เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังรับทราบว่า นายสุธัญ โอมานันท์ อายุ 44 ปี หรือ นาธาน โอมาน นักร้อง-นักแสดง ที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการบันเทิง ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงที่บริเวณศูนย์สันตินิรามัย (อาคารเก็บศพ) ของโรงพยาบาลฯ ก็ได้พบกับผู้ดูแลรักษา โดยบอกว่าวันนี้มีศพของผู้เสียชีวิตชื่อนายสุธัญ โอมานันท์ เข้ามาที่ศูนย์ฯจริง แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียง โดยที่ศูนย์ฯ รับศพจากโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 11.35 น. หลังจากนั้นก็มีญาติ ผู้จัดการ และเพื่อนๆ ประมาณ 5 คน มาติดต่อขอรับศพออกไป เหตุเพราะต้องรีบนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดอัลอิสติกอมะห์ ถ.ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ให้ทันกับเวลา 15.00 น.

ขณะที่ นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้บอกเพียงแค่ว่า นายสุธัญ โอมานันท์ หรือ นาธาน โอมาน ได้เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาครเมื่อเช้าวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ด้วยอาการเหนื่อยหอบ และมีโรคประจำตัวหลายโรค ซึ่งทางแพทย์ได้ให้การดูแลรักษาอย่างดีที่สุด

...

โดยให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรมชาย จนกระทั่งเมื่อเช้าของวันนี้ (4 ก.ค.) ปรากฏว่า นายสุธัญ อาการทรุดหนักและหยุดหายใจไปชั่วขณะ จนแพทย์ต้องทำการฟื้นคืนชีพอยู่ 2 ครั้ง แต่ในที่สุดก็เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยด้วยโรคโลหิตจาง และมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

และที่ มัสยิดอัลอิสติกอมะห์ ถ.ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ ทางผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอกับ ดร.ไพบูลย์ บุตรเลียบ ซึ่งเป็นทั้งพี่ เพื่อนร่วมงาน และเจ้านายที่เคารพรักคนเดียวของ นาธาน ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า 

“เราทราบอาการป่วยมา 3-4 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้เข้าโรงพยาบาลรามคำแหงครับ แต่เป็นช่วงโควิดพอดี ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร เราก็ให้ตรวจอาการโควิด ซึ่งผลออกมาว่าไม่พบเชื้อ เค้าแจ้งว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วกลับมาที่พักที่สมุทรสาคร กลับมาได้เดือนหนึ่งก็มีอาการเหมือนเดิม

ช่วงนั้นก็เดินทางลำบาก ผมเลยพาไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาครครับ ซึ่งเค้าก็มีสิทธิ์ในการรักษาที่โรงพยาบาลนี้ เพราะทำงานที่สมุทรสาครอยู่แล้ว เค้ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่คุณหมอแจ้งมาว่าเค้าเป็นโรคโลหิตจาง เค้าบอกให้ทานอาหารเยอะๆ กลับมาก็ทานเยอะๆ แต่ไม่ดีขึ้น”

เสียด้วยภาวะติดเชื้อ?

“เข้าโรงพยาบาลไป 2-3 ครั้งที่สมุทรสาคร ก็รีเช็กกันปกติ เข้าไปเค้าก็โทรมาบอกว่าต้องนอนที่โรงพยาบาลนะ ก็เลยให้ผู้จัดการสาขาที่โรงแรมจัดคนไปดูแลนิดหนึ่ง เพราะปกติดูแลมาตลอด เมื่อคืนเค้าไลน์มาบอกว่า เค้าเหนื่อย เวลาประมาณพลบค่ำ เข้าไปเค้าก็นอนร้องไห้ และน้องอีกคนก็บอกว่า สู้ๆ นะพี่ เพราะจริงๆ ก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาดู

พอเช้าทางทีมแพทย์ก็โทรมาบอกว่าให้ตามญาตินิดหนึ่ง เพราะอาจจะต้องมีอะไรที่สำคัญ แต่ว่าก็ไม่ทัน พอดีผมไปถึงประมาณ 09.30 น. แต่น้องไปประมาณ 09.35 น.”

คุณหมอวินิจฉัยว่ายังไง?
“ก็เป็นโรคเกี่ยวกับติดเชื้อในกระแสเลือด อาจจะมีเชื้อโรค”

ปุ๊บปั๊บมาก?

“จริงๆ ผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรนะ เพราะมีอาการมาตลอด ก็บอกให้ไปหาหมอซะ คือเคยจะจับไปตรวจใหญ่ทีหนึ่ง แต่เค้าก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เค้าคิดว่าแข็งแรง ขนาดไปทำธุรกิจที่ จ.บึงกาฬ ต้องขึ้นภูทอก เค้าขึ้นไป 3 รอบแล้ว แต่เรายังวิ่งไปได้รอบเดียวเลย เค้าแข็งแรงมากครับ คือเดินได้ครึ่งวัน อย่างไปนครสวรรค์เราก็ไปวิ่งรอบบึง เค้าก็เดินได้ 2 รอบนะ”

...

ที่ไปโรงพยาบาลก็คือไปเช็กอาการปกติ ไม่ได้มีอาการ?

“ก็คือไปให้ยา ฉีดยาปกติ มีเชื้อโรค มีอาการไข้ ซึ่งตอนหลังก็คือทานอาหารไม่ได้ ที่บริษัทจะมีร้านอาหารประจำอยู่ แต่เค้าทานได้น้อยมาก”

ช่วงสุดท้าย ดร.ไพบูลย์ เป็นคนเปลี่ยนชีวิต นาธาน ยังไงบ้าง?

“เค้าเข้ามาเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ก็เข้ามาอย่างที่เราทราบกัน ช่วงที่เค้าเข้ามาหาเรา เราก็บอกว่า โอเคถ้ามาอยู่ด้วยกัน ต้องพูดความจริงนะ จริงๆ แล้วเค้าพูดความจริงมาตลอด ซึ่งเรารู้สึกได้ ผมคิดว่าช่วงระยะหลัง 3-4 ปีที่ผ่านมา เค้าไปรับเลี้ยงลูกบุญธรรมที่ จ.เชียงใหม่นะ คือเค้าก็อยากทำความดี อยากทำอะไรกับสังคมให้เยอะๆ

ซึ่งเค้าเคยบอกว่า ตั้งแต่อายุ 40 ปีเป็นต้นไปนะพี่ ผมจะทำแต่ความดีแล้วนะ ผมจะไปอยู่ จ.บึงกาฬ อยากไปช่วยโน่นนี่ ช่วยโปรโมตการท่องเที่ยว เพราะเราไปมีธุรกิจที่โน่นด้วย

ในความคิดผม ผมคิดว่าเค้าเป็นคนปกติในสังคม คือเรื่องราวเค้าในประวัติศาสตร์อาจจะเป็นคนไม่ปกตินะ ซึ่ง 10 ปีที่แล้วคนอาจจะด่า แต่ในวันนี้ 7-8 ที่ผ่านมา ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือพนักงานในองค์กรเรา เค้ามีความไว้อาลัยกับพี่นาธาน น้องนาธาน ผมคิดว่าคืนคนดีสู่สังคม แต่ว่าเค้าอาจะมีช่วงเวลาน้อยไปนิดหนึ่งในการตอบแทนสังคม”

คุณแม่นาธานไม่ได้มา?

“คุณแม่มาไม่ทันครับ เค้าอยู่สุราษฎร์ธานี แม่ท่านก็เสียใจครับ”

ก่อนเค้าเสีย ได้พูดอะไรมั้ย?

“ตอนที่ผมนั่งอยู่ เค้าก็เดินมาบอกว่า พี่ เวรกรรมมันตามเค้าแล้ว คือก่อนที่เราจะรู้ว่าเค้าป่วย เค้าก็บอกว่าเวรกรรมตามทันแล้ว เราถามว่าเรื่องอะไร และเค้าก็ร้องไห้ เลยไล่ให้ไปนอน บอกว่าไม่มีอะไรหรอก หลังจากนี้ให้ทำความดี แม้กระทั่งบุหรี่เค้ายังไม่สูบเลย เค้าก็เลิกหลายปีมาก วันนั้นที่เข้ามา เค้าก็บอกว่า ถ้าเค้าไม่อยู่แล้ว ขออโหสิกรรมให้คนนั้น คนนี้ด้วย คือที่เค้าเข้ามาพูดเรื่องนี้มันประมาณเกือบ 3 เดือนแล้ว

...

เราก็ไม่ได้เอะใจหรอกครับ เพราะตลอด 8 ปีกว่าๆ เค้าเข้ามานั่งและขอโทษบ่อยมาก เค้าก็โอเคนะ เป็นคนน่าสงสารนะ จริงๆ มีผู้ใหญ่หลายคนถามว่า เลี้ยงไว้ได้ยังไง แต่ผมก็ยึดมั่นมาตลอดว่า วันนั้นผมบอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเป็นงูเห่า ปล่อยออกไปข้างนอกก็กัดคนอื่นตาย เราเลยต้องขังไว้กับเราตลอด และเรารู้ว่าเชื่องหรือไม่เชื่อง เราก็เอาพิษมันออก

ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในโลกนี้เท่าเทียมกัน ไม่มีใครอยากโดนด่า อย่างทางโซเชียลเนี่ยเราโดนด่าแค่ 2-3 ข้อความ เรายังจิตตก แต่นี่คนทั้งประเทศด่า คือผมเห็นใจว่ามันแบกรับภาระทางจิตใจเยอะมาก ผมว่ามันไม่ควร ไม่มีใครขาวสะอาด ก็ถือว่าน้องหมดเวรหมดกรรมแล้ว”

ได้กล่าวลามั้ย?

“ก็บอกเค้าว่า ไม่ต้องห่วงอะไร ไปให้สบาย จริงๆ เค้าก็แทบจะตัวคนเดียวอยู่แล้ว และผมก็ไม่ได้ห่วงเค้าแล้ว เพราะบางทีเค้าอยู่ที่ทำงานเรา และเราไปไหนไกลๆ หลายวัน ก็ห่วงเค้า ซึ่งปกติเราจะไปไหนด้วยกันตลอด เมื่อกี้ก็คุยกับแฟนเราว่าใจหายเหมือนกัน เพราะปกติถ้าโทรหาเราไม่ติด ก็จะโทรหา นาธาน แทน”.