แจ้งเกิดด้วยลีลาและความมีสไตล์กลิ่นอายเพื่อชีวิตในแบบของตัวเอง พาให้หนุ่มน้อยวัย 19 ปี “ไม้หมอน–วชิรวิทย์ จันเกิด” ลูกทีม “โค้ชสิงโต นำโชค” ชนะใจคนดูคว้าแชมป์รายการ “เดอะวอยซ์ เสียงจริง ตัวจริง ซีซั่น 6” แบบที่กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เลยต้องจับ “ไม้หมอน” มานั่งคุย ถามถึงวินาทีที่รู้ว่าได้แชมป์เป็นยังไง? “มันไม่เหมือนที่คิดไว้ ผมคิดแค่ว่าอยากมาร้องเพลงให้คนอื่นฟังแล้วมีความสุข ไม่คิดว่าจะได้มาขนาดนี้ เพราะผมเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆคนนึง ไปประกวดเวทีไหนก็ไม่เคยไป มีแต่ประกวดเป็นวงดนตรีกับเพื่อนๆ แล้วคนอื่นก็ผ่านเวทีมาหมด ผมเองก็เพิ่งมาเรียนดนตรี” เห็นบอกว่ามาเกินฝันตอนนี้ยังรู้สึกว่าฝันอยู่มั้ย? “ใช่ครับ ผมก็ลองมานึกดูว่าเราได้แชมป์ได้ยังไง มองย้อนไปตั้งแต่วันที่ส่งคลิปประกวดตอนมัธยม ก็คิดว่าเราไม่น่ามาถึงตรงนี้ได้ คงเป็นพลังอะไรที่ผลักเราขึ้นมา ผมก็เล่นกีตาร์ ร้องเพลงไปตามประสาแต่ก็อยู่กับดนตรีเพราะชอบ จริงๆผมก็ร้องเพลงเพื่อชีวิตของพี่ปู-พงษ์สิทธิ์ ของคาราบาวอยู่แล้ว เพราะผมชอบเพลงเพื่อชีวิต พ่อแม่ผมก็ชอบ ตอนนี้เรียนปี 1 คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สาขาดนตรีและธุรกิจบันเทิง เป็นสาขาที่ไม่ได้เน้นดนตรีแต่เน้นธุรกิจบันเทิง เป็นสาขาที่เพิ่งเปิดไม่นาน สิ่งแวดล้อมเป็นดนตรี ตอนแรกอยากให้ดนตรีเป็นแค่งานอดิเรกแต่ตอนนี้ก็ก้าวมาแล้ว”
...
คนบอกว่าเราเลือกเพลงโดนใจทั้งนั้น เลือกยังไงและเอามาปรับเป็นตัวเองยังไง? “โค้ชสิงโตช่วยเลือกด้วยครับ เค้าจะดูว่าเราชอบเพลงนี้มั้ย ร้องแล้วโอเคมั้ย พี่ตามใจน้องอยู่แล้ว พอผมผ่านรอบบลายออดิชั่นไปอยู่ทีมโค้ชสิงโต พี่เค้าก็มองเห็นว่าผมเก่งทางด้านการเล่าเรื่องผ่านบทเพลง เค้าก็เอาจุดนี้มาทำให้ชัดขึ้น” โค้ชสิงโตสอนอะไรบ้างที่ประทับใจจำแม่นไม่ลืม? “เค้าก็สอนการเป็นศิลปินว่าไม่ใช่แค่มาร้องเพลง มันคือการเอาเพลงมาเล่าให้ฟังแล้วทำให้คนอินกับบทเพลงได้ การเป็นศิลปินเราต้องเป็นคนในเพลง ถ่ายทอดบทความของเพลงออกมาให้มากที่สุด พี่สิงโตเหมือนเป็นครูคนนึง เรื่องการใช้ชีวิตก็สอนว่าถ้าเจอเรื่องอะไรไม่ดี ก็อย่าไปสนใจมาก เช่น เรื่องแฟนๆเราควรแคร์คนที่รักเรามากกว่า ถ้าเราไปแคร์สิ่งที่ไม่ดี มันก็ไม่แฟร์กับแฟนคลับเรา เพราะแฟนคลับเรารักเราโหวตให้เรา” ปรับตัวได้รึยังกับกระแสและดราม่าต่างๆ? “ผมเจอมาตั้งแต่รอบแบทเทิลกับรถบัส ก็มีดราม่า พี่สิงโตก็ให้กำลังใจว่ามันมีอยู่แล้วเรื่องดราม่า ไม่ว่าจะเรื่องไหน ผมก็มีคิดนะว่าทำไม บางทีเจอคอมเมนต์ต่างๆ เราก็หันมามองตัวเองว่าอันนี้เรายังมีข้อบกพร่อง ต้องฝึกฝนขึ้นเรื่อยๆ อย่างกับพี่เบน ตอนที่ผมรู้ว่าเค้าร้องเพลง Bohemian Rapsody ผมยังบอกเลยว่าสุดยอด ผมชอบเพลงนี้ ผมเรียกพี่เค้าว่าอาจารย์เบนตลอดเพราะเค้าเองก็คอยสอน ใครถามอะไรก็แนะนำคนอื่นเสมอ เป็นคนดีมากๆ ครอบครัวเดอะวอยซ์อบอุ่น ผมแค่อยากร้องให้คนมีความสุข ผมไม่ได้อยากแข่งกับใคร แม่สอนว่ามาที่นี่อย่าไปแข่งกับใครเพราะเราสู้เค้าไม่ได้หรอก (ยิ้ม) แข่งกับตัวเอง เอาชนะตัวเองก็พอ”
เห็นว่าในรอบชิงชนะเลิศ พอได้แชมป์ปุ๊บไปก้มกราบคุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยายที่มาเชียร์เลย? “ใช่ครับ ที่ได้มาถึงวันนี้เพราะคุณแม่คอยสนับสนุน ผมรักแม่มาก มีอะไรก็นึกถึงแม่ ตอนเจอดราม่าก็งอแงกับแม่ แม่ก็คอยให้กำลังใจ” เวลาเห็นยอดวิวเพลงที่เค้าประกวดในยูทูบแล้วชื่นใจมั้ย? “ผมก็ดีใจครับ อย่างเพลงบันไดสีแดงก็คนดู 11 ล้านวิวแล้ว ก็คิดว่าขนาดนี้เลยเหรอ แต่ส่งให้แม่แม่บอกว่าดังแน่ ผมก็ยังไม่เชื่อ ผมเคยทำคลิปลงยูทูบดีดพิณ มีคนดูแค่หลักสิบกว่าคน” เริ่มรักเสียงดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่? “ตอนเด็กเริ่มจากคุณตาสอนดนตรีพื้นบ้าน มีคุณตาเป็นไอดอล” ณ วันนี้ชีวิตเปลี่ยนมั้ย? “เปลี่ยนครับ เงินรางวัลที่ได้มาก็ยกให้คุณแม่หมด เพราะที่บ้านมีภาระบ้านก็คงได้ผ่อนหมด แม่ก็ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน” ครอบครัวปลื้มแค่ไหน มีมาบอกอะไรเรามั้ย? “แม่บอกว่าลูกเก่งมาก แม่ภูมิใจในตัวลูกมาก คุณแม่เป็นคนรักคุณตาคุณยายมาก แม่บอกว่าแม่ภูมิใจที่คุณตาคุณยายดีใจที่ตายายยิ้มได้” ชีวิตด้านอื่นๆล่ะเปลี่ยนไปแค่ไหน? “รู้สึกดีใจมากๆครับ ไม่เคยมีคนมาชื่นชอบเยอะขนาดนี้และไม่เคยมีคนด่าเยอะขนาดนี้ (ยิ้ม)” ความฝันทางดนตรีตอนนี้? “เคยฝันว่าอยากเป็นนักดนตรีระดับโลก แต่พอโตขึ้นมาก็ทำเป็นแค่งานอดิเรกก็มีความสุข อยากเข้าใจธุรกิจดนตรี” ยังอยากพัฒนาตัวเองด้านไหนอีก? “อยากพัฒนาการร้องให้แข็งแรง พัฒนาด้านการแต่งเพลง ผมก็แต่งเพลงไว้บ้างแต่อยากพัฒนาให้มันดีมากๆ วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างก็อยากทำให้มันดี”.
...