นานๆจะเห็นโมเมนต์หวานๆของนักร้องมาดร็อก ตูน บอดี้สแลม ที่ส่งดอกไม้ช่อโตมาร่วมยินดีนางเอกสาว ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ ในงานปฐมทัศน์ “ขุนพันธ์ 2” ที่เอสเอฟ เวิลด์ ซีนีม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หลังจบงานเลยถามก้อย ว่า...

เห็นดอกไม้ช่อใหญ่เป็นพี่ตูนส่งมาแสดงความยินดีใช่มั้ย?

“ใช่ค่ะ (ยิ้ม) อันนี้เซอร์ไพรส์จริงๆ เพราะเราไม่คิดว่าเค้าจะส่งอะไรแบบนี้มา ไม่คิดเลย”

เหมือนโมเมนต์แบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆใช่มั้ย?

“ไม่เคยมีเลยดีกว่า (หัวเราะ) สมมติว่าเวลาก้อยทำงาน เค้าจะรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เรามีแถลงข่าวนะ วันนี้เป็นรอบสื่อนะ ไม่เคยคาดหวัง เค้าก็ไม่ว่างที่จะมาดูอยู่แล้ว เราก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยพาไปดูกัน 2 คนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะเห็นความสำคัญอะไรแบบนี้”

ความรู้สึกตอนเห็นดอกไม้ช่อใหญ่เป็นยังไงบ้าง?

“ก็ดีใจนะคะ และก็ตกใจ พออ่านข้อความลายมือไม่ใช่นิ แต่ลงท้ายชื่อว่าเป็นเค้า เราก็โอเค (ยิ้ม)”

พักหลังมานี้พี่ตูนเริ่มหวานออกสื่อมากขึ้น?

...

“ก้อยว่าจริงๆแล้วเค้าคงไม่ได้ตั้งใจที่จะออกสื่อหรืออะไร คือเค้าแค่อยากจะแสดงความยินดีกับเรา เพราะเค้าก็รู้ว่าตัวก้อยเองก็ไม่ได้แสดงหนังมานานพอสมควร จริงๆแล้วตอนที่เริ่มรู้จักกันตอนนั้นก็คือเรื่องสุดท้ายที่ก้อยเล่นพอดี และมาอีกทีก็รอบสื่อครั้งนี้ค่ะ เพิ่งรำลึกได้ว่าตอนนั้นเราก็มีหนังรอบสื่อหนังเรื่อง “แฟนใหม่” เมื่อ 8 ปีที่แล้วเหมือนกัน”

เราสัมผัสได้ไหมถึงความเปลี่ยนไปของ พี่ตูน ที่ดูเทกแคร์มากขึ้นหวานมากขึ้น?

“เค้าก็เหมือนเดิมนะ ค่อนข้างเป็นคนที่สม่ำเสมอค่ะ แต่อย่างวันนี้ก้อยยอมรับว่าเซอร์ไพรส์จริงๆ ขอบคุณพี่ตูนมากค่ะ (ยิ้ม) ดีใจมีกำลังใจแล้ว”

อัปเดตถึงความคืบหน้าภาพยนตร์เรื่อง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”?

“เป็นหนังที่ทาง GDH ทำค่ะ มันไม่ใช่หนังสารคดีนะคะ แต่ตัดต่อออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์จริงๆ ก้อยอยากดูมากถึงแม้เราจะอยู่ในเหตุการณ์นั้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าภาพที่ออกมาหรือมุมมองของผู้กำกับที่มีต่อโครงการก้าวคนละก้าว หรือมีต่อตัวพี่ตูนจะเป็นยังไง และสิ่งที่สำคัญก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้พี่ตูนอยากจะมอบให้คนไทยเป็นของขวัญที่ทุกคนออกมาเสียสละ ออกมาร่วมใจร่วมบริจาคเงินให้กับโครงการ ก็อยากให้ทุกคนมาดู และมาส่งต่อการให้ให้กับโรงพยาบาลศิริราชต่อด้วย”

ทำไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?

“ตอนนี้เราเริ่มบริจาคแล้วค่ะถึงแม้หนังจะยังไม่ฉาย จะมีช่องทางการบริจาคก็ติดตามได้ทางเพจก้าวค่ะ และพอหนังจบเราก็จะขยายการบริจาคไปอีกประมาณ 6 เดือนค่ะ และสิ่งที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คือคนไทย เราอยากจะให้อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษาซึ่งเป็นอาคารสุดท้ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้สำเร็จด้วยแรงกายแรงใจจากคนไทยทุกคน ซึ่งถ้าเราได้เงินตรงนี้ไปก็เชื่อว่าอาคารจะสมบูรณ์ และอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ทุกอย่างจะสมบูรณ์และรองรับให้ผู้ป่วยที่เดือดร้อนหรือยากไร้ได้มาใช้บริการได้ ยังไงก็ฝากทุกคนด้วยค่ะ”.