เป็นอีกหนึ่งสาวสองที่มีความสวยกว่าผู้กหญิงหลายคน สำหรับ โยชิ รินรดา ธุระพันธ์ เจ้าของตำแหน่งมิสทิฟฟานี่ 2017 ที่มานั่งพูดคุยเปิดใจในรายการ เรื่องนี้ต้องขยาย ทางช่องไทยรัฐทีวี ช่อง 32 โดยโยชิเล่าให้ฟังว่า 

อยากเป็นผู้หญิงตอนไหน?
คุณพ่อตอนเด็กๆ ดุ ก็จำความดุของคุณพ่อ และกลัวมาตลอด เลยไม่กล้าพูดออกหรือแสดงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาว่าเป็นอะไรข้างในลึกๆ เลือกที่จะเป็นผู้หญิงตอนมัธยมต้น เพราะตอนประถมยังไม่มีเพื่อน เหมือนเป็นคนกลุ่มน้อย เหมือนแปลกจากเพื่อน เราไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร จะอยู่กับเพื่อนผู้หญิง ก็โดนเพื่อนล้อ พออยู่มัธยมก็เจออะไรมากขึ้น เจอคุณพี่ที่เค้ามาสอนหรีด เค้าเป็นสาวประเภทสองแต่งเป็นผู้หญิง ก็อยากจะเป็นผู้หญิง เปิดโลก ก็รู้ว่าต้องทานฮอร์โมน ก็ไปซื้อ เป็นช่วงที่ตัดสินใจที่จะเป็นผู้หญิง

เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนไหน?
ไม่ได้ไปเจอหมอ แต่เป็นแบบปากต่อปากความรู้จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ตอนนั้นอายุ 14-15 ที่เริ่มเทคฮอร์โมน และก็เก็บเงินซื้ออาหารเสริม โยเก็บเงินเองไม่ได้ขอที่บ้าน ที่บ้านจะขายข้าวแกงและอาหารตามสั่ง ก็จะห่อข้าวใส่ปิ่นโตไปกิน ค่ารถก็นั่งรถเมล์ 5 บาท วันนี้นึงใช้เงินไม่เกิน 20 บาท เก็บวันละ 80-100 บาทต่อวัน เพื่อเอาเงินไปซื้ออาหารเสริม

เริ่มจะบอกคุณพ่อและคุณพ่อยอมรับตอนไหน?
ตั้งแต่เริ่มที่จะเป็นจนประกวดทิฟฟานี่ไม่เคยบอกคุณพ่อเลยว่าหนูเป็น หนูอยากแต่งเป็นผู้หญิง เราศึกษาคุณพ่อว่าคุณพ่ออยากให้เราไปไหนในทิศทางไหน ตอนนั้นคุณพ่ออยากให้เราเรียนเก่งๆ เรียนดีๆ เพราะคุณพ่ออาจจะไม่ได้เรียนจบสูง ก็คงอยากให้เราเป็นตัวแทนของพ่อ เรียนจบสูงๆ มีอาชีพดีๆ คุณพ่อแค่บังคับให้เรียนได้เกรดดีๆ เราก็เลยเอาตรงนี้มาแลกกับการที่เราจะเป็นผู้หญิง ตอน ม.ปลาย เริ่มมีงานก็เอาเงินมาจ่ายค่าเทอมเอง

...


ออกสื่อบ่อย คุณพ่อไม่รู้เลยว่าเราเป็นผู้หญิง?
คุณพ่อเป็นคนที่ทำงานหนัก ดูแต่บอลและมวย ไม่ค่อยติดตามข่าวบันเทิง แต่คุณแม่รู้ เพราะบอกแม่ตั้งแต่อยู่ ม.ต้นแล้ว ไม่มีความลับกับแม่ แม่ก็อนุมัติ ตอนแรกแม่จะให้บวชด้วย แต่พอ ม.ปลาย แม่ก็คงเห็นแล้วว่าคงบวชให้ไม่ได้แล้ว ก็เลยให้ลูกเป็นอย่างที่อยากจะเป็น

หลายคนมองว่ามาประกวดมิสทิฟฟานี่ก็ได้เปรียบคนอื่นเพราะผ่านมาในวงการมาก่อน?
อยากจะบอกว่า การเป็นเน็ตไอดอลแล้วมาประกวดต่างกันมากนะคะ พอเราไปประกวด คนนั้นก็สวย ความสามารถดี แต่เรากลับดูง้องแง้ง เดินไม่สวย โดนด่าว่าแบ๊วเกินไป

ตอนประกวดไม่คิดเลยว่าจะได้ที่หนึ่ง กลัวเค้าจะไล่ให้เรากลับแล้วมาใหม่ปีหน้า ก็หวังว่าอยากจะได้ แต่พอมาประกวดจริง มันมีอะไรมากกว่าความสวย ต้องเก่งหลายๆ อย่าง เยอะไปหมด มีความท้อจนอยากจะออกจากการประกวด เพราะเป็นคนชอบอ่านคอมเมนต์

เคยเจอแต่คอมเมนต์ชม พอมาเจอคำวิจารณ์รุนแรง ไล่กลับให้ไปขายครีมเหมือนเดิม มีทั้งคนที่ด่าเพื่อให้ปรับและคนที่ด่าเลย ทำเราจิตตกเหมือนกันพอมาอ่านเยอะๆ เฟลไปเลยว่าเราไปทำอะไรให้ เราแค่มาทำตามความฝันของเรา ต้องมาเจอคำอะไรแบบนี้ ร้องไห้เลย

เอาภาพไปเปรียบเทียบกับ ปอย ตรีชฎา ?
หนูชื่นชอบพี่ปอยมากๆ เลย พี่เค้าเป็นไอดอลของหนู เค้าเป็นคนเปิดทางให้สาวประเภทสองที่เพียบพร้อม เราทำตามความฝัน พี่ปอยก็เป็นมิสทิฟฟานี่ในดวงใจเราด้วยก็ทำให้เรามาประกวด อย่าเอาไปเปรียบเทียบกันเลยค่ะ เคยเจอพี่ปอยไปทานข้าวที่ร้าน แล้วพี่ปอยก็ไปกระซิบบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าให้เปิดทางให้ลูก

โยชิทำศัลยกรรมอะไรมาบ้าง?
ก็ทำศัลยกรรมมาค่ะ ทำให้เรามั่นใจเพิ่มมากขึ้น ก็ไปแก้ไขแต่เดาๆ เอาแล้วกันว่าโยไปทำอะไรมาบ้าง (ยิ้ม) แต่ไม่อยากทำเพิ่มนะคะ มีแต่จะเอาออกถ้าตรงไหนมันมีปัญหา

มีแฟนหรือยัง?
ตอนนี้โฟกัสเรื่องงานค่ะ ไม่ได้เปิดตัว แต่เราก็รู้กัน ส่วนเรื่องที่ชอบทอม ก็แค่คบกันเป็นเพื่อนของพี่ จากFC เรา ทำของมาให้เรา ด้วยความที่เป็นเพื่อนของพี่ก็เลยคุยกับเค้าในเฟซบุ๊ก ก็เลยคุยกันไปเรื่อยๆ เค้าเอาใจเก่ง ชวนคุยสนุกสนาน แต่ว่าสภาพร่างตอนนั้นเราก็เป็นผู้ชาย ยังไม่มีหน้าอก ไม่ได้ผมยาว ใส่ชุดนักเรียน แปลกๆ ก็เลยให้เป็นแค่พี่ที่รู้จัก

เวลาเจอคนแซวแรงๆ กับเรื่องเพศสภาพของเรา รับมืออย่างไรบ้าง?
เจอค่อนข้างที่จะเยอะ ถ้าสนิทกันก็จะบอก แต่ถ้าเป็นคนไกลตัวก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะถ้าเค้าไม่ชอบ ต่อให้ไปพูดด้วยดีๆ หรือคำหยาบก็ยิ่งไปกันใหญ่ ก็เลยไม่สน โฟกัสแต่คนที่รับตรงนี้ได้ดีกว่า

...