ได้ดูการให้สัมภาษณ์ของคู่รักคนดัง ดีเจอั๋น-ภูวนาท คุนผลิน กับคุณจ๋า-อลิสา สามีภรรยาซึ่งตอนนี้มีบุตรแล้ว 1 คน ในรายการเสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ว่า ทั้งคู่น่าจะรู้สึกภูมิใจที่ได้รักกันและกันขนาดนี้
ขอเล่าย้อนไปที่รายการคุยเช้าก่อน ทำให้ทราบว่า ก่อนที่จะแต่งงานกัน ตอนแรกคุณจ๋า-อลิสา คิดกับดีเจอั๋นแค่เพื่อนเท่านั้น แถมตัวคุณจ๋าเองไม่คิดอยากแต่งงาน เพราะ เชื่อในเรื่องความโสด ว่า จะช่วยทำให้มีความคล่องตัวมากกว่า และถ้าเป็นโสดจะสามารถกำหนดเรื่องต่างๆได้เอง เนื่องจากเธอทำงานเยอะเพราะต้องบริหารธุรกิจที่พัทยา
แต่ภายหลังเมื่อคบกันมาได้สักพัก ดีเจอั๋นก็ขอคุณจ๋าแต่งงาน ฝ่ายหญิงก็ปฏิเสธตลอด บอกขอเป็นเพื่อนไปเรื่อยๆ คงทำให้ฝ่ายชายหมดความอดทน...อันนี้เดาเอา ดีเจอั๋นจึงบอกไปว่า ให้คบเป็นเพื่อนก็จะไม่คบ! คุณจ๋าก็ตอบไปว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นเพื่อนก็ไม่เป็น (เราก็แยกกัน) ทว่า วันนั้นฝ่ายหญิงไปออกกำลังกาย เธอกลับทำไม่ได้ จะเล่นโยคะก็เล่นไม่ได้เพราะสมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้เพิ่งรู้สึกว่า ตัวเองขาดอะไรไป...ตอนนั้นแหละ “ถึงรู้สึก” และรู้ว่า เธอนั้นชอบเค้า!
มาที่รายการเสือ สิงห์ฯ ต่อ เมื่อถูกถามว่า คบกันมา 9 ปี เลิกกันมา 9 ครั้งจริงไหมฮะ? ดีเจอั๋นตอบว่า เอาจริงๆเลิกกันมากกว่า 9 ครั้ง แล้วทุกครั้งที่เลิก....ไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องอะไรเลยนะ มีแค่เรื่องจะแต่งหรือไม่แต่งเท่านั้น ก็อย่างที่บอกตอนแรกคุณจ๋าไม่อยากแต่งงานนั่นเอง
เมื่อดีเจอั๋นถูกถามว่า พี่จะน้อยใจทุกครั้งที่เมียจ๋าเห็น สิ่งนี้สำคัญกว่าสามีคือ? เค้าตอบว่า ก็เรื่องงานนี่แหละ แต่มันก็แค่บางครั้งเท่านั้น ด้านฝ่ายหญิงก็ยอมรับว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอเวลามีงานแล้ว อยากให้สามีดูแลตัวเองได้ ทางด้านดีเจคนดังอธิบายต่อว่า ก่อนหน้านี้จะรู้สึกน้อยใจตอนที่ยังเป็นแฟนกันมากกว่าที่ทะเลาะแล้วเลิกกัน เพราะฝ่ายหญิงจะอ้างเรื่องงาน แบบฉันจะทำงาน แต่ฝ่ายชายมองว่า มันไม่เกี่ยวนี่หว่า เพราะถ้ามีสามีแล้วก็ทำงานได้! ก็นั่นน่ะสิ แต่แหมก็ต้องเห็นใจเวิร์กกิ้ง วูแมนบ้างเซ่
...
คุณจ๋าเล่าต่อไปว่า สเปกคนที่จะเป็นแฟนจ๋านี่ไม่ใช่คนแบบดีเจอั๋นเลย หนำซ้ำคุณจ๋ายังเคยพูดกับสามีว่า ไม่น่าเชื่อนะว่า เราจะมาเป็นแฟนกันได้ (ทำให้คิดถึงคำที่ว่า ไม่ชอบอะไรแต่มักได้อย่างนั้นเลยอ่ะ)
สเปกจ๋าจะแบบ ชอบผู้ชายออกกำลังกายทุกวัน เช่น ปั่นจักรยาน ชอบกีฬากลางแจ้ง เช่น ปีนเขา
แต่ตรงนี้สิเด็ดสุด เพราะเป็นประเด็นที่อยากโฟกัส เมื่อดีเจอั๋นถูกพิธีกรถามว่า เชื่อหรือไม่ ตั้งแต่แรกเจอ เมียคนนี้คิดว่าเราเป็นเกย์! ดีเจคนดังรีบตอบทันทีว่า เชื่อ ขณะเดียวกันก็บอกว่า อันนี้ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่นะ เพราะคนอื่นก็คิด! ขณะที่คุณจ๋าบอกว่า คิด เพราะอั๋นเค้าเป็นคนเฟรนด์ลี่ (เข้าได้) กับทุกคนเลย และยังคุยกับเกย์, คุยกับสาวประเภทสอง คือ คุยกับทุกคนได้อ่ะ แถมเค้าก็เป็นคนไนซ์ (แสนดี) กับทุกคน ทำให้คุณจ๋าก็ดูไม่ออก ว่าจะแมนจริงหรือจะเป็นเกย์? เพื่อนทุกคนของคุณจ๋าก็บอกว่า อั๋นนี่ต้องเป็นสาวแน่ๆ
ด้านดีเจอั๋นเองบอกว่า ไม่ได้แปลกใจ เพราะคุณสมบัติของพี่ก็ครบอ่ะ หากใครจะคิดก็คิดได้ว่า เป็นเกย์! บอกตามตรงนะ ไม่ว่าสมัยไหนผู้หญิงบางทีก็มองผู้ชายบางคนไม่ออกหรอกว่า คนนั้นเป็นเกย์หรือไม่ได้เป็น
ถ้ายิ่งหนุ่มคนนั้นเป็นคนเรียบร้อย, มีความเนี้ยบในเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม แถมยังเป็นคนพูดเก่ง เอาใจใส่คู่สนทนาหรือใครๆอย่างทั่วถึงแล้ว และหากเป็นหนุ่มที่เพอร์เฟกต์ (สมบูรณ์แบบ) ด้วยแล้ว ใครต่อใครมักคิดล่วงหน้าว่า เค้าเป็นเกย์ไว้ก่อน โถ....เพราะมีเหตุจูงใจให้คิดอย่างนั้นได้นี่นา
แต่ทางที่ดี หากผู้หญิงได้เจอชายที่มีลักษณะท่าทางแบบนี้ อยากขอแนะนำอย่างนี้ดีฝ่า เช่น.....1.ลองเข้าไปทำความรู้จักกับเค้าจริงๆ ก่อนดีไหมว่า เค้าเป็นเกย์หรือเป็นชายแท้กันแน่?
เพราะผู้ชายแท้บางคนก็อ่อนโยนไง ทำให้ผู้หญิงอาจคิดไปเองก่อนก็ได้ว่า เค้าเป็นเกย์แหงๆ ซึ่งถ้าพวกคุณทั้งสองหากไม่เข้าไปทำความรู้จักกันให้มากพอ
“รู้จัก” ในที่นี้คือต้องลองเป็นเพื่อนพูดคุยกับเค้าไปสักระยะหนึ่งด้วยนะ แล้วค่อยตัดสินใจดีกว่าว่า เค้าเป็นสาว (หรือเป็นเกย์) หรือเป็นชายทั่วไปที่ดูเนี้ยบเพราะครอบครัวเค้าเลี้ยงมาแบบนั้น
2.ถ้ามีผู้ชายลักษณะคล้ายเกย์มาจีบคุณ ก็อย่าเพิ่งคิดว่า เค้าจะจับคุณเพื่อกลบเกลื่อนสถานะที่แท้จริงของตัวเอง แม้หากพูดกันตามตรง มันก็มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นจริงอ่ะนะ
...
แต่ฝ่ายหญิงอย่าเพิ่งร้อนตัวไปซะก่อน และพูดก็พูดเถอะ ผู้หญิงนั้นมีดีอยู่อย่างคือ สามารถเป็นมิตรกับหนุ่มเกย์ได้ ฉะนั้นเมื่อมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับชายแปลกหน้าหรือมีหนุ่มแปลกหน้าที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเนี้ยบหรือดูดีตั้งแต่หัวจดเท้า มาทักทายคุณ คุณก็สามารถรับเค้าไว้เป็นเพื่อนพูดคุยด้วยได้นี่นา
เพราะอย่างที่บอก ผู้หญิงชอบคบกับเกย์ (แบบเป็นเพื่อน) แต่คนคนนั้นต้องเป็นคนดีด้วยนะ
3.ในสังคมที่หลากหลายนั้นต้องยอมรับว่า ชายแท้ที่มีบุคลิกคล้ายเกย์นั้นมีอยู่จริง ดังนั้น ถ้าจะตัดสินใจก็ควรทำหลังจากรู้จักกับคนคนนั้นซะก่อนเถอะ.
@@@@
เมอร์ลิน