กลายเป็นประเด็นฮือฮาเมื่อผู้จัดละครดัง ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา เผยถึงเรื่องหัวใจของตัวเองว่ารักพระเอกหนุ่มคนหนึ่งมานานแล้ว และถึงแม้พระเอกคนนั้นจะมีครอบครัวแล้วก็จะขอรักไปจนวันตาย พร้อมทั้งบอกว่าตอนนี้มีคุยหนุ่มคนใหม่ด้วย งานนี้หลายคนก็เดากันไปต่างๆ นานาว่าพระเอกคนนั้นคือใครกันแน่ และหนุ่มคนใหม่เป็นใคร และจะยอมรับเรื่องนี้ได้รึเปล่า นักข่าวเลยถามเจ้าตัวในงานบวงสรวงละคร “หนี้รักในกรงไฟ” ณ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หนองแขม

ถามถึงเรื่องที่ไปออกรายการ “คลับฟรายเดย์” ทำไมอยู่ดีๆ ถึงตัดสินใจไปออกรายการ?
“คือฉอดติดต่อมานานมากแล้วตั้งแต่เขาเริ่มทำรายการ เราก็ไม่ว่างๆ คือไม่อยากไปออกน่ะบอกตรงๆ อยู่มานานพอสมควร เขาก็เอาคิวทั้งหมดมาแล้วถามว่าพี่ไก่ว่างวันไหนเลือกเอา แล้วก็เว้นโหว่ไว้ว่าวันไหนก็ได้ที่ว่าง จะหน้าด้านบอกว่าไม่ว่างก็คงไม่ได้ ก็ต้องโอเคบอกว่าว่าง ก็เลยให้คิวกับเขาไป อันนี้สัมภาษณ์ประมาณ 3-4 เดือนแล้วนะคะ”

...

คนไปโฟกัสเรื่องความรัก?
“ไม่เข้าใจทำไมทุกคนต้องโฟกัสเรื่องความรัก (ยิ้ม) คือคนเรามันมีความรักอยู่แล้ว แต่เราไม่จำเป็นต้องบอกใคร แต่ครั้งนี้พี่มีความรู้สึกว่ามันเป็นความสุขที่อยู่ในความทรงจำของเรา เราก็อยากจะเผื่อแผ่หรือบอกคนที่เป็นแบบพี่ว่าความสุขอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ใจ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ ไม่จำเป็นต้องครอบครอง เพราะฉะนั้นเราจงภูมิใจว่าเรามีคนรัก ไม่ใช่เรารู้สึกว่าเราจะรักใครชีวิตนี้ ชีวิตนี้ไม่มีคนรัก แล้วมารู้สึกว่าเฮ้ย ทำไมเราไม่มีคนที่เรารักเลยเหรอ และสิ่งที่เรามีก็คือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นเลยอยากบอกทุกคนว่าความรักเป็นสิ่งดี แต่สิ่งไม่ดีก็มีเหมือนกันนะคะเพราะเคยเจอเหมือนกัน”

พอออกรายการไปฟีดแบ็กเป็นไงบ้าง?
“มีคนโทรมาถามว่าใคร ก็มีเพื่อนๆ น้องๆ นักแสดงที่ดูรายการ มีคนที่ร่วมงานกับเราก็ถามว่าใครอะ ก็เลยบอกว่าไปดูเอาเองแล้วกัน อย่าให้บอก ไปเดาเอาว่าเป็นใคร”

คนที่เราพูดถึงเขาโทรมาหามั้ย?
“คนแรก คนสอง หรือคนสามล่ะ (ยิ้ม) ก็ไม่ได้โทร ทั้งหมดนี้เราก็คงรู้กัน เรามีจิตวิญญาณคุยกัน เรามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ได้คุยกัน”

เห็นว่าเป็นพระเอกด้วย?
“เหรอ อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ)”

แสดงว่าเราคิดว่าที่เราออกมาพูดไม่มีผลกระทบอะไร?
“ไม่มีผลกระทบกับใคร เพราะเราไม่ได้ทำให้เขาเสื่อมเสีย เราไม่ได้ไปย่ำยีใคร เราไม่ได้ไปครอบครอง เราแค่รักเท่านั้นเอง เราก็มีความสุขในสิ่งที่เรารัก เพราะฉะนั้นพี่ถือว่าพี่มีความสุขในสิ่งที่อยากจะบอกในคลับฟรายเดย์ ระหว่างที่พูดไป พี่ก็มีความสุขที่จะเล่า แต่พิธีกรร้องไห้ เขาคงนึกว่าทำไมพี่ไก่โง่ไปรักได้ยังไง”

ปัจจุบันความสัมพันธ์กับเขาเป็นยังไงบ้าง?
“ก็ยังคุยกัน โทรศัพท์กัน ไลน์หากันค่ะ”

ตอนไปออกรายการได้บอกเขาก่อนมั้ย?
“ไม่ได้บอกใครเลยค่ะ อยากจะพูดก็พูด เพราะคิดว่าสิ่งที่ออกมาจากปากตัวเองมันออกมาจากใจตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่อายหรือไม่กลัว และไม่ได้คิดว่ามันเป็นความผิด และไม่ได้เป็นความเสียหาย (เขาโอเคมั้ย?) ก็ยังไม่รู้ว่าโอหรือไม่โอเพราะยังไม่ได้คุยกัน”

คนดูรายการหลายคนก็ชื่นชมว่าเรารักมั่นคงหมดใจแม้จะไม่ได้ครอบครอง?
“อย่างที่พี่บอกค่ะ ขอให้พี่มีคนรัก ถ้าไม่มีคนรักแล้วจะอยู่แบบว้าเหว่ว่าเฮ้ยจะรักใคร วันนึงจะคิดถึงใคร วันนึงจะอะไรยังไง แต่เรามีแล้วรู้สึกว่าเออ มันก็อืม มีความสุข จะขอรักจนวันตาย นี่แต่งเพลงให้เขาเพลงนึงนะ เพลงอยู่ในละครเรื่อง “แค้นเสน่หา” ชื่อเพลง “แค่ในใจก็พอ” เคยฟังมั้ยคะ มันอยู่แค่ในใจก็พอ ไม่ต้องมาอยู่ที่ตัว”

ทุกวันนี้ก็ยังยืนยันว่ารักคนนี้อยู่?
“ก็ยังรักคนนี้อยู่ แม้กระทั่งพี่จะมีคนใหม่ พี่ก็จะบอกว่าพี่เคยรักคนนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นเวลาพี่พูดถึงหรือเผลอตัวก็อย่าถือกับคนคนนี้”

...

ไม่กลัวคนใหม่จะน้อยใจเหรอ?
“ก็ต้องยอมรับได้ เขาต้องเข้าใจ”

ทำไมถึงรักเขามาจนถึงตอนนี้?
“เขาเป็นคนดี เป็นคนที่ช่วยเหลือ ให้โอกาส เป็นคนที่สร้างชีวิตในการทำงาน เป็นคนที่ให้อะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นคนดีอย่างนี้พี่กลัวนะ คนที่เลวกว่าหรือร้ายกว่าพี่ไม่กลัว พี่ด่าได้ พี่ตบได้ แต่คนที่ดีกับเราเนี่ยเรากลัวดีไม่เท่าเขาที่เขาดีกับเรา เพราะฉะนั้นพี่กลัวคนดี พี่แพ้คนดี”

ถ้ามีคนเข้ามา แล้วเราเอาคนนั้นเป็นที่ 1 แล้วมันจะไม่มีปัญหาเหรอ?
“เขาก็ต้องยอมรับได้ในสิ่งที่เป็นอยู่เพราะว่ามันคือความจริงน่ะ”

กลัวเสียโอกาสตัวเองมั้ย หากเราเจอคนที่ดี?
“พี่ไม่กลัวเสียโอกาสนะ พี่คิดว่าถ้าเราเจอสิ่งที่ดีกว่า แต่คิดว่าคงไม่มีอะ ถ้าเจอสิ่งที่ดีน้อยกว่าก็ถือว่าเป็นโชคดีของเรา ก็ยังมีความรักเข้ามาหาเราอีกในอายุปูนนี้แล้ว ซึ่งเราต้องบอกตรงๆ ว่าไม่ใช่เด็กวัยรุ่น แต่ถามว่าแอบชอบคนโน้นนี้มั้ยก็ชอบอยู่เยอะนะ แต่เขาจะเผื่อแผ่มาถึงเราบ้างรึเปล่าเราก็ไม่รู้ เพราะเราก็ต้องรู้ตัวเราเองว่าเราได้แค่ไหน”

...

ณ ตอนนี้มีบ้างรึยัง?
“ก็มีเยอะเลยค่ะ แต่เขายังไม่มา (หัวเราะ) เราอยู่ในวงการบันเทิง ถ้าไม่รักกลุ่มนี้จะไปรักที่ไหน เราก็ต้องรักตรงนี้ (แต่ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนหรือเป็นคนรัก?) ยังไม่มี แต่กำลังจะมีนะ (ยิ้ม) ขอให้เป็นไปได้ ถามว่าดึงมาร่วมงานมั้ย ก็ร่วมงานอยู่บ้างนะ (หัวเราะ)”

เขาโสดรึเปล่าขอถามตรงๆ?
“พี่ก็ตอบตรงๆ ถ้าเขารักพี่นะ (หัวเราะ)”

มุมมองความรักของเราเป็นยังไง?
“มองว่าเป็นความรักที่สวยงาม เป็นความรักที่มีความรู้สึกว่าถ้าเรารักใครแล้วมีความสุขเรารักไปเถอะ เราจะได้ครอบครองหรือไม่ครอบครองก็ขอให้คนที่เรารักรู้ว่าเรารักก็พอแล้ว คนเราเนี่ยเดี๋ยวก็ตายจากกัน เพราะฉะนั้นรักกันในสิ่งที่ดีๆ ดีกว่า”

กับคนใหม่จะมีโอกาสได้เห็นมั้ย?
“คิดว่าความดีของพี่จะชนะเขารึเปล่าไม่รู้ ถามว่ามีลุ้นมั้ย พี่ยังลุ้นเลยเนี่ย (หัวเราะ) พี่ก็ขอให้ความดีที่พี่มีอยู่ทำทุกอย่างให้ชนะใจเขานิดนึง”

แสดงว่าค่อนข้างคาดหวังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้?
“ไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะพี่ไม่เคยคาดหวัง พี่ไม่มีอนาคต พี่มีแต่ปัจจุบันกับอดีตที่ผ่านมา เพราะอนาคตเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พรุ่งนี้เราอาจจะตายก็ได้ เพราะฉะนั้นอยากทำอะไร อยากพูดอะไรพูด บอกให้เขารู้ซะ เดี๋ยวไม่ได้บอกแล้วตายไปก่อนแล้วจะเสียใจ”

...

จะควงมาออกงานมั้ย?
“ให้ไปเดาเอาเองแล้วกันค่ะ ถามว่าจะควงออกงานมั้ย คงอาจจะมีบ้างนะ”

แต่เขารู้ตัวใช่มั้ยพี่ว่าเรามีใจ?
“รู้ เขารู้ ถามว่าวันนี้มามั้ย ไปถ่ายละครปะ (หัวเราะ)”.