เตรียมลงทุนทำธุรกิจอีกคนสำหรับนักร้องนักแสดงหนุ่ม ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน โดยเจ้าตัวเตรียมจะเปิดธุรกิจเครื่องสำอาง "Ladae" (ลาเด้) กับแฟนสาว ลิลลี่ ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ พร้อมอัพเดตเรื่องแต่งงาน

ชิน มาร่วมงานเปิดตัวละครเทิดพระเกียรติ "หัวใจเดียวกัน" ณ ห้อง Yamaha - Digital Audio Creative Center ชั้น 3 อาคารสยามกลการ เลยอัพเดตถึงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ถามถึงเรื่องธุรกิจที่จะเปิดตัว?
"อ๋อ ใกล้แล้วครับ อย่างที่ผมให้สัมภาษณ์ว่าลี่เพิ่งไปคุยกับทางพม่าและได้บทสรุปว่าเราน่าจะเปิดตัวที่ไทยและพม่าพร้อมกันเลยครับ เพราะคำว่า Ladae (ลาเด้) มันเป็นภาษาพม่า ลี่เป็นลูกครึ่งพม่า ลาเด้ผสมผสานความเป็นพม่ากับฝรั่งเศส คือลี่กับผม มันเลยเป็นแบรนด์ลาเด้ขึ้นมา ซึ่งแปลว่าสวย มันเกิดอันนี้ขึ้นมาเพราะผมรู้สึกว่าผู้หญิงสวยอยู่แล้ว เราทำขึ้นมาเพราะอยากดึงความสวยของผู้หญิงทุกคนในแบบตัวเองครับ"

...

ลงทุนไปเยอะไหม?
"ก็ในระดับที่เหมาะสมและคู่ควรกับโปรดักต์แรก เพราะเรามองว่าเราอยากลงทุนกับคุณภาพ นี่คือโจทย์ของเรา เราอยากให้คนได้ของดีจริงๆ เพราะฉะนั้นจะต้องลงทุนกับเรื่องนี้ คือมันมีหุ้นส่วน 4 คน มันก็เลยช่วยกันได้ครับ ถามว่า 8 หลักไหมไม่ครับ แต่วันนึงผมเชื่อว่ามันจะถึง เพราะสิ่งที่เราตั้งโจทย์ไว้คือเราอยากทำคอสเมติกส์ไลน์ เราอยากทำทั้งหมดเพื่อมีแบรนด์ของคนไทยด้วยกันที่มีคุณภาพ และในเวลาเดียวกันสามารถออกไปทาง AEC ได้ด้วยครับ"

บางคนกลัวมีปัญหาเวลาทำธุรกิจกับแฟน เรากังวลไหม?
"ไม่ครับ เพราะต่อให้ไม่ทำธุรกิจกับแฟนก็ทะเลาะกันอยู่ดีครับ มันเป็นแค่ข้ออ้าง เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเองเพื่อให้กลัว กลัวเพราะไม่ไว้ใจกัน กลัวเพราะไม่ทำความเข้าใจกัน กลัวเพราะกลัวจะขัดกัน แต่ถ้าเรามองว่าเราไม่ได้เอาความชอบส่วนตัวของแต่ละคน เพราะไม่ใช่แค่กับแฟน แต่มีอีก 2 หุ้นส่วน ถ้าเราไม่ได้มองความชอบของตัวเอง แต่เรากำลังมองโปรดักต์ว่าแบรนด์เราจะพาไปทางไหน เรากำลังมองว่าสิ่งที่เราต้องการให้กับแบรนด์ของเราคืออะไร เราจะไม่ทะเลาะกัน"

แบบนี้มองถึงการใช้ชีวิตคู่กันไหม?
"มันก็มีอยู่แล้วครับ คือผมก็จริงจังอยู่แล้ว ไม่เคยคบใครไม่จริงจัง แต่กับลี่เรามองเห็นอนาคต และเราก็มองว่าเราอยากจะสร้างตรงนี้ แต่ทั้งหมดที่เราเคยมีความสัมพันธ์มา รู้สึกว่ากับลี่เราสามารถที่จะคุยเรื่องนี้ได้เต็มที่ แล้วเราสามารถที่จะปรับเข้าหากันได้จริงๆ

พอมันมีอย่างนี้ปุ๊บ แน่นอนเราก็อยากจะมองอนาคตกับสิ่งที่จะทำร่วมกัน แต่ท้ายสุดแล้วอนาคตก็คือเรื่องของอนาคต สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือทำวันนี้ให้ดีที่สุดในทุกๆ อย่างที่เราทำด้วยกัน แล้วอนาคตมันก็จะดีเอง ทุกอย่างมันใช้เวลาหมดครับ"

ถ้าธุรกิจไปได้สวยก็เริ่มมองถึงการมีครอบครัว?
"โอ้...อันนั้นแล้วแต่ลี่ครับ คือน้องเขายังอายุน้อยอยู่ เขากำลังจะเรียนจบด้วย กำลังจะรับปริญญาตรีสิ้นปีนี้ครับ ฝากด้วยครับ (ยิ้ม) จริงๆ ภูมิใจแทนเขาเพราะเขาตั้งใจมาตลอด เขาก็อยากใช้ชีวิตแบบทำงานอยู่ อยากเรียนต่อโน่นนี่นั่นเสริม ทำธุรกิจของตัวเอง อยากท่องเที่ยว เขามีแพลนหลายอย่างที่อยากทำ

เราก็ไม่อยากเป็นตัวบล็อกเขา เราไม่เคยกดดัน ไม่เคยมาเร่งเขาในมุมนี้เพราะต่างคนต่างมีสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เราก็ให้เกียรติตรงนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่มันพร้อมก็คือเมื่อนั้น เมื่อไหร่ที่ต่างคนต่างรู้สึกว่าเรามานั่งคุยเรื่องนี้จริงจังไหมก็คือเมื่อนั้นครับ แต่ก่อนหน้านั้นเราก็ใช้ชีวิตให้เต็มที่ เขาอยากทำอะไรก็ทำ เราก็มีแพลนของเราที่อยากทำหลายอย่าง ดูแลครอบครัวให้เต็มที่ ทำให้มันจบแล้วเราค่อยวางแพลนกัน".