เหตุการณ์แถลง กัปตัน ชลธร ทำผู้หญิงท้อง เมื่อวาน (11 มิ.ย.) ซึ่งออกมาพร้อมกัน ทั้งสองครอบครัว กัปตัน-มิ้ง โดยทางฝั่ง น้องมิ้ง ศวภัทร สุนทรนันท มาพร้อม คุณแม่ปุณณดา ไชยยงยศ ขณะที่คุณพ่อ น้องมิ้ง ซึ่งเป็นทหารเรือที่กำลังจะติดยศนายพล ไม่ได้เดินทางมาด้วย เพราะติดราชการ
ซึ่งกระแสหลังจากแถลงข่าวก็เกิดขึ้นมากมายทั้งบวกและลบ แต่หนึ่งอย่างที่ทุกคนชื่นชมก็คือความเข้มแข็งและห่วงใยลูกของ คุณแม่มิ้ง ที่ออกมาทั้งจากการกระทำ รอยยิ้ม และแววตา ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ เปิดใจทุกคำตอบจากปาก แม่มิ้ง แล้ว!
หลังแถลงข่าวเมื่อวาน กลับไปถึงบ้าน น้องเป็นไงบ้างคะ
"ร้องไห้แล้วก็นอนเงียบ แม่ก็ได้แต่นอนกอดเขาไว้ เราก็เป็นกำลังใจเดียวของเขาเวลานี้ ที่แม่ออกไปแถลงกับเขา ก็เพื่อลูกจริงๆ แม่ก็ต้องกลั้นน้ำตาเหมือนกัน มันเจ็บ ญาติพี่น้องเราก็มี พ่อก็รับราชการ"
จากการแถลงข่าวเมื่อวานยังมีอะไรคาใจมั้ยคะ
"ไม่มีแล้วค่ะ แม่เข้าใจทุกอย่างแล้ว แม่มองเห็นเขาแล้วรู้ว่าลูกแม่ต้องตัวคนเดียวแน่นอน (ถอนหายใจ) แม่ไม่ได้ต้องการค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ใดๆ ทั้งสิ้นจากเขา แม่ไม่ได้ต้องการเงินอะไร สิ่งที่แม่ต้องการให้ลูกแม่คือกำลังใจจากกัปตัน แค่นี้ที่แม่รู้ว่าลูกแม่อยากได้ ซึ่งเราก็ไม่ได้รับ ก็โอเคก็ไม่เป็นไร
...
ปกติแม่ไม่ค่อยอะไรใครอยู่แล้ว ไม่ได้โกรธใครนะ แต่วันนี้นาดาวโทรหาแม่ แล้วแม่หลับไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเราต้องดูลูกเรา พอแม่ไม่รับตื่นมาลูกให้ดูที่ทางนาดาวให้ข่าว ทั้งๆ ที่เมื่อวานนาดาวพูดกับแม่ว่าเมื่อวานเชิญไปแถลงข่าว ทุกอย่างจะจบ
แต่วันนี้นาดาวกลับให้ข่าวเรื่องที่น้องไม่ยอมไปฝากครรภ์ ซึ่งเราคุยกันแล้ว เมื่อวานว่าคุณพ่อต้องการไปด้วย และคุณพ่อติดราชการอยู่สงขลา ซึ่งเราก็ขอรอคุณพ่อกลับมาก่อน แจ้งเขาตั้งแต่เมื่อวาน"
ณ ตอนนี้ยังอยากให้น้องไปคุยกับ กัปตัน สองคนมั้ยคะ
"เขาคุยกันแล้ว ก็ไม่ต้องคุยแล้วค่ะ"
คุณพ่อฝ่ายชายบอกให้ทุกอย่างเป็นสเตปบายสเตป
"ใช่ค่ะ คือแม่มีความรู้สึกว่าทางเขาต้องการรู้ว่าน้องท้องจริงหรือเปล่า นี่คือในความคิดของแม่นะที่รู้สึกแต่แม่ไม่อยากพูดออกมา
เอาอย่างงี้นะ แม่เป็นคนพาน้องไปตรวจครรภ์และขอใบรับรองแพทย์จากคุณหมอมา ซึ่งถ้าไม่ใช่เรื่องจริงหมอไม่มีทางเซ็นเด็ดขาด
แม่ก็คาดหวังรอพ่อกลับมาก่อนเราจะไปตรวจ แต่ทางนั้นเขาก็รีบ ตั้งแต่แรกคุณพ่อก็ไม่โอเคแล้ว ว่าทำไมเราเป็นผู้หญิงต้องไปติดต่อเขาตลอด แทนที่เขาเป็นคนทำเขาจะติดต่อเรา พ่อเขาก็เลยไม่ค่อยโอเค
เมื่อวานที่ไปแถลง คุณพ่อเขาติดราชการที่สงขลา ก็บอกเหตุผลนาดาวเขาไปแล้วว่ายังไม่ไปฝากครรภ์เพราะคุณพ่อสั่งมาให้รอคุณพ่อก่อน ตอนนี้แกน่าจะออกตรวจ 3 จังหวัดชายแดน เราก็พยายามติดต่อไป คุณพ่อก็บอกว่าจะมาเร่งอะไรตอนนี้ต้องทำงาน ตอนแรกให้รอมา 2 อาทิตย์
ยิ่งคุณพ่อเห็นเรื่องเมื่อวานเขาก็แย่ พ่อแกลูกน้องเขาอะไรก็เยอะ เขาก็เลยบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งอะไรเขาแล้ว แค่หลานเขาเลี้ยงได้ เขารักลูก ในเมื่อลูกทั้งคนเขายังเลี้ยงมาได้เลย พ่อกับแม่ก็ได้แต่บอกให้เขาตัดใจ"
น้องมิ้ง ทำใจกับสิ่งที่ได้เจอเมื่อวานได้มั้ยคะ
"ก็ร้องไห้แหละเนอะ คนเราโดนอย่างนั้นมันไปไม่ถูก ตัวเขารักกัปตันมาก ตอนนี้เขาก็ยังรักมากอยู่ แม่ก็ได้แต่บอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว เราอยู่กันแบบนี้ก็อยู่ได้มั้ยลูก เราก็มีความสุขของเราได้
(แล้วน้องมิ้งโอเคมั้ย) ยังค่ะ คือถ้าโอเคเขาโอเคที่จะไม่เรียกร้องแล้ว แต่เขายังเสียใจ คนท้องเนอะกำลังใจมันสำคัญ แม่ก็บอกตรงๆ กับเขาว่าให้ตัดใจได้แค่ไหนก็แค่นั้นแหละลูก"
...
คุณพ่อเองบอกกับลูกสาวยังไงบ้าง
"พ่อบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการ เรารักตัวเอง และเรารู้ตัวเองว่าต้องทำยังไงกับชีวิตเรา แค่นี้พ่อเลี้ยงได้"
ทางเราจะตัดทางนั้นเลยมั้ยคะ
"เขาก็ยังโทรมา คุณแม่เขาก็ยังโทรมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใย แต่ก็จุดประสงค์เขาก็ต้องการนัดเราไปตรวจให้เร็วที่สุด
...
ซึ่งเรารู้สึกว่าถูกบีบคั้นมาก (ถอนหายใจ) ทั้งที่เราก็ให้เหตุผลไปแล้ว บางทีก็อยากบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องตรวจเดี๋ยวเลี้ยงเอง พ่อก็คิดอย่างนี้เหมือนแม่"
เหตุการณ์เมื่อวานที่เราไปนั่งแถลงกับเขาเราเสียเปรียบมั้ย
"เสียเปรียบ มันคือการเอาลูกเราไปประจานชัดๆ แต่ก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่ยังให้น้องนะคะ แม่ก็พยายามส่งพลังบวกให้ลูก"
อนาคตตอนนี้วางไว้ยังไง
"แม่เลี้ยงหลานเองได้ ไม่เดือนร้อนเลยค่ะ แม่ไม่ได้โกรธใครนะคะ ทั้งคนที่วิพากษ์วิจารณ์ ทั้งสื่ออะไร น้องชายที่ออกมาโพสต์ก็เพราะเขารักพี่สาวมาก อย่าถือสาแกเลย
บางคนก็หาว่าน้องมิ้งจะจับกัปตัน คือไม่มีอะไรให้จับละเนอะ เอาจริงๆ แม่คุยกับลูกทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ มีเยอะแยะคนที่เข้ามา มีดีกว่านี้เยอะ (ลากเสียง) ที่เข้ามา แต่เขาไม่เลือก เขาไม่คบ เขารักกัปตัน ถ้าจะคิดกันถึงเรื่องนี้ แม่ขอ มันไม่ใช่"
...
ตอนนี้ น้องมิ้ง น่าจะเครียดมาก หลายคนกังวลว่าจะส่งผลต่อเด็กในท้องมั้ย อายุครรภ์เดือนครึ่งห่วงว่าจะส่งผลกระทบ
"ไม่ค่ะ เขาโอเค แค่ยังเสียใจ"
มีคำหนึ่งที่ชาวโซเชียลติดใจ คือ กัปตัน พูดถึงเด็กในท้องว่า "สิ่งในท้อง" แทนที่จะใช้คำว่าลูกในท้อง
"นั่นแหละที่ น้องมิ้ง น้อยใจ แม่ก็น้อยใจ ก็ตัวเขาก็รับกับแม่เอง ตั้งแต่ว่ารู้ว่าท้อง ว่าเขาแน่ใจว่าลูกเขา แต่ถึงวันนี้สิ่งที่ออกมาคือ เขาเอาลูก ตัวมิ้งเขาไม่เอา ถ้าอย่างนี้คุณก็ไม่ต้องมารับรู้อะไรแล้วแหละ ไม่เป็นไรหลานก็หลานเรา ลูกก็ลูกเราไง
คุณไม่ต้องมาให้ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์อะไร คุณไม่ต้องมาซัพพอร์ตถ้าคุณไม่ให้ลูกคุณมาซัพพอร์ตลูกเราเรื่องจิตใจ เราต้องการแค่กำลังใจ
ลูกเราต้องการแค่กำลังใจ แต่ถ้าทำไม่ได้ไม่เป็นไร เรื่องค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เราสามารถดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานเราให้ดีได้"
อยากได้หลานสาวหรือหลานชายคะแม่
"(หัวเราะ) น้องมิ้งเขาอยากได้ลูกสาว".