม่ได้กังวลเรื่องการแสดงของนักแสดงเลยนะ แต่มันจะกังวลว่าเรามีนักแสดงมาแล้ว เราดีลสถานที่แล้ว จุ๋ยจะกังวลว่าเราจะทำสำเร็จตามที่เราวางแพลนไว้มั้ย บางคิวที่สำคัญมากๆเราถึงขั้นนอนละเมอฝันเป็นฉากในละครเป็นการมากอง เราหลับนะแต่อาจจะหลับไม่สนิทเลยอาจจะทำให้เรามีปัญหา สุขภาพ”
ทำงานกับพุฒซึ่งใกล้ตัวมาก มีปัญหาอะไรมั้ย?
“กับพุฒไม่มีปัญหาเลย เพราะว่าพุฒซัพพอร์ตจุ๋ยทุกอย่าง พุฒแชร์ความรู้สึกตอนที่จุ๋ยเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี เค้าจะรู้ทุกอย่างแต่จุ๋ยเองนี่แหละที่คุยกับพี่นาย-สรัสวดี ผู้กำกับว่าจุ๋ยไม่อยากให้พุฒมารู้งานเบื้องหลังมากนัก เพราะจุ๋ยไม่อยากให้เอาเรื่องหนักใจไปให้เค้าพะวง เพราะเค้าต้องอยู่หน้าจอแล้วต้องมาพะวงกับจุ๋ยด้วย ดังนั้น จุ๋ยก็ทำหน้าที่ของจุ๋ย เค้าก็ทำหน้าที่ของเค้า แต่พอจบเรื่องทุกอย่างคลี่คลายหมดแล้วค่อยเล่าให้กันฟังตอนกลางคืน (ยิ้ม) แต่เรื่องหน้าจุ๋ยก็คิดว่าถ้าตัวเองเป็นผู้จัดอีกก็คงไม่เอาพุฒเป็นพระเอก จุ๋ยอยากได้คนใหม่ๆ จุ๋ยชอบการจับคู่ใหม่ๆแต่เรื่องนี้โจทย์มันมาจากพุฒเป็นคนแรก ก็เลยต้องเป็นเค้า ก็ดีเพราะเป็นเรื่องแรกของเราด้วยค่ะ”
เรื่องงานแสดงของตัวเอง เห็นว่างดรับเล่นละครแล้ว?
“ก็คงหายไปนานพอสมควรเลยล่ะค่ะ จนกว่าจะมีลูกเลย กว่าจะเลี้ยงลูกอีก แต่ ณ วันนี้ก็ยัง 50-50 ว่าจุ๋ยจะมีลูกได้หรือเปล่า จะมีลูกยากมั้ย ใจมันก็เริ่มโหวงๆ เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมา แต่ใจก็ยังเชื่อว่าเค้าจะมานะคะ ก็ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน และในอนาคตมีอายุกว่านี้แล้วจะมารับบทอะไรก็เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน (ยิ้ม) แต่จุ๋ยรักการแสดงละครมาก เวลาจุ๋ยมานั่งโค้ชการแสดงน้องๆ บางทีอยากเข้าไปเล่นเองเลย แต่ถ้าจุ๋ยจะต้องมารับผิดชอบหน้ากล้องด้วย จุ๋ยจะท้องไม่ได้เลย ก็เลยต้องเลือกครอบครัวก่อนค่ะ”.