จะพาฝากครรภ์แต่ไม่เอ่ยปากเลี้ยงเป็นเมีย

“กัปตัน-ชลธร” พร้อมพ่อแม่ และตัวแทนต้นสังกัด เปิดแถลง ยอมรับผิดชอบกรณีทำอดีตแฟนสาว “มิ้งค์-ศวภัทร” ตั้งท้อง ปัดไม่สนเรื่องตรวจสอบใดๆ ขอ โฟกัสที่เด็กก่อน เตรียมพาฝากครรภ์ พร้อมขอโทษแฟนคลับวอนสังคมอย่าตำหนิพ่อแม่ ต้นสังกัด หรือแม้แต่ฝ่ายหญิง ขอให้โทษตนคนเดียว ด้านฝ่ายหญิงถึงกับน้ำตาคลอ เมื่ออาจต้องเผชิญหน้าการเป็นคุณแม่ เลี้ยงเดี่ยว ยืนยันไม่คิดทำแท้งแล้ว เชื่อหลังจากนี้จะได้มีโอกาสคุยกันสองคน เคลียร์กันได้ และจะไม่มีการออกมาแฉใดๆอีก

หลังจากตกเป็นข่าวดังไปทั่วโลกออนไลน์ กรณีกัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง วัย 20 ปี ซึ่งโด่งดังจากละครซีรีส์ “เลิฟซิคเดอะซีรีส์ รักวุ่น วัยรุ่นแสบ” นักแสดงสังกัดบริษัทนาดาว บางกอก จำกัด ทำอดีตแฟนสาว มิ้งค์-ศวภัทร สุนทรนันท วัย 23 ปี ตั้งท้องได้ 7 สัปดาห์ โดยฝ่ายหญิงออกมาแฉแหลกว่าถูกกีดกันจากครอบครัวและบริษัทต้นสังกัดของฝ่ายชาย ทำให้ไม่ได้คุยกับฝ่ายชายเป็นการส่วนตัวสองคน

ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 มิ.ย. ที่บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ซอยสุขุมวิท 31 กทม.กัปตัน-ชลธร พร้อมด้วยนายวทีรัต-นางวิริยา คงยิ่งยง บิดามารดา เปิดแถลงข่าวเคลียร์ข้อสงสัยทั้งหมดต่อสื่อมวลชน โดยมีอดีตแฟนสาวมิ้งค์-ศวภัทร ที่มากับนางปุณณดา ไชยยงยศ มารดา และ น.ส.จงจิตต์ อินทุ่ง รองผู้อำนวยการแผนกดูแลศิลปิน นาดาว บางกอก ร่วมแถลงข่าวพร้อมหน้า โดยหนุ่มกัปตันกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับมิ้งค์-ศวภัทร แต่มีเหตุผลบางอย่างทำให้เลิกกันไป และขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำไป ตอนนี้มีความเป็นห่วงเด็กมาก ต้องการให้ฝ่ายหญิงไปฝากครรภ์ ส่วนจะกลับมาเป็นครอบครัวหรือไม่ ก็ตอบไม่ได้ เพราะตอนนี้โฟกัสที่เด็กในท้อง พร้อมระบุไม่ได้สนใจเรื่องตรวจสอบใดๆแล้ว เพราะเมื่อเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากตนก็ขอรับผิดชอบ และขอโทษแฟนคลับทุกคน

...

นอกจากนี้ กัปตันยังกล่าวถึงที่คนในสังคมมองพ่อแม่สอนตนไม่ดี ผู้หญิง หรือแม้แต่ทางต้นสังกัดว่าดูแลไม่ดีว่า ขออย่าโทษพวกเขา พ่อแม่สอนให้ตนเป็นคนดีต่อสังคม จนถึงช่วงวัยรุ่น ตนอยากลองเป็นผู้ใหญ่เอง พิสูจน์ตัวเอง และได้ข้อคิดว่าตนยังไม่พร้อมที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ขอร้องทุกคนอย่าโทษใครเลย ขอให้โทษที่ตนคนเดียว และหลังจากนี้ ต้องพาเขาไปฝากครรภ์ เพราะเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของเด็กและเขามาก เนื่องจากกระแสค่อนข้างเป็นวงกว้าง ทำให้สภาพจิตใจของตนและครอบครัวแย่พอสมควร คิดว่าสภาพจิตใจเขาเองก็คงไม่ต่างกับตน

ส่วนอนาคตในวงการบันเทิง นักแสดงหนุ่ม กล่าวว่า สามารถทิ้งทุกอย่างได้ ถ้ามันยังไม่เข้ามา แต่ในหน้าที่ทางผู้ใหญ่มอบหมาย ตนขอทำให้เต็มที่ ถ้าผู้ใหญ่ยังให้โอกาสก็พร้อมทำต่อไป เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ถือเป็นบทเรียนที่หนักสุดในชีวิตแล้ว แต่อะไรที่เกิดแล้วตนแก้ไขอดีตไม่ได้ ตอนนี้ทำได้คือตั้งใจทำงาน ถ้าคนไม่ชอบแล้ว ก็ต้องยอมรับ

ด้านนางวิริยา แม่ของกัปตัน กล่าวว่า ถ้าเป็นจริง ครอบครัวรับผิดชอบอยู่แล้ว และตรวจสอบแล้วก็พร้อมรับผิดชอบ ถามว่าตนไม่เชื่อใจหรือเปล่า คือตนอยากโฟกัสเรื่องของเด็กในท้องก่อน ห่วงถ้ามีขึ้นมา ต้องดูความปลอดภัยของเด็กและแม่ ขณะที่นายวทีรัต พ่อของกัปตัน กล่าวถึงกรณีอีกฝ่ายมองว่าถูกกีดกันว่า ไม่ได้กีดกัน ทั้งคู่บรรลุนิติภาวะแล้ว คุยกันได้เอง แต่เป็นความคิดที่แตกต่างกัน เพราะทางตนและครอบครัวคิดว่าเรื่องมาขนาดนี้แล้ว ครอบครัวต้องมีส่วนในการตัดสินใจ และจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ทุกอย่าง

ขณะเดียวกัน มิ้งค์-ศวภัทร ได้ตอบข้อซักถามของสื่อต่างๆ โดยยกมือไหว้และกล่าวขอโทษคุณแม่ของกัปตัน ที่ตนให้สัมภาษณ์ไปไม่ดี ยอมรับว่าอาจจะด้วยอารมณ์โกรธ ความน้อยใจทุกอย่างที่เจอมา ตอนนี้ตนยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องของคนสองคนที่ตัวเขาเองต้องมีความเป็นผู้ใหญ่ รับผิดชอบ ต้องปรึกษากันว่าจะเอาอย่างไรต่อ ถึงจะไปถึงครอบครัวได้ พ่อแม่ของตนก็ให้ตัดสินใจเอง หลังจากนี้ก็คิดว่าคงมีโอกาสได้คุยกันสองคน

ทั้งนี้ มิ้งค์ยอมรับด้วยว่าก่อนหน้านี้ ด้วยอารมรณ์โกรธ ผสมน้อยใจ ไม่อยากให้เด็กออกมามีปัญหา ก็เคยมีความคิดจะเอาเด็กออก แต่ตอนนี้ไม่แล้ว และกัปตันก็พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ให้ทำ รวมถึงคุณแม่ของตนก็ไม่ให้ทำ พร้อมกันนี้ มิ้งค์ มีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อถูกถามถึงการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ก่อนกล่าวว่า ก็คิดว่าต้องเป็นแบบนั้น ส่วนตอนนี้น่าจะเคลียร์กันแล้ว คงไม่มีการด่ากัน ไม่มีการออกมาแฉกันแล้ว

ด้าน น.ส.จงจิตต์ อินทุ่ง ในฐานะต้นสังกัดของกัปตัน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถือเป็นเรื่องส่วนตัว บริษัทคิดว่าเขาออกมารับผิดชอบ แสดงให้เห็นแล้ว ที่ผ่านมาเขาทำงานอย่างเต็มที่ไม่เคยเกเร ตอนนี้ ยังต้องเดินงานต่อไป โปรเจกต์ที่ทำอยู่ก็เหมือนเดิม อย่าง “ไนน์ บาย นาย” ที่ทำอยู่ อาจจะต้องให้ทางบริษัท โฟร์โนล็อค ตัดสินอีกครั้ง