อย่าเกลียดหนู! "บัว" โดนด่าแรดเงียบ เล่นถึงใจ พิสูจน์หน้าหวานๆ ผ่านได้ทุกบท

เข้มข้นขยี้ใจ คนดูไปก็ตบเข่าฉาด! เพราะแต่ละบทบาทในละครรักซ้อนซ่อนดราม่าเรื่อง “ลับลวงใจ” ทางช่อง 3 ชวนให้อินไปหมดกับรักที่พัวพัน ทั้งความดีของพระนาง “เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์” และนางเอก “เดียร์น่า ฟลีโป” ความเจ้าชู้ร้ายกาจของ “มาสุ จรรยางค์ดีกุล” รวมทั้งความแรงของบท “ตุ้ม” สาวหน้าหวานที่ถูกตีกรอบชีวิตจนระเบิดตัวตนออกมาทำได้ทุกอย่างเพื่อผู้ชายที่เธอรัก รับบทโดย “บัว-นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ” ที่กำลังถูกด่าคำแรงๆเลยคว้าตัว บัวมาคุยถึง

กระแสของตุ้มที่คนพูดถึงตอนนี้?

“ถือว่ากระแสดีเลยนะคะ ในทวิตเตอร์ก็ติดเทรนด์บท ตุ้มของหนูแรกๆคนจะสงสารเพราะดูอ่อนต่อโลกใสซื่อ แต่พอมาอีพี 5 คนเริ่มไม่สงสารแล้วเพราะทำตัวเอง รู้ว่าผู้ชายคนนี้เค้าแต่งงานกันแล้วแต่เราก็เข้าไปยุ่ง แถมยังเป็นสามีของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง คือตัวละครตัวนี้ถูกเลี้ยงมาอยู่ในกรอบ พี่ชายกับแม่ประคบประหงมไม่อยากให้ไปเจอโลกอะไรเลย พอไปเจอโลกเลยเหมือนเค้าเตลิดไปเลย เจอความรักแบบที่รักผู้ชายคนนี้ก็คิดว่าทำยังไงก็ได้ให้เค้ารัก ทั้งที่เค้าเข้ามาแก้แค้นพี่ชายของเรา แต่ดึงเราเป็นเครื่องมือ”

เคยเล่นบทแบบนี้มั้ย?

“ไม่เคยเลย เหมือนจะเล่นไม่ยากแต่จริงๆยากนะ มันอึดอัดเหมือนเป็นคนเก็บกดแสดงอะไรไม่เยอะ พูดไม่เยอะแต่แสดงทางสีหน้าแววตา มันขัดกับบุคลิกูมากที่เป็นคนแมนๆห้าวๆ เป็นคนแสดงออก”

>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<

รู้สึกยังไงคนด่าแรงทั้งร่าน แรดเงียบฟาดเรียบ?

“ใช่ (ยิ้ม) รุนแรงมาก ตัวละครนี้คนดูว่าเรียบร้อยแต่จริงๆเค้าก็คือผู้หญิงธรรมดาที่มีความต้องการทั่วไป พอได้เจอผู้ชายคนนี้เลยทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้ามีอะไรพิเศษ พัฒนาการตัวละครเหมือนเล่นกับจิตใจของเค้า พอเจอเรื่องราวมากมายจิตใจก็เปลี่ยนไปตามสิ่งที่เค้าเจอ ฉากแรงๆมีเยอะเลย วางแผนไปเจอเค้าให้เค้ามาหาที่ห้อง เดี๋ยวมีรุนแรงอีกพอเรามีอะไรกับเค้าแล้วก็จะเป็นสายเสี้ยมให้เค้าเลิกกันเพื่อมารักเรา ตอน แรกๆที่เล่นก็ค้านกับตัวเองนะ เราใช้ตัวเราที่ไม่ใช่ตัวละครตัดสินว่าเค้าทำไมคิดแบบนี้รู้สึกแบบนี้ พอจับจุดได้เราก็คิดว่าเราเป็นตัวละครว่าแบ็กกราวด์เค้าเป็นยังไงเจออะไรมา ทำไมกลายเป็น คนแบบนี้ และเล่นไปตามความรู้สึกตรงนั้น เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นเลยว่าผู้หญิง 3 คน ถูกเลี้ยงมาแบบไหน แล้วเจอความผิดหวังกับความรักมา แล้วเค้าใช้ชีวิตต่อไปยังไง มันทำให้เห็นหมดว่าถ้าครอบครัวให้คำปรึกษาหรือคอยอยู่ดูแลอย่างตัวหมอดี นางเอก เค้าก็ฟื้นขึ้นมาไว กับกระแสที่คนด่าเยอะมากก็ดีใจ รู้สึกว่าประสบความสำเร็จที่คนอิน แต่ก็แอบคิดว่า เอ๊ะ! เค้าบอกว่าเกลียดคุณตุ้มมาก หนูก็คิดในใจว่าเค้าเกลียดคุณตุ้มแล้วเค้าจะเกลียดหนูมั้ยเนี่ย เกลียดหนูตัวจริงๆรึเปล่า อย่าเกลียดหนูนะ (ยิ้ม)”

ก่อนรับเล่นบทนี้ต้องคิดนานมั้ย?

“คิดนานเหมือนกันเพราะมันรุนแรง ตอนจบก็เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าตัวละครนี้จะไปถึงตรงนี้เลยเหรอ คิดนานแต่ก็รู้สึกว่ามันท้าทายดี เราเป็นนักแสดงก็อยากได้บทที่หลากหลาย หนูเชื่อว่าเรื่องนี้ทำให้คนพูดถึงและสะท้อนสังคมได้”

เลิฟซีนเยอะมั้ย?

“โอ้โห ถือว่าเยอะและรู้สึกว่าตั้งแต่ที่เล่นมาเป็นเลิฟซีนที่รุนแรงกว่าทุกเรื่อง มีซีนที่แรงเหมือนกัน เป็นความฝันว่าเค้าเห็นเรามีอะไรกัน หลังจากนี้มันจะเป็นความรักหลบซ่อน กับมาสุเคยเจอกันเรื่องที่แล้วคือเรื่องคลื่นชีวิต เล่นเป็นพี่น้องกัน กระโดดขี่คอกันมีความสนิท แต่เรื่องนี้ ในตัวละคร เราต้องแอบชอบเค้า รักเค้า เจอเค้าแล้วเขินอาย ทำตัวไม่ถูก พี่ดุ๊ก-ภาณุเดช เลยแนะนำหนูว่าเวลามากองก็ไม่ต้องไปสนิทกับเค้ามาก ให้เป็นความรู้สึกจริงๆว่าเราแอบชอบ แอบมอง แล้วมันใช้ได้จริงๆนะ พอถ่ายจริงเราก็อินแบบนั้น เรื่องนี้มาสุเค้าบทเยอะเค้าต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเองต้องใช้สมาธิ เวลาเข้าฉากด้วยกันก็โอเคนะคะ”

คนมองว่าลุคเรียบร้อยทำไมมาเล่นแบบนี้?

“จริงๆคาแรกเตอร์ต่างกับตัวมาก ถ้าคนได้ดูเราในแบบที่เค้าไม่เคยเห็นก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี ได้เปิดอีกด้านการแสดงที่คนไม่เคยเห็นแน่ๆ ไม่คิดว่าหน้าตาแบบนี้จะเล่นได้”

ฟีดแบ็กดีพิสูจน์แล้วว่าถ้าหวานๆแบบนี้เล่นได้ทุกบทบาท?

“ดีใจนะคะ ทุกเรื่องเราตั้งใจทำเต็มที่ อยากทำออกมาให้มันดี พอฟีดแบ็กดีเราก็ดีใจว่าสิ่งที่เราทำไปคนดูเห็น และชอบ”

ผลงานก่อนหน้าคือตราบาปสีชมพู ที่คนกำลังฟิน เรื่องนี้คนละแนวเลย?

“ใช่ค่ะ จริงๆแฟนคลับก็ตามเชียร์ทุกเรื่องนะคะ ไม่ว่าเราจะรับบทอะไรก็แล้วแต่ แต่ถือว่ากระแสดีได้รับคำชม คนที่อ่านนิยายจะนึกภาพตัวละครอีกแบบ แต่พอเรามาเล่นแล้วน่าสนใจ ถามว่าเคยเล่นบทร้ายมั้ย เคยเล่นของทีวีซีนนี่ล่ะ อาปิ่นชอบให้หนูได้รับบทร้ายๆ เรื่องที่แล้วก็โดนด่า พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง สำหรับตัวหนู หนูชอบการแสดงเพราะเราได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ ได้เป็นในสิ่งที่เราไม่เคยได้เป็น มันเป็นอะไรใหม่ๆที่ท้าทายดี ตอนนี้นักแสดงก็คืออาชีพหลัก หนูชอบอาชีพนักแสดง ตอนแรกที่เรียนจบก็หาตัวเองว่าชอบอะไร และรู้แล้วว่าไม่อยากทำงานประจำ ไม่อยากทำอะไรเหมือนเดิมทุกวัน เลยคิดว่าลองมาทางนี้และมันก็สนุกจริงๆ ถามว่าผ่านช่วงที่เหนื่อยที่ใช้ความอดทนรอเวลามั้ย หนูเองก็ถือว่าอยู่ในวงการมานานแล้ว ทำให้รู้ว่ามันก็ต้องเจอจังหวะและโอกาสที่ดีด้วย และสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้เพราะเราตั้งใจทำเต็มที่กับทุกผลงานที่ได้รับมาค่ะ”.