เปิดตัวว่า กำลังศึกษาดูใจกันมาสักระยะแล้ว สำหรับหนุ่มหล่อ ฌอห์ณ จินดาโชติ กับสาว ยิปซี คีรติ ซึ่งกองเชียร์ฟินสุดๆ และเชียร์ให้เลื่อนสถานะเร็วๆ
แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า ฝันจะสลายเสียแล้ว เมื่อ ฌอห์ณ ได้ออกมายอมรับแบบแมนๆ ตรงๆ ว่า ตอนนี้ห่างกับ ยิปซี แล้ว และยังบอกอีกว่า ตัวเองก็เศร้าไม่แพ้กัน เพียงแต่ว่าการแสดงออกของหญิงกับชายไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมีคนมองอีกด้วยว่า การที่ ฌอห์ณ กับ ยิปซี ห่างกันนั้นอาจจะมีมือที่สาม ซึ่งก็คือนางเอกสาว พิม พิมประภา โดยเรื่องนี้ ฌอห์ณ ได้บอกว่า
ตอนนี้สถานะเรื่องหัวใจเป็นอย่างไรบ้าง?
"เดี๋ยวผมตอบเองก็ได้ครับ ผมเป็นผู้ชาย เราคุยกันน้อยลงครับ แต่ในฐานะของความเป็นเพื่อนก็ยังคงมีอยู่"
เหตุผลเพราะอะไร?
"คือเราคุยกันมานานแล้วครับ ถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสถานะที่มันจะคืบหน้าหรือถอยหลัง"
ใช้คำว่าห่างหรือเลิก?
"ใช้คำว่าห่างครับ"
ทำไมเราถึงรู้สึกว่าไปกันต่อไม่ได้ ให้กลับมาเป็นเพื่อนกัน?
"ผมว่าด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกันมา สถานะก็ต้องมีพัฒนาอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่มันคงที่มาประมาณหนึ่ง
ตัวเราเองเป็นผู้ชายก็ต้องคุยกับเขาตรงๆ ว่าเหตุผลอะไรที่มันปรับจูนกันได้ไหม เรื่องอะไรที่ไปต่อไม่ได้ หรือเรื่องอะไรที่มันยังต้องคงอยู่แบบนี้ ผมรู้สึกว่าเราไม่ควรจะทำให้มันเสียเวลาซึ่งกันและกันครับ"
...
ระยะเวลานานแค่ไหนแล้วที่เราตัดสินใจถอยออกมา?
"ก็ประมาณหนึ่งแล้วนะ ช่วงที่พี่ไปสัมภาษณ์เขาก็ประมาณนั้นแหละ แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงเขาก็ยากที่จะตอบ เราเป็นผู้ชาย เราตอบง่ายกว่า แต่มันก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง
ซึ่งถ้าถามว่ามีการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบไหม มีครับมี ไม่ได้ห่างหายไป มันหายไม่ได้หรอก ความเป็นเพื่อนก็ยาวนานมามาก เราก็ยังมีถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง"
เรียกว่าห่างออกมาด้วยความเข้าใจของทั้งสอง?
"เข้าใจๆ ผมว่าเขาเข้าใจนะ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่คนสองคนเข้าใจดีที่สุดนะครับ แต่ว่าคนอื่นจะเข้าใจยังไงอันนี้ก็สุดแท้แล้วแต่เขา"
ลดสถานะจากคนรู้ใจกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิมใช่ไหม?
"ใช่ๆ เราเป็นเพื่อนกัน เมื่อก่อนเราเป็นเพื่อนที่สนิทกัน และวันนี้เราก็เป็นเพื่อนกัน เราไม่มีทางที่จะไม่เป็นเพื่อนกัน"
พอมีข่าวแบบนี้คนเลยโยงว่า หรือเพราะความสนิทสนมระหว่างเรากับ พิม พิมประภา ถึงทำให้ต้องลดสถานะความสัมพันธ์กับยิปซี?
"ขอร้องเลยว่าอย่าโยงน้องเข้ามาเกี่ยว น้องยังเด็กมาก และในฐานะของการทำงานมันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเข้าใจ ละครมันออน และภาพผมกับน้องทุกอย่างมันอยู่ในขบวนการพีอาร์ทั้งหมด ผมไม่อยากให้น้องเข้ามาเกี่ยวจริงๆ
เรื่องความสัมพันธ์ของผมกับคุณยิปเองเป็นเรื่องของคนสองคน น้องก็มีพื้นที่ส่วนตัวของเขา น้องเป็นผู้ร่วมงานที่ดี และน้องก็ยังเด็ก อย่าเอาข่าวไปเขียนพาดพิงเขาเลยดีกว่า"
กับพิมคือแค่ร่วมงานอย่างเดียวใช่ไหม?
"ใช่ ส่วนใหญ่เราจะเจอกันตามโปรโมต ต้องยอมรับว่าเดือนนี้เจอกันบ่อย อาทิตย์ละครั้ง เพราะด้วยความที่ละครยังออน และใกล้จะอวสาน ทางผู้ใหญ่ช่อง 7 ก็จะให้ไปออกรายการนู้นรายการนี้เสมอ
ก็เลยไม่แปลกนะครับ ซึ่งผมอยากให้เข้าใจ น้องเขาอาจจะไม่ได้มาตอบบ่อย แต่ผมไม่อยากให้ไปกระทบครอบครัวเขา มันไม่เกี่ยวเลย"
ได้คุยกับยิปซีถึงข่าวนี้ไหม?
"ก่อนหน้านี้มันก็จะมีข่าวแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงถ่ายทำ ผมก็เข้าใจแหละว่ามันต้องมีประเด็นเล่นเรื่องอะไรต่างๆ ให้เป็นกระแสไป แต่ตัวยิปเข้าใจ คือตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเคยบอกไปว่า เรื่องของเราก็คือเรื่องของเราจริงๆ เราไม่เคยเปิดพื้นที่ให้เรื่องของคนอื่นมาเกี่ยวข้องกับเรื่องของเรา"
ยิปซีเคยแสดงอาการหึงบ้างหรือเปล่า?
"เรื่องความรู้สึกอะไรลึกๆ แบบนั้น เขายังไม่ได้บอกอะไรกับผมนะ แต่ทุกวันนี้เราคุยเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราสองคน และตัวยิปเป็นผู้ใหญ่มาก
...
เขาจะไม่เอาเรื่องอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับเขา เขาก็จะคุยแค่เรื่องแค่นี้"
หลายคนมองว่ายิปซีดูจะเฮิร์ตมากกว่าเรา?
"เอ่อ ผมว่าคนเรามีความรู้สึกที่แสดงออกมาคนละแบบ และผมก็ผ่านจุดที่คนชอบเอาไปเชื่อมโยงทางโซเชียลมาเยอะ ทางที่ดีที่สุดคือผมต้องโปรโมตละคร
ผมเลยไม่อยากให้คนไปคิดมากและเป็นห่วงผมมาก ผมมีวิธีการแสดงความรู้สึกคือปรับทุกข์กับคนรอบตัว แต่ผมก็เข้าใจผู้หญิงนะ และไม่ได้ว่ากัน มันเศร้ากันหมดแหละครับ แต่เวลาก็จะทำให้ผ่านพ้น"
โอกาสที่จะกลับมาร่วมงานหรือได้เจอกันตามงาน ยังมีอยู่ไหม?
"เดี๋ยวก็มีนัดเจอครับ"
ยังคงกลับมาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันเหมือนเดิม?
"เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับผมมากนะ และไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมต้องห่างเหินจากเขา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราต่างคนต่างยื่นสิ่งที่ดีให้กัน และการที่ต้องเพิกเฉย หรือไม่เป็นเพื่อนกัน ผมว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ยังไงก็เป็นห่วงเขาอยู่แหละ"
ย้อนกลับไประยะเวลาที่เริ่มศึกษาดูใจกัน ทั้งหมดกี่ปี?
...
"จริงๆ ด้วยความที่เราไม่ได้กำหนดสถานะครับ ทุกคนก็เห็นว่าเราไปไหนมาไหนกัน และผมก็ไม่ได้ปิด ตอบว่าเป็นเพื่อนที่สนิทจริงๆ และก็คุยคนเดียวจริงๆ ไม่ได้มีการกำหนดว่าวันนี้เราจะเป็นอะไรกัน มันเป็นความรู้สึกดีที่ให้กันครับ"
ตัวเราพร้อมเปิดใจรับคนใหม่หรือยัง?
"พอถูกถามก็รู้สึกโหวงๆ เหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่าเราอาจจะไม่พร้อมจริงๆ ในเวลานี้ และสิ่งที่สำคัญงานก็เข้ามาเรื่อยๆ ละครก็ถ่ายไปออนแอร์ไปโปรเจกต์หน้าก็กำลังจะเปิดกล้อง ผมว่าปีนี้ผมคงต้องอยู่กับตัวเอง"
เราเป็นคนที่อยากจะลดสถานะใช่ไหม?
"มันเป็นการคุยกันสองคนครับ"
เราเป็นคนเริ่มก่อนใช่ไหม?
"ไม่ครับ เป็นการคุยกัน เขาเปิดประเด็นมา เราก็คุยกัน"
ถือเป็นช่วงพักใจ?
"ใช่ครับ ผมว่ามันยากมากที่จะตอบเรื่องส่วนตัวให้เป็นเรื่องส่วนรวม และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมก็พยายามจะประหยัดคำพูด และตอบให้กระชับที่สุด
ถ้าทุกคนอยากรู้ก็มาถามผม เพราะผมเข้าใจความรู้สึกผู้หญิง และเขาคงไม่อยากมานั่งตอบเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ก็รบกวนว่าอย่าไปจี้อะไรเขาเยอะ ให้เวลาเขาหน่อย"
...
ช่วงนี้พักใจและลุยงานเลยใช่ไหม?
"ใช่ครับ ช่วงนี้งานเยอะจริงๆ และผมก็ไม่ได้อ้างว่างานเยอะ ขอโฟกัสงานก่อน คือตื่นมาเราต้องทำงาน และไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาคิดในกอง หรือทำงานมันไม่ดีเลยสักอย่าง ตอนนี้ก็คงถึงเวลาต้องนั่งทบทวนตัวเองและอยู่กับที่บ้านบ้างนะ"
เหตุผลเพราะเรื่องงานเยอะด้วยหรือเปล่าเลยทำให้ห่าง?
"ผมไม่ได้เอามาอ้างนะ คือเวลางานก็คือเวลางาน เวลาส่วนตัวมันก็หาได้แหละ แต่สุดท้ายมันเป็นเรื่องของที่เราคุยกันว่าอนาคตจะยังไง เรื่องงานไม่มีปัญหาเพราะเคยทำงานหนักมามากกว่านี้แล้ว"
ช่วงนี้กลัวไปไหนกับเพื่อนผู้หญิงคนจะจับตามองไหม?
"ผมก็ตอบชัดเจนนะ และผมก็สามารถตอบชื่อออกสื่อได้ว่าคนนี้คือใครบ้าง อยู่ที่ไหน ยืนยันคำเดิมว่าช่วงเวลานี้คงต้องพักแล้วทบทวนตัวเองอยู่ที่บ้าน หลานก็เปิดเทอม มีเวลาหลายอย่างที่เราต้องทำ".